ประวัติและการพัฒนาของ Profhilo
Profhilo เปิดตัวครั้งแรกใน ปี 2015 โดยบริษัท IBSA (Institute Biochimique SA) ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้าน ไฮยาลูโรนิกแอซิด (HA) และเวชสำอางระดับโลก
จุดเด่นของ Profhilo คือการใช้เทคโนโลยี NAHYCO® Hybrid Technology ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของ IBSA ช่วยให้ได้ HA ความเข้มข้นสูง (64 มก./2 ซีซี) ที่สามารถกระจายตัวได้ดีและอยู่ในผิวได้นานกว่าปกติ โดยไม่ต้องใช้สารเคมีช่วยยึดเกาะ (Cross-Linking Agents) เหมือนฟิลเลอร์ HA ทั่วไป
Profhilo เป็นที่นิยมที่ไหนบ้าง?
Profhilo เป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะใน ยุโรป สหราชอาณาจักร เอเชีย และตะวันออกกลาง ปัจจุบันมีการใช้ในมากกว่า 80 ประเทศ และได้รับความนิยมสูงในกลุ่ม
✅ คลินิกความงามระดับไฮเอนด์ในยุโรปและเอเชีย
✅ แพทย์ผิวหนังที่เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูโครงสร้างผิว
✅ ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบธรรมชาติ ไม่ต้องการเพิ่มปริมาตรเหมือนฟิลเลอร์
งานวิจัยรองรับและความปลอดภัยของ Profhilo
1. งานวิจัยเกี่ยวกับกลไกการทำงานของ Profhilo
✅ งานวิจัยจาก Clinical, Cosmetic and Investigational Dermatology (2016) พบว่า Profhilo สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I, III และ IV ได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงช่วยฟื้นฟูเซลล์ไฟโบรบลาสต์และ ECM (Extracellular Matrix)
✅ งานวิจัยจาก Journal of Cosmetic Dermatology (2019) รายงานว่า Profhilo ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวได้ยาวนานถึง 6 เดือน และช่วยให้ผิวแน่นขึ้นโดยไม่ทำให้เกิดก้อนแข็งหรือการอักเสบ
ความปลอดภัยของ Profhilo
✅ ผ่านมาตรฐาน CE Mark (ยุโรป) และ US FDA
✅ เป็น สารบริสุทธิ์ 100% ไม่มีสารเคมีตกค้าง เช่น BDDE ที่ใช้ในฟิลเลอร์
✅ ไม่จับตัวเป็นก้อน ไม่อุดตันหลอดเลือด
✅ สลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
Profhilo ช่วยหลุมสิวได้อย่างไร?
Profhilo เป็น Hyaluronic Acid (HA) ความเข้มข้นสูงที่ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในโดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการซ่อมแซมผิวที่มีหลุมสิว แต่ Profhilo ไม่ใช่การรักษาหลุมสิวโดยตรงเหมือนฟิลเลอร์หรือเลเซอร์ มันทำงานผ่านกลไก Bio-Remodeling ที่ช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวม ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นได้ในบางกรณี โดยเฉพาะในคนที่มี ผิวบาง ขาดน้ำ และเสื่อมโทรม
กลไกของ Profhilo ต่อการฟื้นฟูหลุมสิว
1. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน (Neocollagenesis & Neoelastogenesis)
Profhilo กระตุ้นการสร้าง Collagen Type I และ III ซึ่งเป็นคอลลาเจนหลักที่ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว ทำให้ผิวแน่นขึ้น
กระตุ้น Elastin และ Fibroblasts ในชั้นหนังแท้ ทำให้ผิวยืดหยุ่นและแน่นขึ้น ช่วยให้ผิวบริเวณที่เป็นหลุมสิวดูเรียบเนียนขึ้น
2. กระจายตัวทั่วผิวหนัง ช่วยให้ผิวฟูขึ้นโดยธรรมชาติ
Profhilo ไม่เป็นก้อนเหมือนฟิลเลอร์ แต่กระจายตัวทั่วใบหน้า ทำให้ พื้นผิวโดยรวมดูแน่นขึ้นและเรียบเนียนขึ้น
ช่วยลดลักษณะของ "ผิวขรุขระ" ที่มักพบในผู้ที่มีหลุมสิว
3. เติมความชุ่มชื้นลึกระดับเซลล์ผิว (Deep Hydration & Skin Remodeling)
หลุมสิวมักเห็นชัดขึ้นในผิวที่ แห้ง ขาดน้ำ หรือมีปัญหาผิวเสื่อมโทรม
Profhilo เติมน้ำให้ผิว ทำให้ ผิวอิ่มฟูจากภายใน และช่วยลดการมองเห็นของหลุมสิวตื้นๆ
4. ปรับสมดุลของ Extracellular Matrix (ECM) ในชั้นหนังแท้
ECM เป็นโครงสร้างที่ช่วยให้ผิวมีความแน่นและเรียบเนียน
Profhilo ช่วย ฟื้นฟู ECM ที่เสียหายจากรอยหลุมสิว ทำให้พื้นผิวโดยรวมดูดีขึ้น
Profhilo เหมาะกับหลุมสิวประเภทไหน?
หลุมสิวตื้น (Shallow Atrophic Scars, Rolling Scars) – ได้ผลดี เพราะ Profhilo เติมความชุ่มชื้นและกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเต็มขึ้น
ผิวที่ขาดน้ำ ผิวบาง ผิวที่มี Texture ไม่เรียบเนียน – Profhilo ช่วยฟื้นฟูและให้ผิวแน่นขึ้น
noหลุมสิวลึกแบบ Ice Pick หรือ Boxcar Scars – ไม่ใช่ตัวเลือกหลัก เพราะต้องการเทคนิคที่กระตุ้นคอลลาเจนได้ลึกกว่า เช่น Real Scar Synergy, Juvgen, Sculptra, ฟิลเลอร์ หรือเลเซอร์แบบ Ablative
ควรใช้ Profhilo ควบคู่กับอะไรเพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด?
Profhilo ไม่ใช่การรักษาหลุมสิวโดยตรง แต่สามารถใช้ร่วมกับเทคนิคอื่นเพื่อเสริมประสิทธิภาพ
1. Real Scar Synergy (RSS) – ใช้เทคนิค Subcision, พลังงาน, Growth Factor และ Exosome เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน แล้วฉีด Profhilo เสริมให้ผิวแน่นขึ้น
2. Juvgen – กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเชิงลึกโดยเฉพาะในหลุมสิว แล้วใช้ Profhilo เสริมให้ผิวโดยรวมแข็งแรงขึ้น
3. Sculptra หรือ Exosomes – กระตุ้นคอลลาเจนลึกขึ้น แล้วใช้ Profhilo ฟื้นฟูผิวโดยรวม
4. Fractional Laser (เช่น CO2, Erbium YAG) – กระตุ้นการสร้างผิวใหม่ แล้วใช้ Profhilo ลดการสูญเสียน้ำและเพิ่มความยืดหยุ่น
5. ฟิลเลอร์หลุมสิว – เติมเฉพาะจุดให้เต็มขึ้น แล้วใช้ Profhilo ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นโดยรวม
สรุป: Profhilo กับหลุมสิว
Profhilo ไม่ได้เติมเต็มหลุมสิวโดยตรง แต่ช่วยปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้น
ช่วยกระตุ้น คอลลาเจน อิลาสติน และ ECM ทำให้ผิวแน่นขึ้น หลุมสิวตื้นขึ้น
เหมาะกับ ผู้ที่มีผิวบาง ขาดน้ำ หรือมีหลุมสิวตื้น
ควรใช้ร่วมกับ Real Scar Synergy, Juvgen, Sculptra, ฟิลเลอร์ หรือเลเซอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ทำไมคนไข้ที่รักษาหลุมสิวควรทำ Profhilo?
การรักษาหลุมสิวไม่ใช่แค่กระตุ้นคอลลาเจนหรือเลเซอร์เพียงอย่างเดียว Profhilo เป็นตัวช่วยที่ทำให้ผิวฟื้นตัวไวขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น และลดโอกาสเกิดปัญหาผิวหลังทำหัตถการ
1. ฟื้นฟูผิวได้เร็วขึ้น เห็นผลไวขึ้น
หลังทำเลเซอร์, RF Microneedling, Subcision ผิวต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวและสร้างคอลลาเจน
Profhilo กระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ ทำให้ผิวสมานตัวเร็วขึ้น
ผลลัพธ์: ผิวเรียบไวขึ้น ลดเวลาพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ของการรักษาหลุมสิวเร็วกว่าเดิม
2. ลดโอกาสเกิดผิวแห้ง ลอก และเป็นขุยหลังทำหัตถการ
การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ หรือ RF ทำให้ผิวแห้งและสูญเสียความชุ่มชื้น
Profhilo เติมน้ำให้ผิวลึกถึงระดับเซลล์ ลดการสูญเสียน้ำของผิว
ผลลัพธ์: ผิวฟื้นตัวดี ไม่แห้ง ไม่เป็นขุย ลดความเสี่ยงของรอยดำหลังทำหัตถการ
3. เสริมการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวเนียนขึ้นกว่าเดิม
หลุมสิวเกิดจากคอลลาเจนที่เสียหาย → ต้องกระตุ้นให้เกิดคอลลาเจนใหม่
Profhilo → กระตุ้นคอลลาเจน Type I และ III ทำให้เนื้อผิวแน่นและเรียบขึ้น
เสริมผลลัพธ์จากเลเซอร์, RF, และ Sculptra ให้ดียิ่งขึ้น
ผลลัพธ์: ผิวไม่เพียงแต่ตื้นขึ้น แต่ยังมีความยืดหยุ่นและเรียบเนียนขึ้นกว่าเดิม
4. ผิวสุขภาพดีขึ้น ลดรอยแดงและการอักเสบ
หลังทำหัตถการ หลายคนมีปัญหาผิวแดง อักเสบ หรือไวต่อการระคายเคือง
Profhilo → ช่วยลดการอักเสบและฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้นจากภายใน
ผลลัพธ์: ผิวดูสุขภาพดี ลดรอยแดง ลดอาการแสบหลังทำหัตถการ
5. ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ และช่วยให้หลุมสิวหายไวขึ้น
Profhilo ไม่ได้แค่เติมน้ำ แต่ช่วยให้เซลล์ผิวทำงานดีขึ้น
เมื่อใช้ร่วมกับการรักษาหลุมสิว → ช่วยให้ผิวที่สร้างใหม่แข็งแรงขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนกว่า
ผลลัพธ์: หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวแข็งแรงขึ้น และดูเรียบเนียนแบบเป็นธรรมชาติ
สรุป ทำไมคนไข้ที่รักษาหลุมสิวควรทำ Profhilo?
ฟื้นฟูผิวไวขึ้น ลดเวลาพักฟื้น เห็นผลเร็วขึ้น
ลดปัญหาผิวแห้งลอกหลังหัตถการ ผิวชุ่มชื้น สมานตัวดีขึ้น
กระตุ้นคอลลาเจนเสริมผลลัพธ์จากการรักษาหลุมสิว ผิวเรียบเนียนกว่าเดิม
ลดการอักเสบ ลดรอยแดงหลังทำหัตถการ
ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ผิวแข็งแรงและเนียนละเอียดขึ้น
ถ้าต้องการให้การรักษาหลุมสิวได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรทำ Profhilo ควบคู่ไปด้วย
เปรียบเทียบ Profhilo กับ Sculptra – แตกต่างกันอย่างไร?
Profhilo และ Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ฟื้นฟูโครงสร้างผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่มีความแตกต่างกันอย่างมากใน ส่วนประกอบหลัก, กลไกการทำงาน, ระยะเวลาเห็นผล และการนำไปใช้
1. ส่วนประกอบหลัก
Profhilo: Hyaluronic Acid (HA) บริสุทธิ์ 100%
ใช้เทคโนโลยี NAHYCO® Hybrid Technology ทำให้ HA มีความเข้มข้นสูง (64 mg/2 cc)
ไม่มีสาร Cross-linking หรือสารเติมแต่งอื่น ๆ
กระจายตัวได้ดี ไม่เป็นก้อน และไม่อุดตันหลอดเลือด
Sculptra: Poly-L-Lactic Acid (PLLA)
เป็นสารที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนเอง (Biostimulator)
ไม่ใช่สารเติมเต็มโดยตรง แต่กระตุ้นไฟโบรบลาสต์ให้ผลิตคอลลาเจน
ต้องมีการผสมน้ำเกลือก่อนฉีด และต้องกระจายยาอย่างถูกต้อง
2. กลไกการทำงาน
Profhilo Bio-Remodeling
เติมน้ำให้ผิวลึกระดับเซลล์ (Deep Hydration)
กระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน Type I และ III ช่วยให้ผิวแน่นขึ้น
กระจายตัวทั่วใบหน้าและชั้นหนังแท้ ช่วยให้ผิวอิ่มฟูและมีความยืดหยุ่น
ไม่เติมเต็มปริมาตรแบบฟิลเลอร์ แต่ช่วยปรับคุณภาพผิวโดยรวม
Sculptra Collagen Biostimulation
PLLA กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนเอง (Neocollagenesis)
กระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน Type I และ II ในระยะยาว
ให้ผลลัพธ์ที่ค่อย ๆ เห็นชัดขึ้นภายใน 3-6 เดือน
สามารถช่วยเติมเต็มใบหน้าแบบธรรมชาติ โดยใช้ปริมาณที่เหมาะสม
3. ระยะเวลาเห็นผล
Profhilo
เริ่มเห็นผลภายใน 7-14 วัน หลังฉีด
ให้ผลลัพธ์สูงสุดใน 4-8 สัปดาห์
คงอยู่ได้นาน 6-9 เดือน ก่อนค่อย ๆ สลายไป
Sculptra
เริ่มเห็นผล ภายใน 6-8 สัปดาห์ หลังฉีด
สร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และให้ผลลัพธ์สูงสุดใน 3-6 เดือน
คงอยู่ได้นาน 2-3 ปี แต่ต้องฉีดซ้ำ 2-3 ครั้งในช่วงแรก
4. เหมาะกับใคร?
Profhilo เหมาะกับ:
คนที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพผิว ให้ดูอิ่มน้ำ สุขภาพดี
ผิวแห้ง ผิวบาง มีริ้วรอยเล็ก ๆ และความหย่อนคล้อยเล็กน้อย
คนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และไม่ต้องการเติมวอลุ่มมาก
เหมาะกับการใช้ควบคู่กับการรักษาหลุมสิว เช่น Real Scar Synergy
Sculptra เหมาะกับ:
คนที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
คนที่มีใบหน้าตอบ มีการสูญเสียไขมัน และต้องการเติมเต็มโครงสร้างผิว
ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูใบหน้าในเชิงลึก และไม่ต้องการฟิลเลอร์ที่อยู่ไม่นาน
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวลึก ควบคู่กับเทคนิคอื่น ๆ
5. วิธีฉีด และตำแหน่งที่ฉีด
Profhilo
ฉีดที่จุดสำคัญ 5 จุดต่อข้าง (BAP technique) เพื่อกระจาย HA ให้ทั่วใบหน้า
ฉีดตื้นในชั้นหนังแท้เพื่อให้สารกระจายตัว
ไม่มีการนวดหลังฉีด
Sculptra
ฉีดลึกถึงชั้น ใต้ผิวหนัง (Subcutaneous layer) หรือ SMAS
ต้องมีการนวดหลังฉีด (Rule of 5: นวด 5 นาที วันละ 5 ครั้ง ต่อเนื่อง 5 วัน)
ฉีดในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้กระตุ้นคอลลาเจนโดยไม่ทำให้เกิดก้อน
7. การใช้ร่วมกับการรักษาหลุมสิว
Profhilo
เหมาะกับผู้ที่มี หลุมสิวตื้น (Shallow Rolling Scars) และผิวขาดน้ำ
ใช้ร่วมกับ Real Scar Synergy (RSS), Juvgen, Sculptra หรือเลเซอร์ เพื่อให้ผลลัพธ์ดีขึ้น
ไม่สามารถเติมเต็มหลุมสิวโดยตรง แต่ช่วยให้ผิวแน่นขึ้น
Sculptra
เหมาะกับผู้ที่มี หลุมสิวลึก (Deep Boxcar/Ice Pick Scars) ที่ต้องการการกระตุ้นคอลลาเจนอย่างมาก
ใช้ร่วมกับ Subcision, ฟิลเลอร์หลุมสิว หรือเลเซอร์
ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า แต่ต้องใช้เวลารอผล
สรุป: Profhilo vs. Sculptra ต่างกันอย่างไร?
ถ้าต้องการให้ผิวดูสดใส ชุ่มชื้น ดูเด็กขึ้น เลือก Profhilo
ถ้าต้องการกระตุ้นคอลลาเจนระยะยาว เติมเต็มใบหน้า → เลือก Sculptra
ถ้าต้องการรักษาหลุมสิวลึก Sculptra เหมาะสมกว่า
แนะนำ: ใช้ Profhilo และ Sculptra ร่วมกัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในแง่ของการฟื้นฟูผิวและการสร้างคอลลาเจน!
ทำไมต้องใช้ Profhilo คู่กับ Sculptra?
การใช้ Profhilo และ Sculptra ร่วมกันเป็นการเสริมประสิทธิภาพการฟื้นฟูผิวอย่างครบวงจร เพราะทั้งสองตัวทำงานแตกต่างกันแต่ เสริมกันได้ดีมาก หากใช้ร่วมกันจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการใช้ตัวใดตัวหนึ่งเพียงอย่างเดียว
1. เสริมการสร้างคอลลาเจนให้ผิวแข็งแรงขึ้น
Sculptra กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนระยะยาว
Sculptra ทำหน้าที่เป็น Biostimulator กระตุ้นให้ร่างกายสร้าง คอลลาเจน Type I และ II ใหม่
กระบวนการสร้างคอลลาเจนต้องใช้เวลา 3-6 เดือน ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ
Profhilo ให้ความชุ่มชื้นและกระตุ้นคอลลาเจน Type I & III
Profhilo มี Hyaluronic Acid (HA) บริสุทธิ์ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิวทันที
กระตุ้น คอลลาเจน Type I และ III ซึ่งช่วยเสริมโครงสร้างผิว
ใช้ร่วมกัน = สร้างคอลลาเจนทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ผิวแน่นขึ้น แข็งแรงขึ้น และสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
2. ฟื้นฟูผิวได้รอบด้าน – ทั้งคุณภาพผิวและโครงสร้างผิว
Profhilo ฟื้นฟูคุณภาพผิว: ให้ผิวอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว ลดความหย่อนคล้อย
Sculptra ฟื้นฟูโครงสร้างผิว: เพิ่มความหนาแน่นของผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น
Profhilo เติมเต็มจากภายใน – Sculptra กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ผิวที่ได้จะดูอิ่มฟูและยกกระชับขึ้น
3. เร่งผลลัพธ์ให้เห็นเร็วขึ้น
Sculptra ใช้เวลา 3-6 เดือนกว่าจะเห็นผลเต็มที่
Profhilo ช่วยเติมเต็มช่วงเวลาที่ต้องรอผลของ Sculptra โดยให้ความชุ่มชื้นทันที (7-14 วันเห็นผล)
ฉีด Sculptra อย่างเดียว ต้องรอนาน
ฉีด Profhilo ร่วมด้วย ผิวดีขึ้นไวขึ้น พร้อมรอให้ Sculptra ทำงาน
---
4. ลดความเสี่ยงจาก Sculptra และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ปัญหาของ Sculptra คือ หากผิวขาดน้ำ อาจกระจายตัวยาไม่ดี และเกิดก้อนแข็ง (Nodule Formation)
Profhilo ช่วยให้ผิวอุ้มน้ำดีขึ้น ทำให้ Sculptra กระจายตัวได้สม่ำเสมอ ลดโอกาสเกิดก้อน
สรุป: Profhilo ช่วยปรับสมดุลความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ Sculptra ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
5. เหมาะกับการรักษาหลุมสิวลึกและปัญหาผิวที่ซับซ้อน
สำหรับคนที่มีหลุมสิวลึก:
Sculptra กระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ให้เนื้อผิวฟูขึ้น
Profhilo เติมน้ำให้ผิวและทำให้ผิวนุ่มขึ้น ช่วยลดลักษณะเป็นคลื่นของหลุมสิว
สำหรับคนที่มีริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย:
Sculptra ฟื้นฟูโครงสร้างผิว ให้ผิวแข็งแรงและกระชับขึ้น
Profhilo ให้ความชุ่มชื้น ทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น
6. อยู่ได้นานขึ้นและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
Profhilo อยู่ได้ 6-9 เดือน
Sculptra อยู่ได้ 2-3 ปี
ใช้ร่วมกัน = ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า ดูเป็นธรรมชาติ และไม่ดูแข็งหรือบวมเกินไป
แนะนำวิธีใช้ Profhilo คู่กับ Sculptra ให้ได้ผลดีที่สุด
Step 1: ฉีด Profhilo ก่อน 1-2 สัปดาห์ เพื่อเติมน้ำให้ผิวและปรับสมดุลผิว
Step 2: ฉีด Sculptra เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและเสริมโครงสร้างผิว
Step 3: ฉีด Profhilo ซ้ำอีกครั้งหลัง 1 เดือน เพื่อคงความชุ่มชื้นและเร่งการฟื้นฟูผิว
สรุป – ทำไมต้องใช้ Profhilo คู่กับ Sculptra?
ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมกว่า – ทั้งความชุ่มชื้นและโครงสร้างผิว
เห็นผลเร็วขึ้น – ไม่ต้องรอ 3-6 เดือนเพื่อให้ Sculptra ทำงาน
ลดความเสี่ยงของ Sculptra – ทำให้ตัวยากระจายตัวดีขึ้น
รักษาหลุมสิวได้ดีกว่า – ทั้งฟื้นฟูผิวและเพิ่มความแน่นของเนื้อผิว
ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น – ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่เป็นก้อน
ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ใช้ Profhilo และ Sculptra คู่กัน