Real Profilo

Profhilo: รายละเอียดเชิงลึก คุณสมบัติ และกลไกการทำงาน

Real Profilo เป็นผลิตภัณฑ์ฉีดบำรุงผิวที่อยู่ในกลุ่มของ Bio-Remodeling Injectable ซึ่งช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน ไม่ใช่ฟิลเลอร์หรือเมโส แต่เป็น Hyaluronic Acid (HA) ความเข้มข้นสูง ที่ถูกออกแบบมาให้กระจายตัวได้ดีและช่วยกระตุ้นฟื้นฟูกระบวนการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินของผิว ในระดับลึกกว่าปกติ ไม่ใช่แค่ให้ความชุ่มชื้น แต่ยังช่วยเสริมโครงสร้างผิว ฟื้นฟูความยืดหยุ่น และทำให้ผิวแน่นขึ้น

Real Profilo มี ไฮยาลูโรนิกแอซิดเข้มข้น 64 มก. ใน 2 ซีซี ซึ่งสูงกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป และมาในรูปแบบ Hybrid Cooperative Complex (HCC) ที่รวมโมเลกุล HA สายสั้นและสายยาวเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้คงตัวในชั้นผิวได้นาน และกระตุ้นการฟื้นฟูผิวได้ดีกว่า HA แบบปกติ


1. Profhilo คืออะไร
Profhilo เป็นผลิตภัณฑ์จาก IBSA (Institute Biochimique SA) ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและผลิต HA ระดับโลก
เป็น Bio-remodeling HA ที่แตกต่างจาก HA ทั่วไปที่ใช้เติมเต็ม (Filler) หรือให้ความชุ่มชื้น (Skin Booster)
Real Profilo มี ไฮยาลูโรนิกแอซิดเข้มข้น 64 มก. ใน 2 ซีซี ซึ่งสูงกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป และมาในรูปแบบ Hybrid Cooperative Complex (HCC) ที่รวมโมเลกุล HA สายสั้นและสายยาวเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้คงตัวในชั้นผิวได้นาน และกระตุ้นการฟื้นฟูผิวได้ดีกว่า HA แบบปกติ
ไม่มีสารเติมแต่ง (BDDE-free) ทำให้ปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อการแพ้
Profhilo ไม่ใช่ฟิลเลอร์ ไม่ใช่ Skin Booster ทั่วไป แต่เป็นการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินแบบธรรมชาติ


2. คุณสมบัติหลักของ Profhilo
2.1 เทคโนโลยี NAHYCO® – ไฮยาลูรอนิกแอซิด 2 โมเลกุลในหนึ่งเดียว
Profhilo ใช้ NAHYCO® Hybrid Technology ซึ่งเป็นการรวม HA โมเลกุลสูง (H-HA) และ HA โมเลกุลต่ำ (L-HA) ในสูตรเดียว
HA โมเลกุลต่ำ (L-HA, 32 mg/ml) ซึมเข้าสู่ผิวชั้นลึกเพื่อให้ความชุ่มชื้น กระตุ้นการทำงานของ Fibroblast และ Keratinocyte ทำให้ผิวฟื้นฟูไวขึ้น
HA โมเลกุลสูง (H-HA, 32 mg/ml) สร้างโครงสร้างรองรับผิว เพิ่มความแน่นของผิว กระตุ้นคอลลาเจน Type I และ III และอีลาสติน
ผลลัพธ์คือผิวได้รับการเติมน้ำจากภายใน พร้อมฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรง

2.2 กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน (Bioremodeling Effect)
Profhilo ไม่ได้แค่เติมน้ำให้ผิว แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินโดยตรง
กระตุ้น Collagen Type I & III ช่วยให้ผิวแน่นขึ้น ลดริ้วรอยและร่องลึก
กระตุ้น Elastin เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ลดความหย่อนคล้อย
ผลลัพธ์คือผิวเต่งตึง ยืดหยุ่นมากขึ้น ดูสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

2.3 อยู่ได้นานกว่าสกินบูสเตอร์ทั่วไป
HA ทั่วไปใน Skin Booster จะถูกย่อยสลายภายใน 1 เดือน แต่ Profhilo อยู่ได้นานถึง 6-9 เดือน เพราะโครงสร้าง Hybrid HA ทำให้ย่อยสลายช้ากว่า
2.4 ปลอดภัยสูง ไม่มีสารเคมีตกค้าง (BDDE-Free & Thermal Crosslinking)
ฟิลเลอร์หรือสกินบูสเตอร์ทั่วไปมักใช้ BDDE (1,4-Butanediol diglycidyl ether) เพื่อเชื่อมโมเลกุลให้ HA อยู่ได้นานขึ้น แต่ BDDE อาจทำให้เกิดอาการแพ้ในบางคน
Profhilo ใช้ Thermal Crosslinking แทน BDDE ทำให้โครงสร้าง HA คงตัวได้นาน โดยไม่ต้องใช้สารเคมีตกค้าง
 
3. กลไกการทำงานของ Real Profilo
Real Profilo ไม่ได้ทำงานเหมือนฟิลเลอร์ที่เพิ่มปริมาตรให้ผิว แต่ทำงานผ่าน 2 กระบวนการหลัก ได้แก่
3.1. Hydration Effect (เติมน้ำให้ผิว)
HA สายสั้นช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิวทันที ทำให้ผิวดูฉ่ำน้ำและมีความยืดหยุ่น
ช่วยลดความแห้งกร้านและทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้น

3.2. Bio-Remodeling Effect (กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน)
HA สายยาวช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I, III และ IV และอิลาสตินในผิว
ช่วยให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ผิวแน่นขึ้น และลดความหย่อนคล้อย
ช่วยกระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์ ทำให้เซลล์ผิวสามารถสร้างสาร ECM (Extracellular Matrix) ได้ดีขึ้น
Real Profilo กระจายตัวได้กว้างและซึมลึกลงไปในผิว โดยไม่จับตัวเป็นก้อน จึงไม่ต้องฉีดหลายจุดเหมือนฟิลเลอร์
 
 
4. Real Profilo ช่วยอะไรบ้าง?
1. ให้ความชุ่มชื้นลึกระดับเซลล์ผิว – ฟื้นฟูผิวแห้ง ขาดน้ำ ให้กลับมาอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว
2. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน – ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึงขึ้นโดยไม่ต้องเติมวอลุ่มแบบฟิลเลอร์
3. ปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้น – ผิวแน่นขึ้น ดูสุขภาพดีขึ้น ลดริ้วรอยตื้นๆ
4. ลดความหย่อนคล้อยของผิว – เหมาะกับผิวที่เริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น
5. ปรับสมดุลของเซลล์ผิว – ช่วยให้เซลล์ผิวทำงานได้ดีขึ้น ลดปัญหาผิวเสื่อมโทรมจากวัย
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้นแบบธรรมชาติ
ช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากการอักเสบของผิว

 
Profhilo กับการรักษาหลุมสิว
หลุมสิวเกิดจากคอลลาเจนที่ถูกทำลาย การรักษาที่ดีต้องกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่
หลังทำเลเซอร์ RF Microneedling หรือ Subcision Profhilo ช่วยเติมความชุ่มชื้นและเร่งการฟื้นตัวของผิว
Profhilo ช่วยให้ Fibroblast ทำงานได้ดีขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมากขึ้น
ทำให้พื้นผิวเรียบขึ้น และลดลักษณะคลื่นๆ ของผิว
เมื่อใช้ Profhilo ควบคู่กับการรักษาหลุมสิว จะเห็นผลเร็วขึ้น ผิวดูเรียบเนียนขึ้นกว่าเดิม
 

Real Profilo เหมาะกับใคร?
ผู้ที่มี ผิวขาดน้ำ แห้งกร้าน ดูโทรม
ผู้ที่ต้องการ กระชับผิวโดยไม่ต้องเติมวอลุ่มแบบฟิลเลอร์
ผู้ที่มีริ้วรอยตื้นๆ และต้องการให้ผิวแน่นขึ้น
ผู้ที่ต้องการ ฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระดับเซลล์
ผู้ที่ต้องการดูแลผิวก่อนที่สัญญาณแห่งวัยจะชัดเจนขึ้น
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะ วัย 30-50 ปี ที่เริ่มมีปัญหาผิวเสื่อมโทรมและขาดความกระชับ


Profhilo เห็นผลเมื่อไหร่ และอยู่ได้นานแค่ไหน
เริ่มเห็นผลใน 7-14 วัน ผิวชุ่มชื้นขึ้น ดูใสขึ้น
1 เดือนขึ้นไป ผิวเริ่มดูอิ่มฟู ริ้วรอยลดลง
3-6 เดือน ผิวกระชับขึ้น หลุมสิวดูตื้นขึ้น
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-9 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน

Profhilo ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
ใบหน้า: ทั่วใบหน้า หน้าผาก แก้ม ใต้ตา คาง
ลำคอ: ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของคอ
มือ: เพิ่มความชุ่มชื้น ลดความเหี่ยวย่น
แขนและหน้าท้อง: ช่วยให้ผิวตึงขึ้น

---

ก่อนฉีด Real Profilo ควรเตรียมตัวอย่างไร?
หลีกเลี่ยงยาและอาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน, วิตามิน E, น้ำมันปลา 3-5 วันก่อนฉีด
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนทำ

หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาประจำ ควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีด
หลังฉีด Real Profilo ต้องดูแลอย่างไร?
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดนวดบริเวณที่ฉีดใน 24 ชั่วโมงแรก
งดแต่งหน้าหรือทาครีมที่มีสารระคายเคือง 24 ชั่วโมง
หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือออกกำลังกหนักๆ 48 ชั่วโมง
ดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อช่วยให้ HA ทำงานได้เต็มที่

ระยะเวลาเห็นผลของ Profhilo
⏳ 7-14 วันแรก → ผิวเริ่มชุ่มชื้นขึ้น ดูอิ่มน้ำขึ้น
⏳ 4 สัปดาห์ → กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวแน่นขึ้น
⏳ 8 สัปดาห์ → ผิวดูเฟิร์มขึ้น ริ้วรอยตื้นลง หลุมสิวตื้นบางประเภทดูเรียบขึ้น
⏳ 6-9 เดือน → ผลลัพธ์ยังคงอยู่ ก่อนเริ่มสลายไปตามธรรมชาติ
✅ แนะนำให้ฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน จากนั้นฉีดซ้ำทุก 6 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์
 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Real Profilo
Q: Real Profilo ต่างจากฟิลเลอร์หรือเมโสอย่างไร?
A: Real Profilo ไม่ใช่ฟิลเลอร์ เพราะไม่ได้เติมปริมาตรให้ผิว และไม่ใช่เมโสเพราะมีโมเลกุล HA ที่คงตัวในผิวได้นานกว่า

Q: ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
A: แนะนำฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน และสามารถฉีดซ้ำได้ทุก 6 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์

Q: Real Profilo ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง?
A: นอกจากใบหน้า ยังสามารถฉีดบริเวณ ลำคอ หลังมือ ท้องแขน เพื่อกระชับผิวได้

Q: ฉีด Real Profilo แล้วหน้าบวมไหม?
A: อาจมีอาการบวมเล็กน้อยบริเวณจุดฉีดใน 1-2 วันแรก แต่จะยุบไปเองโดยไม่ต้องกดหรือนวด

สรุป
Real Profilo เป็นตัวช่วยฟื้นฟูผิวลึกถึงระดับโครงสร้าง ด้วยเทคโนโลยี Bio-Remodeling ที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น และกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวโดยไม่ต้องเติมวอลุ่มแบบฟิลเลอร์ และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยต้องฉีด 2 ครั้งห่างกัน 1 เดือน แล้วฉีดซ้ำทุก 6 เดือนเพื่อคงผลลัพธ์

ประวัติและการพัฒนาของ Profhilo
Profhilo เปิดตัวครั้งแรกใน ปี 2015 โดยบริษัท IBSA (Institute Biochimique SA) ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้าน ไฮยาลูโรนิกแอซิด (HA) และเวชสำอางระดับโลก
จุดเด่นของ Profhilo คือการใช้เทคโนโลยี NAHYCO® Hybrid Technology ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของ IBSA ช่วยให้ได้ HA ความเข้มข้นสูง (64 มก./2 ซีซี) ที่สามารถกระจายตัวได้ดีและอยู่ในผิวได้นานกว่าปกติ โดยไม่ต้องใช้สารเคมีช่วยยึดเกาะ (Cross-Linking Agents) เหมือนฟิลเลอร์ HA ทั่วไป

Profhilo เป็นที่นิยมที่ไหนบ้าง?
Profhilo เป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะใน ยุโรป สหราชอาณาจักร เอเชีย และตะวันออกกลาง ปัจจุบันมีการใช้ในมากกว่า 80 ประเทศ และได้รับความนิยมสูงในกลุ่ม
✅ คลินิกความงามระดับไฮเอนด์ในยุโรปและเอเชีย
✅ แพทย์ผิวหนังที่เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูโครงสร้างผิว
✅ ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบธรรมชาติ ไม่ต้องการเพิ่มปริมาตรเหมือนฟิลเลอร์

งานวิจัยรองรับและความปลอดภัยของ Profhilo
1. งานวิจัยเกี่ยวกับกลไกการทำงานของ Profhilo
✅ งานวิจัยจาก Clinical, Cosmetic and Investigational Dermatology (2016) พบว่า Profhilo สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I, III และ IV ได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงช่วยฟื้นฟูเซลล์ไฟโบรบลาสต์และ ECM (Extracellular Matrix)
✅ งานวิจัยจาก Journal of Cosmetic Dermatology (2019) รายงานว่า Profhilo ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวได้ยาวนานถึง 6 เดือน และช่วยให้ผิวแน่นขึ้นโดยไม่ทำให้เกิดก้อนแข็งหรือการอักเสบ

ความปลอดภัยของ Profhilo
✅ ผ่านมาตรฐาน CE Mark (ยุโรป) และ US FDA
✅ เป็น สารบริสุทธิ์ 100% ไม่มีสารเคมีตกค้าง เช่น BDDE ที่ใช้ในฟิลเลอร์
✅ ไม่จับตัวเป็นก้อน ไม่อุดตันหลอดเลือด
✅ สลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้างในร่างกาย

Profhilo ช่วยหลุมสิวได้อย่างไร?
Profhilo เป็น Hyaluronic Acid (HA) ความเข้มข้นสูงที่ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในโดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการซ่อมแซมผิวที่มีหลุมสิว แต่ Profhilo ไม่ใช่การรักษาหลุมสิวโดยตรงเหมือนฟิลเลอร์หรือเลเซอร์ มันทำงานผ่านกลไก Bio-Remodeling ที่ช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวม ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นได้ในบางกรณี โดยเฉพาะในคนที่มี ผิวบาง ขาดน้ำ และเสื่อมโทรม

กลไกของ Profhilo ต่อการฟื้นฟูหลุมสิว
1. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน (Neocollagenesis & Neoelastogenesis)
Profhilo กระตุ้นการสร้าง Collagen Type I และ III ซึ่งเป็นคอลลาเจนหลักที่ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว ทำให้ผิวแน่นขึ้น
กระตุ้น Elastin และ Fibroblasts ในชั้นหนังแท้ ทำให้ผิวยืดหยุ่นและแน่นขึ้น ช่วยให้ผิวบริเวณที่เป็นหลุมสิวดูเรียบเนียนขึ้น

2. กระจายตัวทั่วผิวหนัง ช่วยให้ผิวฟูขึ้นโดยธรรมชาติ
Profhilo ไม่เป็นก้อนเหมือนฟิลเลอร์ แต่กระจายตัวทั่วใบหน้า ทำให้ พื้นผิวโดยรวมดูแน่นขึ้นและเรียบเนียนขึ้น
ช่วยลดลักษณะของ "ผิวขรุขระ" ที่มักพบในผู้ที่มีหลุมสิว


3. เติมความชุ่มชื้นลึกระดับเซลล์ผิว (Deep Hydration & Skin Remodeling)
หลุมสิวมักเห็นชัดขึ้นในผิวที่ แห้ง ขาดน้ำ หรือมีปัญหาผิวเสื่อมโทรม
Profhilo เติมน้ำให้ผิว ทำให้ ผิวอิ่มฟูจากภายใน และช่วยลดการมองเห็นของหลุมสิวตื้นๆ


4. ปรับสมดุลของ Extracellular Matrix (ECM) ในชั้นหนังแท้
ECM เป็นโครงสร้างที่ช่วยให้ผิวมีความแน่นและเรียบเนียน
Profhilo ช่วย ฟื้นฟู ECM ที่เสียหายจากรอยหลุมสิว ทำให้พื้นผิวโดยรวมดูดีขึ้น


Profhilo เหมาะกับหลุมสิวประเภทไหน?
หลุมสิวตื้น (Shallow Atrophic Scars, Rolling Scars) – ได้ผลดี เพราะ Profhilo เติมความชุ่มชื้นและกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเต็มขึ้น
ผิวที่ขาดน้ำ ผิวบาง ผิวที่มี Texture ไม่เรียบเนียน – Profhilo ช่วยฟื้นฟูและให้ผิวแน่นขึ้น
 

noหลุมสิวลึกแบบ Ice Pick หรือ Boxcar Scars – ไม่ใช่ตัวเลือกหลัก เพราะต้องการเทคนิคที่กระตุ้นคอลลาเจนได้ลึกกว่า เช่น Real Scar Synergy, Juvgen, Sculptra, ฟิลเลอร์ หรือเลเซอร์แบบ Ablative

ควรใช้ Profhilo ควบคู่กับอะไรเพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด?
Profhilo ไม่ใช่การรักษาหลุมสิวโดยตรง แต่สามารถใช้ร่วมกับเทคนิคอื่นเพื่อเสริมประสิทธิภาพ
1. Real Scar Synergy (RSS) – ใช้เทคนิค Subcision, พลังงาน, Growth Factor และ Exosome เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน แล้วฉีด Profhilo เสริมให้ผิวแน่นขึ้น
2. Juvgen – กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเชิงลึกโดยเฉพาะในหลุมสิว แล้วใช้ Profhilo เสริมให้ผิวโดยรวมแข็งแรงขึ้น
3. Sculptra หรือ Exosomes – กระตุ้นคอลลาเจนลึกขึ้น แล้วใช้ Profhilo ฟื้นฟูผิวโดยรวม
4. Fractional Laser (เช่น CO2, Erbium YAG) – กระตุ้นการสร้างผิวใหม่ แล้วใช้ Profhilo ลดการสูญเสียน้ำและเพิ่มความยืดหยุ่น
5. ฟิลเลอร์หลุมสิว – เติมเฉพาะจุดให้เต็มขึ้น แล้วใช้ Profhilo ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นโดยรวม

สรุป: Profhilo กับหลุมสิว
Profhilo ไม่ได้เติมเต็มหลุมสิวโดยตรง แต่ช่วยปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้น
ช่วยกระตุ้น คอลลาเจน อิลาสติน และ ECM ทำให้ผิวแน่นขึ้น หลุมสิวตื้นขึ้น
เหมาะกับ ผู้ที่มีผิวบาง ขาดน้ำ หรือมีหลุมสิวตื้น
ควรใช้ร่วมกับ Real Scar Synergy, Juvgen, Sculptra, ฟิลเลอร์ หรือเลเซอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 

ทำไมคนไข้ที่รักษาหลุมสิวควรทำ Profhilo?
การรักษาหลุมสิวไม่ใช่แค่กระตุ้นคอลลาเจนหรือเลเซอร์เพียงอย่างเดียว Profhilo เป็นตัวช่วยที่ทำให้ผิวฟื้นตัวไวขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น และลดโอกาสเกิดปัญหาผิวหลังทำหัตถการ

1. ฟื้นฟูผิวได้เร็วขึ้น เห็นผลไวขึ้น
 หลังทำเลเซอร์, RF Microneedling, Subcision ผิวต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวและสร้างคอลลาเจน
 Profhilo  กระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ ทำให้ผิวสมานตัวเร็วขึ้น
ผลลัพธ์: ผิวเรียบไวขึ้น ลดเวลาพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ของการรักษาหลุมสิวเร็วกว่าเดิม

2. ลดโอกาสเกิดผิวแห้ง ลอก และเป็นขุยหลังทำหัตถการ
 การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ หรือ RF ทำให้ผิวแห้งและสูญเสียความชุ่มชื้น
 Profhilo  เติมน้ำให้ผิวลึกถึงระดับเซลล์ ลดการสูญเสียน้ำของผิว
ผลลัพธ์: ผิวฟื้นตัวดี ไม่แห้ง ไม่เป็นขุย ลดความเสี่ยงของรอยดำหลังทำหัตถการ

3. เสริมการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวเนียนขึ้นกว่าเดิม

หลุมสิวเกิดจากคอลลาเจนที่เสียหาย → ต้องกระตุ้นให้เกิดคอลลาเจนใหม่
 Profhilo → กระตุ้นคอลลาเจน Type I และ III ทำให้เนื้อผิวแน่นและเรียบขึ้น
 เสริมผลลัพธ์จากเลเซอร์, RF, และ Sculptra ให้ดียิ่งขึ้น

 ผลลัพธ์: ผิวไม่เพียงแต่ตื้นขึ้น แต่ยังมีความยืดหยุ่นและเรียบเนียนขึ้นกว่าเดิม


4. ผิวสุขภาพดีขึ้น ลดรอยแดงและการอักเสบ
หลังทำหัตถการ หลายคนมีปัญหาผิวแดง อักเสบ หรือไวต่อการระคายเคือง
Profhilo → ช่วยลดการอักเสบและฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้นจากภายใน

ผลลัพธ์: ผิวดูสุขภาพดี ลดรอยแดง ลดอาการแสบหลังทำหัตถการ


5. ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ และช่วยให้หลุมสิวหายไวขึ้น
 Profhilo ไม่ได้แค่เติมน้ำ แต่ช่วยให้เซลล์ผิวทำงานดีขึ้น
เมื่อใช้ร่วมกับการรักษาหลุมสิว → ช่วยให้ผิวที่สร้างใหม่แข็งแรงขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนกว่า

ผลลัพธ์: หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวแข็งแรงขึ้น และดูเรียบเนียนแบบเป็นธรรมชาติ


สรุป ทำไมคนไข้ที่รักษาหลุมสิวควรทำ Profhilo?
 ฟื้นฟูผิวไวขึ้น ลดเวลาพักฟื้น เห็นผลเร็วขึ้น
 ลดปัญหาผิวแห้งลอกหลังหัตถการ ผิวชุ่มชื้น สมานตัวดีขึ้น
กระตุ้นคอลลาเจนเสริมผลลัพธ์จากการรักษาหลุมสิว ผิวเรียบเนียนกว่าเดิม
 ลดการอักเสบ ลดรอยแดงหลังทำหัตถการ
 ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ผิวแข็งแรงและเนียนละเอียดขึ้น

ถ้าต้องการให้การรักษาหลุมสิวได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรทำ Profhilo ควบคู่ไปด้วย 

 

เปรียบเทียบ Profhilo กับ Sculptra – แตกต่างกันอย่างไร?
Profhilo และ Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ฟื้นฟูโครงสร้างผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่มีความแตกต่างกันอย่างมากใน ส่วนประกอบหลัก, กลไกการทำงาน, ระยะเวลาเห็นผล และการนำไปใช้
1. ส่วนประกอบหลัก
 Profhilo: Hyaluronic Acid (HA) บริสุทธิ์ 100%
ใช้เทคโนโลยี NAHYCO® Hybrid Technology ทำให้ HA มีความเข้มข้นสูง (64 mg/2 cc)
ไม่มีสาร Cross-linking หรือสารเติมแต่งอื่น ๆ
กระจายตัวได้ดี ไม่เป็นก้อน และไม่อุดตันหลอดเลือด

 Sculptra: Poly-L-Lactic Acid (PLLA)
เป็นสารที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนเอง (Biostimulator)
ไม่ใช่สารเติมเต็มโดยตรง แต่กระตุ้นไฟโบรบลาสต์ให้ผลิตคอลลาเจน
ต้องมีการผสมน้ำเกลือก่อนฉีด และต้องกระจายยาอย่างถูกต้อง

2. กลไกการทำงาน
 Profhilo  Bio-Remodeling
เติมน้ำให้ผิวลึกระดับเซลล์ (Deep Hydration)
กระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน Type I และ III ช่วยให้ผิวแน่นขึ้น
กระจายตัวทั่วใบหน้าและชั้นหนังแท้ ช่วยให้ผิวอิ่มฟูและมีความยืดหยุ่น
ไม่เติมเต็มปริมาตรแบบฟิลเลอร์ แต่ช่วยปรับคุณภาพผิวโดยรวม

 Sculptra  Collagen Biostimulation
PLLA กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนเอง (Neocollagenesis)
กระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน Type I และ II ในระยะยาว
ให้ผลลัพธ์ที่ค่อย ๆ เห็นชัดขึ้นภายใน 3-6 เดือน
สามารถช่วยเติมเต็มใบหน้าแบบธรรมชาติ โดยใช้ปริมาณที่เหมาะสม

3. ระยะเวลาเห็นผล
 Profhilo
เริ่มเห็นผลภายใน 7-14 วัน หลังฉีด
ให้ผลลัพธ์สูงสุดใน 4-8 สัปดาห์
คงอยู่ได้นาน 6-9 เดือน ก่อนค่อย ๆ สลายไป


Sculptra
เริ่มเห็นผล ภายใน 6-8 สัปดาห์ หลังฉีด
สร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และให้ผลลัพธ์สูงสุดใน 3-6 เดือน
คงอยู่ได้นาน 2-3 ปี แต่ต้องฉีดซ้ำ 2-3 ครั้งในช่วงแรก


4. เหมาะกับใคร?
 Profhilo เหมาะกับ:
 คนที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพผิว ให้ดูอิ่มน้ำ สุขภาพดี
 ผิวแห้ง ผิวบาง มีริ้วรอยเล็ก ๆ และความหย่อนคล้อยเล็กน้อย
 คนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และไม่ต้องการเติมวอลุ่มมาก
 เหมาะกับการใช้ควบคู่กับการรักษาหลุมสิว เช่น Real Scar Synergy

 Sculptra เหมาะกับ:
 คนที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
 คนที่มีใบหน้าตอบ มีการสูญเสียไขมัน และต้องการเติมเต็มโครงสร้างผิว
 ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูใบหน้าในเชิงลึก และไม่ต้องการฟิลเลอร์ที่อยู่ไม่นาน
 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวลึก ควบคู่กับเทคนิคอื่น ๆ

5. วิธีฉีด และตำแหน่งที่ฉีด
Profhilo
ฉีดที่จุดสำคัญ 5 จุดต่อข้าง (BAP technique) เพื่อกระจาย HA ให้ทั่วใบหน้า
ฉีดตื้นในชั้นหนังแท้เพื่อให้สารกระจายตัว
ไม่มีการนวดหลังฉีด


Sculptra
ฉีดลึกถึงชั้น ใต้ผิวหนัง (Subcutaneous layer) หรือ SMAS
ต้องมีการนวดหลังฉีด (Rule of 5: นวด 5 นาที วันละ 5 ครั้ง ต่อเนื่อง 5 วัน)
ฉีดในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้กระตุ้นคอลลาเจนโดยไม่ทำให้เกิดก้อน

7. การใช้ร่วมกับการรักษาหลุมสิว
Profhilo
เหมาะกับผู้ที่มี หลุมสิวตื้น (Shallow Rolling Scars) และผิวขาดน้ำ
ใช้ร่วมกับ Real Scar Synergy (RSS), Juvgen, Sculptra หรือเลเซอร์ เพื่อให้ผลลัพธ์ดีขึ้น
ไม่สามารถเติมเต็มหลุมสิวโดยตรง แต่ช่วยให้ผิวแน่นขึ้น


Sculptra
เหมาะกับผู้ที่มี หลุมสิวลึก (Deep Boxcar/Ice Pick Scars) ที่ต้องการการกระตุ้นคอลลาเจนอย่างมาก
ใช้ร่วมกับ Subcision, ฟิลเลอร์หลุมสิว หรือเลเซอร์
ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า แต่ต้องใช้เวลารอผล


สรุป: Profhilo vs. Sculptra ต่างกันอย่างไร?
ถ้าต้องการให้ผิวดูสดใส ชุ่มชื้น ดูเด็กขึ้น เลือก Profhilo

ถ้าต้องการกระตุ้นคอลลาเจนระยะยาว เติมเต็มใบหน้า → เลือก Sculptra

ถ้าต้องการรักษาหลุมสิวลึก  Sculptra เหมาะสมกว่า
แนะนำ: ใช้ Profhilo และ Sculptra ร่วมกัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในแง่ของการฟื้นฟูผิวและการสร้างคอลลาเจน!


ทำไมต้องใช้ Profhilo คู่กับ Sculptra?
การใช้ Profhilo และ Sculptra ร่วมกันเป็นการเสริมประสิทธิภาพการฟื้นฟูผิวอย่างครบวงจร เพราะทั้งสองตัวทำงานแตกต่างกันแต่ เสริมกันได้ดีมาก หากใช้ร่วมกันจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการใช้ตัวใดตัวหนึ่งเพียงอย่างเดียว

1. เสริมการสร้างคอลลาเจนให้ผิวแข็งแรงขึ้น
 Sculptra  กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนระยะยาว
Sculptra ทำหน้าที่เป็น Biostimulator กระตุ้นให้ร่างกายสร้าง คอลลาเจน Type I และ II ใหม่
กระบวนการสร้างคอลลาเจนต้องใช้เวลา 3-6 เดือน ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ

 Profhilo  ให้ความชุ่มชื้นและกระตุ้นคอลลาเจน Type I & III
Profhilo มี Hyaluronic Acid (HA) บริสุทธิ์ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิวทันที
กระตุ้น คอลลาเจน Type I และ III ซึ่งช่วยเสริมโครงสร้างผิว

 ใช้ร่วมกัน = สร้างคอลลาเจนทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ผิวแน่นขึ้น แข็งแรงขึ้น และสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ


2. ฟื้นฟูผิวได้รอบด้าน – ทั้งคุณภาพผิวและโครงสร้างผิว
Profhilo  ฟื้นฟูคุณภาพผิว: ให้ผิวอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว ลดความหย่อนคล้อย
Sculptra ฟื้นฟูโครงสร้างผิว: เพิ่มความหนาแน่นของผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น
Profhilo เติมเต็มจากภายใน – Sculptra กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่  ผิวที่ได้จะดูอิ่มฟูและยกกระชับขึ้น


3. เร่งผลลัพธ์ให้เห็นเร็วขึ้น
 Sculptra ใช้เวลา 3-6 เดือนกว่าจะเห็นผลเต็มที่
 Profhilo ช่วยเติมเต็มช่วงเวลาที่ต้องรอผลของ Sculptra โดยให้ความชุ่มชื้นทันที (7-14 วันเห็นผล)

 ฉีด Sculptra อย่างเดียว  ต้องรอนาน
 ฉีด Profhilo ร่วมด้วย  ผิวดีขึ้นไวขึ้น พร้อมรอให้ Sculptra ทำงาน


---

4. ลดความเสี่ยงจาก Sculptra และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

 ปัญหาของ Sculptra คือ หากผิวขาดน้ำ อาจกระจายตัวยาไม่ดี และเกิดก้อนแข็ง (Nodule Formation)
 Profhilo ช่วยให้ผิวอุ้มน้ำดีขึ้น ทำให้ Sculptra กระจายตัวได้สม่ำเสมอ ลดโอกาสเกิดก้อน

 สรุป: Profhilo ช่วยปรับสมดุลความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ Sculptra ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

5. เหมาะกับการรักษาหลุมสิวลึกและปัญหาผิวที่ซับซ้อน
 สำหรับคนที่มีหลุมสิวลึก:
Sculptra  กระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ให้เนื้อผิวฟูขึ้น
Profhilo  เติมน้ำให้ผิวและทำให้ผิวนุ่มขึ้น ช่วยลดลักษณะเป็นคลื่นของหลุมสิว

 สำหรับคนที่มีริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย:
Sculptra  ฟื้นฟูโครงสร้างผิว ให้ผิวแข็งแรงและกระชับขึ้น
Profhilo  ให้ความชุ่มชื้น ทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น

6. อยู่ได้นานขึ้นและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
 Profhilo อยู่ได้ 6-9 เดือน
 Sculptra อยู่ได้ 2-3 ปี
 ใช้ร่วมกัน = ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า ดูเป็นธรรมชาติ และไม่ดูแข็งหรือบวมเกินไป


แนะนำวิธีใช้ Profhilo คู่กับ Sculptra ให้ได้ผลดีที่สุด
 Step 1: ฉีด Profhilo ก่อน 1-2 สัปดาห์ เพื่อเติมน้ำให้ผิวและปรับสมดุลผิว
 Step 2: ฉีด Sculptra เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและเสริมโครงสร้างผิว
 Step 3: ฉีด Profhilo ซ้ำอีกครั้งหลัง 1 เดือน เพื่อคงความชุ่มชื้นและเร่งการฟื้นฟูผิว


สรุป – ทำไมต้องใช้ Profhilo คู่กับ Sculptra?
 ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมกว่า – ทั้งความชุ่มชื้นและโครงสร้างผิว
 เห็นผลเร็วขึ้น – ไม่ต้องรอ 3-6 เดือนเพื่อให้ Sculptra ทำงาน
ลดความเสี่ยงของ Sculptra – ทำให้ตัวยากระจายตัวดีขึ้น
 รักษาหลุมสิวได้ดีกว่า – ทั้งฟื้นฟูผิวและเพิ่มความแน่นของเนื้อผิว
 ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น – ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่เป็นก้อน

ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ใช้ Profhilo และ Sculptra คู่กัน 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้