1. Real Scar Synergy (RSS) คือ โปรแกรมรักษาหลุมสิวที่ออกแบบขึ้นโดย Dr.Ramita ซึ่งเน้นการรักษาโดยวิธีหัตถการแพทย์เป็นหลัก (Non-Energy Based Acne Scar Revision) ด้วยเทคนิคเฉพาะของ Dr.Ramita ผสมผสานหลายวิธีมาตรฐานที่มีงานวิจัยรองรับ เสริมด้วยเทคนิคพิเศษที่คุณหมอศึกษาเพิ่มเติมจากอาจารย์แพทย์ชาวเกาหลี คือการฉีดสารฟื้นฟูเติมเต็มร่วมกับฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยคอลลาเจนของตัวเราเอง เพิ่มเติมด้วยสารฟื้นบำรุงช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษาให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น ลดการบวมช้ำ ไม่ต้องพักหน้า
คลิก อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

juvgen ดร.จิน หลุมสิวเกาหลี real scar synergy รักษาหลุมสิว
2. JUVGEN คือการรักษาหลุมสิวที่ คุณหมอรมิตา ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจาก Dr. Jin Se-hun (ดร.จิน ศัลยแพทย์ชื่อดังชาวเกาหลีด้านรักษาหลุุมสิว ) เทคนิคนี้มุ่งเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนการ ฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเอง โดยใช้การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และกรดไฮยาลูโรนิกอนุภาคเล็ก (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ชั้นหนังแท้บริเวณที่มีปัญหา เช่น หลุมสิว ริ้วรอยร่องลึก หรือแผลเป็นเนื้อผิวยุบตัว กระบวนการนี้จะช่วยสร้างเนื้อเยื่อผิวคอลลาเจนในปริมาณมากให้ขึ้นมามาทดแทนผิวหนังที่เคยยุบเป็นหลุม ให้สามารถฟูตัวขึ้นมา ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เนื้อเยื่อใหม่ โดยไม่ทำลายโครงสร้างผิวหนัง หลังการรักษาประมาณ 3-5 วัน จะสังเกตเห็นการยกตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจนใหม่ที่ขึ้นมาช่วยลดเลือนแผลเป็นหลุมสิวความไม่เรียบเนียนของผิว 
คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติม


รักษาหลุมสิว Real Scar Synergy

" การรักษารอยแผลเป็น'หลุมสิว' เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ทางการแพทย์ เป็นหนึ่งในการรักษาที่หมอมีความถนัดชำนาญ และชอบเป็นการส่วนตัวค่ะ เนื่องจากหมอก็เป็นคนที่มีปัญหาหลุมสิวด้วยเหมือนกัน หมอจึงศึกษาและติดตามอัพเดทการรักษาหลุมสิวมาโดยตลอด ตั้งแต่ตอนเรียนแพทย์ทั่วไป เรียนแพทย์ต่อยอดวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาตจวิทยสาขาตจวิทยมาจนถึงปัจจุบัน 

โดยเทคนิคเฉพาะตัวที่หมอถนัดและเชื่อมั่นในผลลัพธ์ที่สุด จะเป็นกลุ่มการรักษาด้วยหัตถการเน้นมือแพทย์เป็นหลัก (Non-Energy Based Scar Revision) และใช้เลเซอร์เป็นเพียงส่วนเสริมเก็บรายละเอียดเท่านั้น เลเซอร์ที่หมอมั่นใจในผลลัพธ์ที่สุด เหมาะกับผิวเอเชียที่สุด หมอไว้วางใจใช้คือ MCL Dermablate Laser

เทคนิควิธีของหมอในการรักษาแผลเป็นหลุมสิวนั้นเป็นแบบเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร อาศัยทักษะความสามารถ เก็บประสบการณ์และเรียนรู้มานาน จึงได้เทคนิคขั้นสูงในการทำหัตถการ การรักษาหลุมสิวเป็นงานฝีมือแพทย์ที่ต้องใช้ความชำนาญและความละเอียดเฉพาะตัวเป็นอย่างมาก และต้องเข้าใจเรื่องหลุมสิวอย่างถ่องแท้ รู้ว่าวิธีการรักษาหลุมสิวประเภทนี้ มีวิธีใดใช้รักษาได้บ้าง และนำมาปรับใช้กับคนไข้ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด
 
คลินิกหมอไม่มีเซลล์ ไม่ยัดเยียดขาย คุยราคาไหนจบราคานั้น ชัดเจน ถูกต้อง สบายใจค่ะ
 

สารบัญหลุมสิว

Real Scar Synergy ( RSS ) คือ โปรแกรมรักษาหลุมสิวที่คิดค้นขึ้นโดย Dr.Ramita ซึ่งเน้นการรักษาโดยวิธีหัตถการแพทย์เป็นหลัก (Non-Energy Based Acne Scar Revision) ด้วยเทคนิคเฉพาะของ Dr.Ramita ที่ผสมผสานหลายวิธีการรักษาที่เป็นมาตรฐานสากล มีงานวิจัยรองรับ ได้รับการยอมรับจากวงการแพทย์ทั่วโลกว่าช่วยแก้ไขหลุมสิวได้จริง รวมไว้ในโปรแกรมเดียว แล้วฉีดตัวยาฟื้นฟูเนื้อเยื่อเข้าไป เพื่อฟื้นฟูหลุมสิวด้วยเนื้อเยื่อของเราเอง อีกทั้งยังเสริมด้วยเทคนิคพิเศษ ที่คุณหมอศึกษาโดยตรงมาจากอาจารย์แพทย์ชาวเกาหลี คือการฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและทำให้เกิดโพรงอากาศ ไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยเนื้อเยื่อด้วยตัวเอง และฉีดสารตัวยาสำคัญเข้าไปแทนที่ ซึ่งเป็นเทคนิควิธีเดียวกันกับที่เกาหลี เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษาให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น ไม่ต้องพักหน้า ตามหลักการ 
  1. Specific Scar Revision คือการรักษาตามลักษณะของหลุมสิวที่เป็นแต่ละจุดโดยละเอียด โดยใช้วิธีการรักษาแตกต่างกันไปในแต่ละรอยหลุมสิว ไม่ใช่การรักษาเหมือนกันในทุกๆคนแบบ one size fit all เนื่องจากหลุมสิวมีหลายลักษณะ และพื้นฐานผิวของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน 
  2. Multimodality Approach หลักการสำคัญคือต้องใช้หลากหลายวิธีร่วมกันเพื่อให้ครอบคลุมปัญหาได้มากที่สุด เพราะบนใบหน้าเรามีหลุมสิวหลายแบบ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หมอจึงไม่ใช้แค่วิธีการรักษาเดียว รักษาหลุมสิวทุกแบบบนใบหน้า ดังนั้นการรักษาหลุมสิวจึงไม่ใช่แค่การใช้เครื่องมือเครื่องเดียวแล้วรักษาเคสหลุมสิวแบบเดียวกันกับทุกคน

Real Scar Synergy แตกต่างจากการรักษาหลุมสิวทั่วไปอย่างไร โดยทั่วไปการรักษาหลุมสิวแบบมาตรฐาน จะแบ่งเป็น 2หลักการใหญ่ๆ คือ

  1. แบบที่ใช้พลังงานเลเซอร์เป็นหลัก (Energy Based Acne Scar Revision)
  2. แบบที่ไม่ใช้พลังงานเลเซอร์แต่ใช้หัตถการเป็นหลัก (Non-Energy Based Acne Scar Revision)
การรักษาหลุมสิวส่วนใหญ่ในประเทศไทยนั้น มักจะเน้นไปที่วิธีการทำเลเซอร์เป็นหลัก เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาที่ค่อนข้างปลอดภัยไม่ซับซ้อน แต่มีข้อจำกัดคือจำเป็นต้องทำซ้ำต่อเนื่องหลายครั้ง โดยในแต่ละครั้งหลังทำก็จะมีสะเก็ดแผลที่หน้าตามมา จึงจำเป็นต้องมีการพักหน้าห้ามออกแดดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ อีกทั้งช่วงที่แผลสะเก็ดกำลังหลุดลอกออกก็จะแต่งหน้าออกไปทำงานได้ลำบาก ทำให้คนไข้ส่วนใหญ่มักหมดหวังและท้อใจกันไปก่อนที่จะครบคอร์สการรักษา

Real Scar Synergy เป็นเทคนิคการรักษาหลุมสิวที่จัดอยู่ในกลุ่ม Non-Energy Based Acne Scar Revision (แบบที่ไม่ใช้เลเซอร์ แต่ใช้หัตถการฝีมือแพทย์เป็นหลัก) เป็นอีกทางเลือกการรักษาที่เห็นชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และผลอยู่ได้ยาวนานกว่า 


ผลลัพธ์ที่ได้ หลังทำเพียงครั้งเดียว

* ทุกรีวิวของคุณหมอได้รับการยินยอมจากคนไข้ให้นำมาเผยแพร่
* ทุกรีวิวเป็นคนไข้ทางคลินิก 
* *ผลจากการรักษาสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย

juvgen หลุมสิวเกาหลี ดร.จิน รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว ฟื้นฟูหลุมสิว

real scar synergy juvgen หลุมสิวเกาหลี ดร.จิน รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว ฟื้นฟูหลุมสิว

real scar synergy juvgen หลุมสิวเกาหลี ดร.จิน รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว ฟื้นฟูหลุมสิว

real scar synergy juvgen หลุมสิวเกาหลี ดร.จิน รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว ฟื้นฟูหลุมสิว

real scar synergy juvgen หลุมสิวเกาหลี ดร.จิน รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว ฟื้นฟูหลุมสิว

real scar synergy juvgen หลุมสิวเกาหลี ดร.จิน รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว ฟื้นฟูหลุมสิว

real scar synergy juvgen หลุมสิวเกาหลี ดร.จิน รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว ฟื้นฟูหลุมสิว

real scar synergy juvgen หลุมสิวเกาหลี ดร.จิน รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว ฟื้นฟูหลุมสิว

real scar synergy juvgen หลุมสิวเกาหลี ดร.จิน รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว ฟื้นฟูหลุมสิว

* เคสรีวิวจริง จากคนไข้จริง ได้รับอนุญาตจากคนไข้แล้วจึงนำมาให้ชมกันค่ะ  

* ทุกรีวิวเป็นคนไข้คุณหมอจริง * ผลลัพธ์ที่ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

จุดเด่นที่เหนือกว่าวิธีอื่น

  • เป็นเทคนิคการรักษาวิธีมาตรฐานสากลแบบ Non-Energy Based Acne Scar Revision ผสมผสานกับวิธีการรักษาและตัวยาเดียวกันกับที่เกาหลี 
  • เป็นวิธีการแก้หลุมสิว ที่ทำให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ (Skin Regeneration) ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยตัวเอง จึงให้ผลลัพธ์ที่ถาวร
  • เห็นผลดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ไม่ต้องทำบ่อย 
  • ช่วยลดการอักเสบของผิว ผิวหนาแข็งแรงขึ้น ช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอยตื้นๆ 
  • ไม่เป็นสะเก็ดตาราง ไม่ต้องพักหน้า ผิวไม่บาง


คุณหมอจะเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ลักษณะของใบหน้าโดยรวม และปัญหาหลุมสิวที่คนไข้เป็นอย่างละเอียด ตามด้วยระบุประเภทหลุมสิวแต่ละจุด ทีละจุดบนใบหน้า ประเมินลักษณะผังผืด และประเมินสภาพพื้นฐานผิวของคนไข้ได้อย่างถี่ถ้วน ถือเป็นจุดเริ่มต้นวางแผนการรักษาที่สำคัญมาก

  1. ปรึกษาวิเคราะห์ปัญหา วางแผนการรักษาร่วมกัน 20-30 นาที
  2. ก่อนทำจะแปะยาชา 45-60 นาที
  3. หัตถการหลักเทคนิคเฉพาะของ Dr. Ramita ประมาณ 40-60 นาที (หลายหัตถการร่วมกัน)
  4. หัตถการเสริมเทคนิคเกาหลี ฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและทำให้เกิดโพรงอากาศ แล้วฉีดตัวยาฟื้นฟูเนื้อเยื่อเข้าไป ซึ่งเป็นเทคนิควิธีเดียวกันกับที่เกาหลี 20-30 นาที
  5. ฉีดตัวยา กลุ่ม Skin Regeneration (ทุกตัวผ่าน อย.ไทย) ตัวยาที่ใช้ขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละรายบุคคล 20-30 นาที
  6. ลงเซรั่ม Biorepair ช่วยฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน สูตรเฉพาะ Real Clinic  
  7. ใช้เวลาการทำหัตถการทั้งหมด รวมแปะยาชา 2-3 ชั่วโมง

*หัตถการหลักเทคนิคเฉพาะของ Dr.Ramita ที่ผสมผสานหลายวิธีการรักษาหลุมสิว ที่เป็นมาตรฐานสากล มีงานวิจัยรองรับ ได้รับการยอมรับจากวงการแพทย์ทั่วโลกว่าช่วยแก้ไขปัญหาหลุมสิวให้ตื้นขึ้นได้จริง รวมไว้ในโปรแกรมเดียว (หัตถการที่จะใช้ขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล)

real scar synergy juvgen หลุมสิวเกาหลี ดร.จิน รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว ฟื้นฟูหลุมสิว

คุณหมอขอยกตัวอย่างหัตถการที่จะใช้(บางส่วน) มาอธิบายให้อ่านกันค่ะ

  • Surgical Subcision - ตัดเซาะผังผืดด้วยเข็มชนิดพิเศษเทคนิคเฉพาะตัว จึงสามารถตัดผังผืดได้อย่างทั่วถึงตรงจุดแบบ Multilevel โดยไม่มีรอยช้ำห้อเลือด แบบการตัดผังผืดด้วยเข็มคมเทคนิคเดิมๆ - Air dissector เป็นการใช้ก๊าซตัดพังผืดชั้นตื้น เพื่อเก็บรายละเอียดอีกครั้ง และช่วยลดอาการบวมช้ำ ทำให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น Subcisionคืออะไรอ่านเพิ่มเติม
  • Microneeding Collagen Induction Therapy (CIT Dermafix) เป็นการรักษาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว โดยผลัดผิวชั้นบน และผลักตัวยาสำคัญให้เข้าถึงทั่วทุกบริเวณอย่างล้ำลึก 
  • Chemical Reconstruction คือการใช้สารเคมีทางการแพทย์มาช่วยกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ขึ้นมาจากก้นหลุมแบบโดยเฉพาะทีละจุด โดย TCA CROSS/Paint Technique ด้วยความเข้มข้นและเทคนิคที่เหมาะสมตามแต่ผิวคนไข้แต่ละราย
  • ในบางเคส ฉีดสารเติมเต็ม Filler ที่เนื้อเยื่อที่ฝ่อยุบตัวอย่างรุนแรง จนการฟื้นฟูผิวด้วยตัวเองสร้างขึ้นมาไม่ทัน ต้องอาศัยการฉีด สารเติมเต็ม Filler เพื่อเข้าไปทดแทน และเป็นบัฟเฟอร์กันชนไม่ให้พังผืดที่ตัดไปแล้ว กลับมารวมตัวกันอีก
  • Skin Regenaration กลุ่มตัวยาสำคัญที่หมอจะเลือกใช้ : Polynucleotides,Exosome, Growth Factor, กรดไฮยาลูรอนิคอนุภาคเล็ก, Peptides ซึ่งในแต่ละกลุ่มตัวยา ก็จะจำแนกตัวยาไปอีกหลายตัวเลยค่ะ ทั้งนี้การเลือกใช้ตัวยาไหนขึ้นอยู่กับ ดุลยพินิจแพทย์และปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคล ซึ่งเป็นการรวบรวมตัวยาสำคัญหลายชนิด แบบ Combination Therapy ควบคู่กับการทำหัตถการแพทย์ เพื่อช่วยเรียกเนื้อหลุมสิว กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่ให้มาเติมเต็มรอยยุบได้อย่างถาวร กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวเรียบเนียน สว่างใสฉ่ำวาวยิ่งขึ้น ฟื้นฟูคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น

* หัตถการเสริมเทคนิคพิเศษเกาหลี คือการฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและทำให้เกิดโพรงอากาศ ไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยเนื้อเยื่อด้วยตัวเอง และฉีดสารตัวยาสำคัญเข้าไปแทนที่ ซึ่งเป็นเทคนิควิธีเดียวกันกับที่เกาหลี เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษาให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น

  • ฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยเนื้อเยื่อด้วยตัวเอง อ่านเพิ่มเติมคลิก  และฉีดสารตัวยาสำคัญเข้าไปแทนที่
  • Skin Regeneration Agents* การฉีดสารที่ช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อด้วยตัวเอง มีหลายชนิดตามดุลยพินิจแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้แก่ กรดไฮยาลูรอนิคอนุภาคเล็ก, Polynucleotides PN, PDRN, Peptides, Exosome  
  • เทคนิคที่ได้รับการอบรมโดยตรงจากอาจารย์แพทย์ชื่อดังของเกาหลี 

รักษาอะไรได้บ้าง

  • รอยแผลเป็นหลุมสิว
  • รอยแผลเป็นอีสุกอีใส
  • รอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุ
  • ริ้วรอยต่างๆ หน้าผาก หว่างคิ้ว ตีนกา ร่องแก้มร่องน้ำหมาก

เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่รักษามาหลายวิธีแล้ว แต่ยังไม่ดีขึ้น
  • ผู้ที่ทำเลเซอร์มาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่ค่อยเห็นผล
  • ผู้ที่ไม่สามารถพักหน้าหลังทำเลเซอร์ได้
  • ผู้ที่ผิวบาง ระคายเคืองง่าย  มีข้อจำกัดในการทำเลเซอร์
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาในการดูแลรักษามาก แต่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ข้อจำกัดการรักษา
  • ไม่ได้ทำให้ผิวเรียบเนียนกริบ 100% เสมือนผิวที่ไม่เคยมีแผลเป็นหรือริ้วรอยมาก่อน
  • แม้พังผืดจะถูกตัดให้แยกออกจากกัน แต่เนื่อเยื่อแผลเป็นยังคงอยู่ ไม่ได้ถูกตัดออกไปนอกร่างกายเลย จึงมีโอกาสกลับมาจับตัวเป็นหลุมได้อีก โดยเฉพาะถ้ามีการเกิดสิวใหม่
  • หลุมสิวแบบจิกลึก ขอบคมชัด อาจเห็นผลไม่มากในครั้งแรก แต่คุณภาพผิวโดยรวมจะดูดีและแข็งแรงขึ้น
  • ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก มักยังมีอาการบวมจากการทำหัตถการ อาจทำให้หลุมดูตื้นขึ้นเกินเนื้อจริงได้
ข้อควรระวังหลังการรักษา
  • หลังทำจะมีรอยแดงจากเข็ม และตุ่มแดงเหมือนยุงกัด วันรุ่งขึ้นจะค่อยๆจางลง ไม่มีแผลตารางตกสะเก็ด
  • หลังทำหัตถการ 24 ชั่วโมง สามารถแกะผ่าก๊อซที่ปิดแผลไว้ได้ และสามารถล้างหน้า/แต่งหน้า/ทาแป้งได้ตามปกติ
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอย่างน้อย 5 วัน
  • หลังการรักษา 2 วัน ควรงดการออกกำลังกาย อบซาวน่า แช่ออนเซน
  • ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก อาจมีอาการบวม ทำให้ดูตื้นขึ้นเกินเนื้อจริง
  • งดการโดนน้ำบริเวณที่ทำการรักษาจนกว่าจะแกะผ้าก็อซออก

รีวิวหัตการหลุมสิว By Dr.Ramita

* ทุกรีวิวของคุณหมอ ได้รับการอนุญาตจากคนไข้แล้วจึงนำมาให้ชมกันค่ะ
* ทุกรีวิวเป็นคนไข้คุณหมอจริง 
* ผลลัพธ์ที่ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
 

 

 

คลินิกหมอ ไม่มีการยัดเยียดคอร์ส "
  • เรียลคลินิก เน้นให้บริการอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา ไม่ยัดเยียดในสิ่งที่ไม่จำเป็นกับคนไข้
  • เราเล็งเห็นถึงปัญหา ที่เวลาเข้ามาที่คลินิกความงามส่วนใหญ่ คนไข้มักโดนการยัดเยียดขายคอร์สที่ไม่จำเป็น
  • คุณหมอเบนซ์และทีมงานทุกคน จึงสร้างสรรค์เรียลคลินิก ที่ให้บริการด้วยใจและการรักษา 'ตามหลักการที่ถูกต้อง'โดย "ไม่ต้องยัดเยียดขายคอร์ส"
คุณหมอให้คำปรึกษาด้วยตนเองทุกเคส 
  • เพื่อให้มั่นใจว่าปัญหาที่คนไข้กังวลนั้น จะได้รับการแก้ไขด้วยวิธีที่เหมาะสมที่สุด
  • คนไข้มีส่วนร่วม ในการตัดสินใจเลือกรับการรักษา  ด้วยโปรแกรมการรักษาที่คุ้มค่าที่สุด พร้อมคำแนะนำอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา
  • คุณหมอดูแลควบคุมเองจึงใช้แต่ "ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด"
  • พนักงานพร้อมให้บริการด้วยใจรัก ยินดีต้อนรับทุกท่านด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส
คุณหมอเชี่ยวชาญในการปรับรูปหน้า และ รักษาหลุมสิวโดยเฉพาะ
  • ออกแบบรูปหน้าเฉพาะรายบุคคล เทคนิคเฉพาะตัว ให้ออกมาเนียน เน้นเป็นธรรมชาติที่สุด
  • คุณหมอเบนซ์อัพเดทความรู้ตลอดเวลาเข้าคอร์สอบรมเพิ่มเติมเป็นประจำ เพื่อให้ทันเทรนด์ยุคสมัยให้คนไข้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด   
  • ปลอดภัย ฝีมือดี ประณีต
ควบคุมดูแลโดยแพทย์
  • คุณหมอเบนซ์ พญ.รมิตา สุภาสัย MD, Master’s Degree (MSc.) in Dermatology * แพทย์ต่อยอดวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาตจวิทยา
  • ผ่านการฝึกอบรมจากสถาบัน IFERA และ KFERA สถาบันด้านการวิจัยฟิลเลอร์และสกินบูสเตอร์ ที่เกาหลีโดยตรง
  • คุณหมอได้รับโล่ห์รางวัลยอดใช้สูงสุดและรับประกันของแท้จากMr. Byong Seung Cho ประธานผู้บริหาร ExoCoBio Inc.
  • ด้วยเทคนิค ที่ได้รับการถ่ายทอดจากประธานสมาคมแพทย์เกาหลีโดยตรง จึงมั่นใจได้เลยว่า ผลลัพธ์ดี ได้มาตรฐานเดียวกันแน่นอนค่ะ
ผลิตภัณฑ์ทุกอย่าง ของแท้ มีอย. ตรวจสอบได้
  • Real Clinic สั่งผลิตภัณฑ์ เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ จากบริษัทผู้นำเข้าอย่างถูกต้อง ได้มาตรฐาน มีใบรับรองจากบริษัทโดยตรง
  • ก่อนทำหัตถการ แกะผลิตภัณฑ์ให้เห็นต่อหน้า
  • ก่อนทำหัตถการ ตรวจสอบให้ดูว่าเป็นของแท้
  • หลังทำหัตถการ ให้กล่องกลับบ้าน พร้อมแนะนำข้อปฏิบัติตน
Real Clinic เน้นความเป็นส่วนตัวสูง
  • ไม่นัดคนไข้เวลาเดียวกัน เพื่อให้มีความเป็นส่วนตัว คนไข้ไม่ต้องรอนาน ได้รับบริการตรงตามเวลาที่นัดหมาย
  • ห้อง Private ส่วนตัว
  • สะอาด สงบ ร่มรื่น
  • มีที่จอดรถ จอดหน้าตึกเดินเข้าได้เลย


Q : Real Acne Scar Synergy แตกต่างจากการรักษาหลุมสิวที่เกาหลีอย่างไร?
A : การรักษาหลุมสิวส่วนใหญ่
ที่เกาหลี มักจะเน้นไปที่การฉีดมากกว่าการทำเลเซอร์ โดยเทคนิคเฉพาะที่มีการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และกรดไฮยาลูโรนิคอนุภาคเล็กเข้าไปทำให้เกิดการฟื้นฟูผิวด้วยตัวเองนั้น มีข้อดีตรงที่เห็นผลชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และผลลัพธ์คงอยู่ได้ยาวนานกว่าการฉีดฟิลเลอร์   โดยคนไข้ส่วนใหญ่จะนิยมทำแค่เฉพาะบางจุดที่เด่นชัดจริงๆเท่านั้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ค่อนข้างสูงมาก และวิธีนี้มีข้อจำกัดในการรักษาหลุมสิวแบบ deep icepick และ deep boxcar scar 

โปรแกรม Real Acne Scar Synergy ก็มีการรักษาด้วยเทคนิคเดียวกันกับที่เกาหลีนี้รวมอยู่ในหัตถการหลักด้วย แต่จะแตกต่างตรงตัวยาที่ฉีดเข้าไป (ของทางเกาหลี จะมีเฉพาะกรดไฮยาลูโรนิคอย่างเดียว หรือบางคลินิกจะเป็นสาร PDRN เท่านั้น) สูตรตัวยาแบบเฉพาะของหมอที่ฉีดเข้าไปแล้วทำให้เกิด Skin Regeneration ร่วมกับการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้น เป็นการรวบรวมตัวยาที่มีงานวิจัยรับรองแล้วว่ากระตุ้นและเพิ่มคอลลาเจนใต้ผิวได้จริง ได้แก่ ไฮยาลูโรนิคแอซิด โพลีนิวคลิโอไทด์ เอกซ์โซโซม โกรทแฟคเตอร์และวิตามินสารอาหารผิวต่างๆ ที่ช่วยบำรุงผิว และปรับสูตรให้เหมาะกับสภาพผิวของคนไข้แต่ละคนมากที่สุดด้วย

อีกทั้งยังมีการทำหัตถการแพทย์มาตรฐานอื่นๆควบคู่กันไป ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดพังผืด Surgical Subcision ด้วยเครื่องมือพิเศษเฉพาะแต่ละหลุม, Chemical Reconstruction TCA CROSS/PAINT/dot peel, Collagen Induction Therapy เพื่อให้ครอบคลุมปัญหาหลุมสิวที่คนไข้เป็นได้มากที่สุดค่ะ

 

Q : Real Acne Scar Synergy แตกต่างจากคอร์สเลเซอร์อย่างไร
A : Real Scar Synergy เป็นการดูแลรักษาหลุมสิวแบบองค์รวม โดยใช้หัตถการฝีมือแพทย์เป็นหลัก หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่ากลุ่มการรักษาแบบ Non-Energy Based Acne Scar Revision

  • ซึ่งจะใช้วิธีที่เฉพาะเหมาะสมกับหลุมสิวแต่ละประเภทหลากหลายหัตถการร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้หมออาจมีการใช้เลเซอร์เพื่อเก็บรายละเอียดพื้นผิวตามหลัง โดยเลเซอร์จะเป็นการรักษาเสริมเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมเท่านั้น (ขึ้นกับประเภทย่อยของหลุมสิวและความพึงพอใจส่วนตัวของคนไข้)
  • การรักษาด้วยกลุ่มเทคนิคนี้ จำเป็นต้องใช้ความละเอียดประณีต และทักษะฝีมือความชำนาญของแพทย์เป็นหลัก   จึงจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยเฉพาะในหลุมสิวชนิดรุนแรงที่มีพังผืดดึงรั้งเยอะ และเนื้อยุบเป็นบริเวณกว้างนั้น   การรักษาด้วยเลเซอร์เพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถแก้ไขได้เลย จำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีหัตถการเท่านั้น
  • ส่วนคอร์สเลเซอร์ที่มีกันทั่วไป โดยหลักการจะเป็นการรักษาโดยใช้พลังงานเลเซอร์เข้าไปกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวในชั้นหนังแท้เป็นหลัก   ในทางการแพทย์จะเรียกกลุ่มการรักษานี้ว่า Energy Based Acne Scar Revision 
  • กลุ่มเลเซอร์ที่ใช้กันในปัจจุบันนี้ มีหลากหลายต้นกำเนิดพลังงาน หลากหลายเทคโนโลยี และหลากหลายแบรนด์มาก ไม่ว่าจะเป็น CO2 Full Ablative/Fractional, Erbium Full Ablative/Fractional, Fractional RF(Ematrix, Fractora, Infini, Genius), Picosecond laser (PicoDiscovery, Picosure, Picoway, Picoplus), Dual 1550/1927 nm (Frexel Re:store)
  • โดยหลักการแล้ว การใช้เลเซอร์ที่ได้มาตรฐานมีงานวิจัยรองรับ พลังงานจะเสถียรมากกว่า และเมื่อทำโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ สามารถปรับตั้งค่าเครื่องได้อย่างถูกต้องแม่นยำแล้ว จะสามารถทำให้หลุมสิวบางประเภทที่ไม่รุนแรงมากดีขึ้นได้
  • แต่ในหลุมสิวที่รุนแรงมีพังผืดดึงรั้งในชั้นลึกมากร่วมกับชั้นไขมันฝ่อยุบตัวด้วย   หากทำแค่เลเซอร์เพียงอย่างเดียวเป็นคอร์สต่อไปเรื่อยๆ จะไม่มีทางรักษาให้หลุมสิวนั้นให้ดีขึ้นอย่างแท้จริงได้เลย
  • อย่างไรก็ตามการทำเลเซอร์ก็ถือเป็นอีกวิธีรักษาที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพ หากเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับประเภทหลุมสิว สภาพผิวของคนไข้ และทำโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญค่ะ


Q : Real Acne Scar Synergy แตกต่างจากการผ่าตัดเย็บหลุมสิวอย่างไร
A : เนื่องจากการผ่าตัดเย็บหลุมสิวนี้ เป็นการเปลี่ยนรูปแบบของแผลจิกลึกขอบหนา ให้กลายเป็นแผลเป็นรูปแบบเส้นแทน ซึ่งผู้ที่ได้รับการผ่าตัดเย็บหลุมสิวจะต้องดูแลรอยแผลอย่างเคร่งครัด ห้ามแผลโดนน้ำและต้องกลับมาตัดไหมที่ 5-7 วัน หลังจากนั้นต้องมีการทำเลเซอร์เพื่อลบรอยแผลใหม่ต่ออีกด้วย จึงเหมาะกับผู้ที่สามารถดูแลรักษาแผลหลังผ่าตัดได้อย่างเคร่งครัด และสามารถเข้ารับการดูแลต่อเนื่องหลังผ่าตัดได้จริงๆ 

ในกลุ่มของการรักษาหลุมสิวด้วยการผ่าตัดนี้ จะมีเทคนิคมาตรฐานอื่นๆอีก เช่น Punch grafting,Punch elevation ซึ่งในขณะนี้ จะยังไม่ได้มีการรักษาด้วยเทคนิคนี้ในโปรแกรมของทางคลินิกค่ะ


Q : หลักการของ Real Acne Scar Synergy คืออะไร
A :  - Specific Scar Revision หมอจะรักษาตามลักษณะของหลุมสิวที่เป็นแต่ละจุดโดยละเอียดโดยใช้วิธีการรักษาแตกต่างกันไปในแต่ละรอยหลุมสิว ไม่ใช่การรักษาเหมือนกันในทุกๆคนแบบ one size fit all เนื่องจากหลุมสิวมีหลายลักษณะ และพื้นฐานผิวของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน หลักการสำคัญคือต้องใช้หลากหลายวิธีร่วมกันเพื่อให้ครอบคลุมปัญหาได้มากที่สุด เพราะบนใบหน้าเรามีหลุมสิวหลายแบบ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หมอจึงไม่ใช้แค่วิธีการรักษาเดียว รักษาหลุมสิวทุกแบบบนใบหน้า ดังนั้นการรักษาหลุมสิวจึงไม่ใช่แค่การใช้เครื่องมือเครื่องเดียวแล้วรักษาเคสหลุมสิวแบบเดียวกันกับทุกคน
- Holistic Scar Solution เป็นการทำหัตถการรักษาหลุมสิว เพื่อให้เกิด Skin Regeneration สร้างชั้นผิวขึ้นมาใหม่ด้วยผิวของเราเอง โดยรวบรวมทุกหัตถการการรักษาหลุมสิวทั้งแบบหลักและแบบทางเลือก Multimodality Approach ด้วยเทคนิคเฉพาะหลุม Specific Scar Revision ร่วมกับใช้ตัวยาสำคัญที่ช่วยเรียกเนื้อหลุมสิว

 

Q : ขั้นตอนการทำ เป็นอย่างไร ?
A : ขั้นตอนการทำ " ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแพทย์และสภาพผิวของแต่ละบุคคล "
เนื่องจากแต่ละบุคคลมีพื้นฐานปัญหาผิวและข้อจำกัดไม่เหมือนกัน คุณหมอจะเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ลักษณะของใบหน้าโดยรวม และปัญหาหลุมสิวที่คนไข้เป็นอย่างละเอียดก่อน ตามด้วยระบุประเภทหลุมสิวแต่ละจุดบนใบหน้าอย่างละเอียด ประเมินลักษณะผังผืด และประเมินสภาพพื้นฐานผิวของคนไข้ได้อย่างถี่ถ้วน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นวางแผนการรักษาที่สำคัญมาก   เมื่อประเมินลักษณะปัญหาหลุมสิวของคนไข้ได้อย่างละเอียดดีแล้ว จึงค่อยวางแผนเลือกใช้วิธีการรักษาให้เหมาะสมกับคนไข้เฉพาะบุคคล เพราะแต่ละคนมีข้อจำกัดไม่เหมือนกัน เช่น บางต้องใช้ใบหน้าทำงานตลอด พักหน้าไม่ได้ ตกสะเก็ดไม่ได้ หมอจึงต้องคอยปรับแต่งแผนการรักษาโดยตลอดให้เหมาะกับแต่ละคน

  • ปรึกษาวิเคราะห์ปัญหา วางแผนการรักษาร่วมกัน 30 นาที
  • ก่อนทำจะมีการแปะยาชา 45-60 นาที
  • ทำหัตถการแพทย์ประมาณ 60 นาที (หลายหัตถการร่วมกัน)
  • ฉีดตัวยากลุ่มฟื้นฟูผิว Skin Regeneration ตัวยาขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละรายบุคคล
  • ลงเซรั่ม Biorepair ช่วยฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน สูตรเฉพาะ Real Clinic (ให้กลับบ้านด้วย)

 

Q : หัตถการที่แพทย์ทำ ต่อ 1 เคสทำอะไรบ้าง
A : หมอจะใช้หลายๆหัตถการร่วมกัน ในการรักษาครั้งเดียวเลยค่ะ ด้วยปัญหาของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน หัตถการที่ใช้และตัวยาก็จะแตกต่างกันออกไป

โดยหัตถการหลักที่ทำให้ทุกเคส เพื่อการฟื้นฟูหลุมสิวด้วยเนื้อเยื่อตัวเอง ด้วยเทคนิคจากเกาหลี คือ การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปตัดพังผืดและสร้างโพรงอากาศ แล้วฉีดสารฟื้นฟูเนื้อหลุมสิว Skin Regeneration Agents เช่น กรดไฮยาลูโรนิคอนุภาคเล็ก โกรธแฟคเตอร์ โพลีนิวคลีโอไทด์ เข้าไป

หมอขอยกตัวอย่างหัตถการที่แพทย์จะเลือกใช้ให้ดูนะคะ ซึ่งแต่ละหัตถการก็มีหลายเครื่องมือ หลายตัวยาให้เลือกใช้แยกออกไปอีก  " ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแพทย์และสภาพผิวของแต่ละบุคคล "

  • Surgical Subcision ตัดเซาะผังผืดด้วยเข็มชนิดพิเศษ เทคนิคเฉพาะตัว จึงสามารถตัดผังผืดได้อย่างทั่วถึงแบบ Multilevel โดยไม่มีรอยช้ำห้อเลือด แบบการตัดผังผืดด้วยเข็มคมเทคนิคเดิมๆ
  • Air Dissector เป็นการใช้ก๊าซตัดพังผืดชั้นตื้น เพื่อเก็บรายละเอียดอีกครั้ง และช่วยลดอาการบวมช้ำ ทำให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
    การฉีดฟื้นฟูผิวหนังตัวเอง ด้วยการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว และฉีดสารตัวยาสำคัญเข้าไปแทนที่
  • Collagen Induction Therapy (CIT Dermafix) เป็นการรักษาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว โดยผลัดผิวชั้นบน และผลักตัวยาสำคัญให้เข้าถึงทั่วทุกบริเวณอย่างล้ำลึก 
  • Chemical Reconstruction คือการใช้สารเคมีทางการแพทย์มาช่วยกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ขึ้นมาจากก้นหลุมแบบโดยเฉพาะทีละจุด โดย TCA CROSS/Paint/Dot peel Technique ด้วยความเข้มข้นและเทคนิคที่เหมาะสมตามแต่ผิวคนไข้แต่ละราย
  • Skin Regeneration Agents การฉีดสารที่ช่วยฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเอง มีหลายชนิดตามดุลยพินิจแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น กรดไฮยาลูรอนิคอนุภาคเล็ก, Polynucleotides, Peptides
  • การฉีดสารเติมเต็ม Filler เพื่อเข้าไปทดแทนเนื้อเยื่อที่ฝ่อยุบตัวอย่างรุนแรง จนการฟื้นฟูผิวด้วยตัวเองสร้างขึ้นมาไม่ทัน และเป็นบัฟเฟอร์กันชนไม่ให้พังผืดที่ตัดไปแล้ว กลับมารวมตัวกันอีก (เป็นตัวยาเพิ่มเติม แล้วแต่คนไข้แต่ละราย)
  • การฉีดสาร Collagen Biostimulator เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนอีลาสติน ในเคสที่ผิวขาดคอลลาเจนมาก หรือมีผิวไม่กระชับหย่อนคล้อยตามวัยร่วมด้วย (เป็นตัวยาเพิ่มเติม แล้วแต่คนไข้แต่ละราย)


Q : เห็นผลดีแค่ไหน ? ต้องรักษากี่ครั้ง ?
A : ก่อนอื่นจำเป็นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า หลุมสิวคือแผลเป็นชนิดหนึ่งในปัจจุบันยังไม่มีวิธีใดที่จะทำให้หายเรียบเนียนกริบ เสมือนผิวปกติที่ไม่เคยมีแผลเป็นมาก่อนได้เลย 100%   ผลลัพธ์การรักษาด้วยโปรแกรมนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทของหลุมสิวที่เป็น สภาพพื้นฐานผิว กรรมพันธุ์ อายุ และข้อจำกัดของคนไข้เอง โดยทั่วไปในหลุมสิวแบบ Rolling scar ที่ปากแผลกว้าง ขอบไม่ชัดมีพังผืดเกาะไม่ลึกและไม่หนามาก ในบางรายหมออาจรักษาให้ดีขึ้นได้ถึง 60-70% ได้ในการทำหัตถการเพียงครั้งเดียว แต่ในกรณีที่หลุมสิวรุนแรงกว่า เป็นลักษณะจิกลึก ขอบคมชัด มีพังผืดที่หนาและแข็งมากดึงรั้งกับไขมันกล้ามเนื้อชั้นลึกเยอะ อาจรักษาได้ยากขึ้น แบบนี้อาจต้องรักษามากกว่า 2-3 ครั้งเพื่อให้ผลที่ดีขึ้น 40-50%

 
Q : ราคาเท่าไร ?
A : เริ่มต้นที่ 39,900 บาท (ที่ไม่สามารถระบุราคาได้เลย เพราะแต่ละคนปัญหาหนักเบาไม่เท่ากันค่ะ แนะนำคนคนไข้ส่งรูปปัญหา เพื่อให้คุณหมอประเมินราคาเบื้องต้นก่อนเข้ามาค่ะ)

 

Q : ผลข้างเคียง ความปลอดภัย?
A : เป็นหัตถการแพทย์ที่มีความปลอดภัยสูง อาจมีผลข้างเคียง บวม แดง ช้ำได้บ้าง ตามสภาพผิวของแต่ละบุคคลแต่ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหน้า ไม่มีสะเก็ดตาราง ไม่เบิร์นผิวค่ะ



Q : มี อย. ไทยไหม ?
A : ผลิตภัณฑ์ตัวยา รวมถึง เครื่องมือแพทย์ทุกตัวที่ใช้ในการทำหัตถการ มี อย. ไทย ทุกตัวค่ะ 

 

Q : ทำครั้งหนึ่งอยู่ได้นานแค่ไหน? ได้ผลถาวรไหม?
A : พื้นฐานของโปรแกรมการรักษานี้ จะทำให้เกิดการตัดพังผืดและมีการสร้างคอลลาเจนฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวขึ้นมาใหม่ หากมองแค่ในหลักการนี้ก็จะถือว่าเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร   ทำนองเดียวกันกับการทำเลเซอร์เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนขึ้นมาเติมหลุมสิว นั่นเอง

แต่หากมองในแง่ของการมี Aging process เข้ามาเกี่ยวข้องตามธรรมชาติของมนุษย์ร่วมด้วยแล้ว   คอลลาเจนที่ผิวสร้างขึ้นเองนี้ จะมีการลดลงครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่(half-life) ในทุกๆประมาณ 15 ปี ร่วมกับการสูญเสียปริมาตรของโครงสร้างที่พยุงใบหน้า ทั้งชั้นเนื้อเยื่อไขมัน และชั้นกระดูกเมื่อเวลาผ่านไป หากมองในแง่นี้ด้วยก็ควรจะถือว่าเป็นผลลัพธ์แบบกึ่งถาวร    เพราะเมื่อทุกชั้นผิวหนังโดยรวมเกิดความเสื่อมสภาพลงตามวัย ผลลัพธ์ของการรักษาหลุมสิวจากคอลลาเจนที่เคยดีขึ้น ก็มักจะร่วงโรยตามวัยด้วยเช่นกัน

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ช่วยอธิบายได้ว่า ทำไมคนที่มีหลุมสิวมาอย่างยาวนาน แต่ไม่เคยได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมเลย เมื่อมีอายุมากขึ้น หลุมสิวจึงเป็นมากขึ้นไปด้วย ทั้งๆที่ไม่ได้มีสิวใหม่เกิดขึ้นเลย แต่หลุมสิวที่มีอยู่กลับดูเป็นหนักขึ้น

นอกจากนี้ ในกรณีของหลุมสิวที่มีการยุบตัวฝ่อลงของเนื้อเยื่อชั้นไขมันร่วมด้วย ซึ่งจำเป็นต้องฉีดสารเติมเต็มเข้าไปแทนที่ เมื่อเวลาผ่านไปสารเติมเต็มนี้จะถูกสลายไปได้ตามกาลเวลา แต่ในขณะเดียวกันการ Subcisionตัดพังผืดนี้ ร่วมกับอีกคุณสมบัติของสารเติมเต็มที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ด้วยเช่นกัน จะไปกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างเส้นใยคอลลาเจนอิลาสตินขึ้นมาใหม่ ถือเป็นผลที่ได้อย่างถาวร(หรือกึ่งถาวร หากพิจารณาAging processด้วย)

อย่างไรก็ตาม คอลลาเจนที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ขึ้นกับยีนและระบบภูมิคุ้มกันที่เป็นตัวกำหนดการฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิว การหายของแผลในแต่ละบุคคลด้วยค่ะ

Methods & Techniques

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการรักษาแผลเป็นหลุมสิวนั้น มีหลายวิธีด้วยกันโดยหมอจะขอแบ่งเป็นกลุ่มการรักษาเพื่อให้เข้าใจง่ายดังนี้

1.กลุ่ม Resurfacing เรียกง่ายๆก็คือการกรอผิวให้เนียนขึ้นนั่นเองในกลุ่มนี้ก็ได้แก่

  • Dermabrasion/Microdermabrasion คือการใช้เครื่องมือกรอผิวหนังชั้นบนให้เรียบเนียนเสมอกันมากขึ้น โดยใช้เครื่องมือที่มี Aluminum oxide หรือแกล็ดอัญมณี มากรอผิวชั้นบนและขัดออก เพื่อให้เกิดกระวนการ reepithelialisation

  • Chemical peeling คือการใช้สารเคมีมาผลัดผิวเก่าด้านบนออกไป และช่วยกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ขึ้นมาแทน เช่น การใช้กรด Glycolic Acid, Jessner’s Solution, Pyruvic acid, Salicylic acid, TCA peeling, TCA CROSS(Chemical reconstruction of skin scar method) ในความเข้มข้นที่สูงกว่าที่ผสมในครีมเครื่องสำอางทั่วไปมาจี้ตามจุดหลุมสิวหรือทาให้ทั่วใบหน้าโดยต้องทำหลายครั้งและสม่ำเสมอ

  • Laser resurfacing ก็คือการใช้เลเซอร์ชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะชนิดที่เรียกว่า Fractional Laser หรือที่เราเห็นหลังทำแล้วผิวหน้าเป็นสะเก็ดตารางๆ นั่นเอง ซึ่งในท้องตลาดก็มีชื่อเรียกต่าง ๆกันไป ขึ้นอยู่กับต้นกำเนิดพลังงาน เช่น ถ้าเป็นคลื่นวิทยุ (RF, Radiofrequency) ก็เช่นเครื่อง E-matrix, Venus Viva, Fractora, Infini, Geneus, Vivance กลุ่มนี้มีผลพลอยได้เรื่องยกกระชับผิวได้ด้วย หรือถ้าเป็น erbium lasers ถ้าเป็นกลุ่ม Photothermolysis ก็เช่น Fraxel เป็นต้น โดยเลเซอร์ที่ให้ผลลัพธ์การรักษาหลุมสิวดีขึ้นมากที่สุดในกลุ่ม กลับเป็นชนิด Ablative laser คือเป็นเลเซอร์ลอกผิวที่มีความรุนแรงต่อผิวมาก เช่น Ablative Fractional CO2 10600 nm, Fractional 2940 nm Erbium:YAG แม้จะได้ผลที่ดีขึ้นมากถึง 50-80% แต่ต้องแลกมาด้วยผลข้างเคียงเป็นรอยแดงรอยดำที่หน้า(ซึ่งอาจทิ้งรอยดำนานเป็นเดือนๆ หรือเกิดฝ้าขึ้นมาแทน) และมักพบอาการบวม แดง รอยแผลถลอกหลังทำ ที่ต้องพักฟื้นหน้านาน รวมถึงการสมานผิวที่ต้องใช้เวลานานกว่ามาก จึงไม่ได้รับความนิยม และไม่เหมาะกับผิวคนเอเชีย

    และอีกเทคโนโลยีเลเซอร์ใหม่ล่าสุด Picosecond laser ที่ปล่อยพลังงานในช่วงที่สั้นและสูงมาก จึงทำลายเม็ดสีได้ดีมาก และมีการพัฒนาเลนส์พิเศษหัว Fractional ที่ทำให้เกิด LIOB(Laser-induceed optical breakdown) คือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นหนังแท้ และกรอผิวด้านบนให้เรียบเนียน ซึ่งข้อดีของเทคโลโลยีนี้คือ ไม่ค่อยทิ้งรอยดำ PIH แต่อย่างไรก็ตาม หลังทำเลเซอร์ทุกชนิดต้องคอยหลบแดดเช่นกัน

การรักษาเหล่านี้มีหลักการเดียวกันคือทำให้เกิดบาดแผลขึ้นที่ผิวหนังแล้วหวังผลให้ผิวหนังซ่อมแซมตัวเองสร้างคอลลาเจนเนื้อเยื่อใหม่ได้ผิวที่เรียบเนียนขึ้น ในคนไข้บางรายที่ทำเลเซอร์จนครบคอร์สหลายครั้ง แต่ยังรู้สึกไม่เห็นผล อาจเกิดจากมีพังผืดยึดเกาะใต้ผิวมาก หรือบางครั้งเมื่ออายุผิวมากขึ้น คุณภาพผิวเราไม่ดีแล้ว การสร้างใหม่จึงไม่ดีด้วย ทำให้ผิวบางลง ยิ่งทำเลเซอร์บ่อย โดยไม่ได้ทำการฟื้นบำรุงผิวร่วมด้วย ผิวยิ่งบาง หน้ายิ่งแดงง่าย เห็นเส้นเลือดฝอยเล็กๆใต้ผิว แสบหน้า ผิวแพ้ง่าย และผิวหน้าดำคล้ำลงได้ง่าย แม้เวลาถูกแดดเพียงเล็กน้อยก็ตาม

2.กลุ่มการศัลยกรรมตัดพังผืด

  • Fibrous Scar Surgery และ Subcision คือใช้เข็มคมขนาดใหญ่ หรือ เข็มชนิดพิเศษที่มีปลายมีด มาตัดเลาะพังผืดใต้ผิว เป็นวิธีพื้นฐานที่มักทำควบคู่กับวิธีอื่น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด วิธีนี้อาจมีรอยเขียวช้ำ ห้อเลือดตามมาได้ และหากทำโดยเทคนิคที่ไม่ถูกต้องแล้วอาจทำให้เกิดพังผืดใหม่ที่มากขึ้นได้เช่นกัน ปัจจุบันจึงได้มีการศึกษาเทคนิคการตัดพังผืดด้วยเครื่องมืออื่นๆ เช่น เข็มปลายทู่ชนิดพิเศษ, การใช้ก๊าซCO2, การใช้พลังงานลม Air Dissector, คลื่นวิทยุRF มาประยุกต์ใช้ในการทำ Subcision แทนการใช้เข็มคมแบบดั้งเดิม เพื่อลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการใช้เข็มคมหรือปลายมีด มีการศึกษาวิจัย พบว่าให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้เช่นกัน

  • Punch Technique ได้แก่ Punch excision, Punch elevation, Punch grafting เป็นการผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อตรงที่เป็นหลุมสิวออกไป แล้วเย็บปิดแผล หรือใช้เนื้อผิวบริเวณอื่นมาปลูกถ่ายลงบริเวณที่โดนตัดออก เป็นการเปลี่ยนชนิดแผลเป็นจากแบบหลุมเป็นแบบเส้น แล้วใช้ Laser resurfacing ช่วยลดรอยแผลใหม่อีกที วิธีนี้ดูเหมือนเป็นการรักษาที่ตัดต้นตอของหลุมสิวออกไปได้มากที่สุด แต่มีข้อจำกัดในด้านการดูแลรักษา การหายของแผล การติด/สมานแผลของผิวที่นำมาปลูกถ่าย และเสี่ยงเกิดรอยแผลเป็นชนิดใหม่ตามมาได้เช่นกัน จึงไม่ใช่วิธีแรกที่ถูกพิจารณาในการเลือกรักษา


3.กลุ่มเครื่องมือที่ใช้เข็ม (Skin needling)
เช่น Dermaroller, Dermapen, Derma stamp, Dermafix, เลเซอร์ Microneedle กลุ่มนี้ใช้หลักการทำให้ผิวเกิดการบาดเจ็บด้วยเข็มขนาดเล็ก เพื่อให้ร่างกายเกิดกระบวนการรักษาบาดแผลขึ้นมา จึงมีการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาซ่อมแซมผิวด้วย ในกลุ่มนี้ต้องระวังการทำลูกกลิ้ง Dermaroller ที่ปัจจุบันมีการศึกษาพบว่าไม่ได้ช่วยให้หลุมสิวดีขึ้น แต่ยังทำให้เกิดบาดแผลที่ผิวชั้นบนมากยิ่งขึ้น เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มาก 

 


ประโยชน์ของ Microneedling?
กลุ่มเครื่องมือที่ใช้เข็มขนาดเล็ก microneedling สามารถช่วยแก้ไขหลุมสิวได้ในระดับตื้นถึงปานกลางเท่านั้น ข้อดีคือสามารถช่วยผลัดผิวชั้นบน ใช้ร่วมกับการผลักดันตัวยาหรือ ได้ดี และไม่ค่อยมีผลข้างเคียงเรื่องรอยดำหลังทำเลเซอร์ ไม่ต้องพักฟื้นผิวหน้าหลังทำ  แต่อย่างไรก็ตามหากเทียบประสิทธิภาพในการกระตุ้นคอลลาเจน(เทียบเฉพาะเครื่องมือ ไม่รวมตัวยาที่ใช้) การทำ Fractional Laser ยังคงให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า


4.กลุ่มสารเติมเต็มและยกกระชับ

  • การฉีดไขมันเติมเต็ม (Autologous Fat Transfer) มีข้อดีตรงที่เป็นไขมันของคนไข้เอง ไม่เกิดปฏิกิริยาการแพ้ แต่ข้อเสียคือไม่สามารถคาดการณ์อัตราการติดของไขมันได้ หรือหากเติมมากเกินไปอาจกลายเป็นก้อนนูนไม่เรียบแทน จึงไม่เป็นที่นิยมในการใช้รักษาหลุมสิว
  • การใช้สารเติมเต็มหลุมสิว (Acne Scar Dermal Filler) วิธีนี้ได้รับความนิยมมากในระดับสากล เนื่องจากเห็นผลไว downtimeน้อย มักใช้เป็นcombinationร่วมกับวิธีอื่น เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงชัดเจน และให้ผลที่ยาวนาน ในปัจจุบันมีการพัฒนานวัตกรรมสารเติมเต็มขึ้นมาหลายชนิด ไม่เพียงเพื่อเติมเต็มเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีมากอีกด้วย โดยในส่วนของการแก้ปัญหาหลุมสิวนี้ จะต้องอาศัยสารที่มีคุณสมบัติเป็น Collagen Stimulating Filler เป็นหลัก ฟิลเลอร์ในกลุ่มนี้ ได้แก่ PLLA (เช่น Sculptra ผ่าน อย.ไทยแล้ว) , Calcium hydroxyapatite (เช่น Radiesse), PMMA, Low molecular weight and High molecular weight HA, PCL แต่สารเติมเต็มหลายตัวในกลุ่มนี้ยังไม่ผ่านการรับรองจาก อย.ของไทย 
    • สารเติมเต็ม ที่มีใช้อย่างแพร่หลายและได้รับการรับรองจาก อย.ของไทย คือ ชนิด Hyaluronic acid หรือ HA Filler กลุ่มนี้มีคุณสมบัติหลักๆในการเพิ่ม Volume และบางรุ่นที่เป็น Skin booster ก็สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้เช่นกัน จากกลไกของ Fibroblast stretching ซึ่งวิธีการคือใช้ HA Filler มาฉีดเติมเข้าไปที่ก้นหลุมให้เนื้อผิวฟูเต็มขึ้นมาโดยตรง ด้วยเทคนิคการฉีดแบบต่างๆ วิธีนี้เหมาะกับหลุมสิวชนิด rolling scar ที่มีปากแผลกว้าง ขอบสโลปและก้นแผลตื้น โดยต้องมีการตัดเซาะพังผืดใต้แผลร่วมด้วย จึงจะได้ผลดี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฝีมือความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ฉีดเป็นหลัก หลังเติมจะเห็นผลชัดเจนทันที  
    • และอีกเทคนิคหนึ่งของการใช้ฟิลเลอร์มาช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นทางอ้อม ด้วยเทคนิค Filler Lifting and Volumizing คือการใช้ฟิลเลอร์มายกกระชับและเติมเต็มบริเวณผิวข้างเคียงหลุมสิว ทำให้หลุมสิวถูกตรึงให้ตื้นขึ้น เทคนิคนี้นอกจากช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นแล้วยังช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนวัยสดใสขึ้นได้อีกด้วยค่ะ
    • ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์หลุมสิวจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเลยทันทีกว่า 50% อยู่ได้นานประมาณ 1 ปีในกรณีของ HA Filler และ 2-5 ปีขึ้นไปในกรณีของกลุ่ม PLLA (เช่น Sculptra ผ่าน อย.ไทยแล้ว) และ PMMA  โดยในระหว่างที่ฟิลเลอร์ยังคงอยู่ใต้ผิวเราจะช่วยบำรุงและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีลาสตินใหม่ที่แข็งแรงขึ้น แม้ว่าเวลาผ่านไปแล้วฟิลเลอร์จะสลายหมด ผิวตรงหลุมสิวก็จะยังคงดีกว่าตอนก่อนฉีดค่ะ

Reference

-Kravvas G, Al-Niaimi F. A systematic review of treatments for acne scarring. Part 1: Non-energy-based techniques. Scars, Burns & Healing, Volume 3, 2017
-Kravvas G, Al-Niaimi F. A systematic review of treatments for acne scarring. Part 2: Energy-based techniques. Scars, Burns & Healing, Volume 4, 2018. 
-Jordan R, Cummins CCL, Burls A, Seukeran DDC. Laser resurfacing for facial acne scars. Cochrane Database of Systematic Reviews 2000, Issue 3
-Bhargava, S., Cunha, P.R., Lee, J. et al. Acne Scarring Management: Systematic Review and Evaluation of the Evidence. Am J Clin Dermatol 19, 459–477 (2018)
-Review Article Acne Scars: Pathogenesis, Classification and Treatment


https://www.researchgate.net/publication/338749120_Improvement_of_Atrophic_Acne_Scar_and_Skin_Complexity_by_Combination_of_Aqueous_Human_Extract_and_Mesenchymal_Mesotherapy

Powered by MakeWebEasy.com