Program Real Juvgen

เพื่อให้เข้าใจ Program Real Juvgen มากขึ้น สามารถศึกษาข้อมูลต่างๆ ได้ตามหัวข้อต่อไปนี้ค่ะ

 

 

 

juvgen
juvgen realclinic รักษาหลุมสิว
รักษาหลุมสิว,ตัดพังผืด,รักษาหลุมสิว, วิธีรักษาหลุมสิว, Subcision, เติมฟิลเลอร์, Real Scar Synergy, รักษาหลุมสิวที่ไหนดี,Juvgen,acnescarsurgery,acnescarrevision,รักษาหลุมสิวให้ตื้น,เลเซอร์หลุมสิว, รักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด,รักษาหลุมสิวให้หายขาด,หลุมสิว,realc

Program Real Juvgen คืออะไร

 

Program Real Juvgen คือ โปรแกรมการรักษาหลุมสิว ที่คุณหมอรมิตา ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจาก ดร.จิน ศัลยแพทย์ชาวเกาหลี เป็นแนวทางการรักษาหลุมสิว ซึ่งมุ่งเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวหนัง โดยใช้การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) และกรดไฮยาลูโรนิกอนุภาคเล็ก เข้าสู่ชั้นหนังแท้บริเวณที่มีปัญหา เช่น หลุมสิว ริ้วรอยร่องลึก หรือแผลเป็นที่ผิวหนังยุบตัว กระบวนการนี้จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนและผิวใหม่ เพื่อทดแทนผิวที่เคยเป็นหลุม ให้สามารถฟูตัวขึ้นมา ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เนื้อเยื่อใหม่ โดยไม่ทำลายโครงสร้างผิวหนัง หลังการรักษา จะสังเกตเห็นการยกตัวของหลุมสิว ผิวจะค่อยๆ ฟื้นตัวและดูเรียบเนียนขึ้น

*ข้อควรระวัง:* ควรเลือกสถานพยาบาลและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความชำนาญในการรักษาด้วยเทคนิค JUVGEN ที่ผ่านการรับรองจาก ดร.จิน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หลักการทำงานของ Real Juvgen
จูวีเจน (JUVGEN) คือ เทคนิคการรักษาหลุมสิวที่อาศัยกลไก ทางเคมี (chemical) ทางชีวภาพ (biological) และทางกายภาพ (physical) โดยใช้สารประกอบหลักคือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และกรดไฮยาลูโรนิก (HA)อนุภาคเล็ก การทำงานของเทคนิคนี้เริ่มจากการฉีดสารละลายเข้าสู่ชั้นหนังแท้ใต้หลุมสิว ซึ่งเป็นบริเวณที่เนื้อเยื่อผิวถูกทำลายและยุบตัวลง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะช่วยเติมเต็มช่องว่างของหลุมสิวในทันที พร้อมๆกับที่กรดไฮยาลูโรนิก (HA) อนุภาคเล็ก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนปริมาณมาก นอกจากนี้กระบวนการฉีดสารละลายยังทำหน้าที่เสมือนการตัดพังผืดอย่างอ่อนโยน ช่วยให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาทดแทน 

Program Real Juvgen แตกต่างจากการรักษาหลุมสิวทั่วไปอย่างไร
การรักษาหลุมสิวส่วนใหญ่ในประเทศไทยนั้น มักจะเน้นไปที่วิธีการทำเลเซอร์เป็นหลัก เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาที่ค่อนข้างปลอดภัยไม่ซับซ้อน แต่มีข้อจำกัดคือจำเป็นต้องทำซ้ำต่อเนื่องหลายครั้ง โดยในแต่ละครั้งหลังทำก็จะมีสะเก็ดแผลที่หน้าตามมา จึงจำเป็นต้องมีการพักหน้าห้ามออกแดดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ อีกทั้งช่วงที่แผลสะเก็ดกำลังหลุดลอกออกก็จะแต่งหน้าออกไปทำงานได้ลำบาก ทำให้คนไข้ส่วนใหญ่มักหมดหวังและท้อใจกันไปก่อนที่จะครบคอร์สการรักษา

Program Real Juvgen เป็นเทคนิคการรักษาหลุมสิวที่จัดอยู่ในกลุ่ม Non-Energy Based Acne Scar Revision ใช้หัตถการฝีมือแพทย์เป็นหลัก เป็นอีกทางเลือกการรักษาที่เห็นผลได้ชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และผลอยู่ได้ยาวนานกว่าการฉีดฟิลเลอร์ อย่างไรก็ตามการรักษาหลุมสิวด้วยเทคนิค JUVGEN มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงกว่าวิธีทั่วไป เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ต้องใช้ตัวยาและเครื่องมือเฉพาะ ทั้งยังต้องอาศัยฝีมือความชำนาญของแพทย์ผู้ทำเป็นหลักสำคัญอีกด้วย

**ที่เรียลคลินิก คุณหมอรมิตาได้รับการถ่ายทอดเทคนิควิธีการรักษาด้วย JUVGEN นี้ จาก ดร.จินเซฮุน ศัลยแพทย์ผู้คิดค้นเทคนิคนี้โดยตรง อีกทั้งคุณหมอรมิตายังมีความชำนาญในด้านการรักษาหลุมสิวด้วยวิธีการใช้หัตถการฝีมือแพทย์เป็นหลักอยู่แล้วเป็นทุนเดิม และเป็นแพทย์ผู้สอนฉีดฟิลเลอร์ที่มีความถนัดในการฉีดเติมเต็มหลุมสิวและบริเวณใต้ตา ซึ่งเป็นการรักษาที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ อาศัยความละเอียดความชำนาญเฉพาะตัวเป็นอย่างมาก
Program Real Juvgen เหมาะกับใคร?

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว รอยแผลเป็นลึก หรือปัญหาริ้วรอยร่องลึกต่างๆ
  • ทั้งนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีหลุมสิวชนิดแอ่งคลื่น Rolling Scar และหลุมกล่อง Boxcar ที่ขอบแผลไม่หนาคมมาก
  • โดยเฉพาะผู้ที่เคยลองใช้การรักษาอื่นแล้วไม่ได้ผลดีหรือยังมีร่องรอยที่ลึกคงเหลือ
  • Juvgen จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว โดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือใช้สารเคมีที่อาจทำให้เกิดการแพ้ได้

ข้อควรระวังและการเตรียมตัวก่อนทำ Real Juvgen
เพื่อให้การรักษาหลุมสิวด้วย Real Juvgen ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรพิจารณาข้อควรระวังและเตรียมตัวตามขั้นตอนดังนี้:

  1. การปรึกษาแพทย์: แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและตรวจสอบว่าผิวของคุณเหมาะสมกับการรักษาหรือไม่ แพทย์อาจทำการตรวจสอบประวัติสุขภาพอย่างละเอียด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้สารต่าง ๆ หรือมีปัญหาสุขภาพที่อาจทำให้การรักษาไม่ปลอดภัย
  2. งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิว: หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารที่อาจทำให้ผิวบางลงหรือระคายเคือง เช่น กรดวิตามินเอ (Retinol) หรือสารในกลุ่ม AHA, BHA เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการรักษา
  3. การดูแลผิวหลังการรักษา: หลังจากทำ Juvgen ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดและใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ควรงดการใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือสารเคมีที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองชั่วคราว
  4. งดการทำเลเซอร์หรือพลังงานความร้อนต่างๆในบริเวณที่ฉีด อย่างน้อย 3-6 เดือน
  5. ติดตามผลการรักษา: แพทย์อาจแนะนำให้กลับมาติดตามผลหลังการรักษาภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อประเมินผลลัพธ์และหากมีการฟื้นฟูคอลลาเจนได้ไม่เต็มที่ อาจแนะนำการทบทวนการรักษาในอนาคตเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

 ระยะเวลาการพักฟื้นหลังทำ Real Juvgen

  • ข้อดีคือใช้ระยะเวลาพักฟื้นสั้น เมื่อเทียบกับการรักษาหลุมสิวแบบอื่น ๆ
  • ส่วนใหญ่ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ภายใน 1-3 วัน
  • โดยทั่วไปจะมีอาการบวมแดงเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะค่อย ๆ ลดลงและหายได้เองภายในไม่กี่วัน
  • แพทย์อาจแนะนำการทายาหรือปิดแผลเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยลดการอักเสบ

ดร. จิน ศัลยแพทย์ตกแต่ง เป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ด้านการฟื้นฟูผิวและการรักษารอยแผลเป็นหลุมสิว โดยพัฒนาเทคนิค Juvgen ที่มีประสิทธิภาพสูงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวสามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยใช้การกระตุ้นการฟื้นฟูของร่างกาย ผ่านการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ร่วมกับ กรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งทำให้เทคนิค JUVGEN สามารถซึมลึกเข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ได้ดี และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่เรียบเนียนและรอยแผลเป็นหลุมสิวตื้นขึ้นได้ในทันที และได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ผิวหนังว่าเป็นนวัตกรรมที่มีความปลอดภัยสูงและมีประสิทธิภาพในการรักษาหลุมสิวอย่างยั่งยืน

ผลงานของ ดร.จิน ถูกนำเสนอในการประชุมวิชาการและงานวิจัยหลายแห่ง และได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียง ปัจจุบันเขายังดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาให้กับคลินิกผิวหนังหลายแห่งและยังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับเชิญให้บรรยายเกี่ยวกับเทคนิคการหลุมสิว เขาเน้นการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัดแต่เห็นผลชัดเจน โดยการใช้วิธีที่กระตุ้นการฟื้นฟูของผิวเอง ซึ่งทำให้ผลลัพธ์การรักษาของเขาได้รับความพึงพอใจอย่างมากจากผู้เข้ารับการรักษาทั่วโลก

ทำ Juvgen กับ Dr.Ramita พิเศษอย่างไร?

 

1. ผลลัพธ์ที่ได้มาตรฐานเดียวกับการทำโดย Dr. Jin
Juvgen ไม่ใช่เครื่องเลเซอร์ที่สามารถกดปุ่มแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีได้ดั่งใจ แต่มันคือหัตถการที่ต้องอาศัย ทักษะ ความชำนาญ และความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับโครงสร้างผิว รวมถึงการประเมินหลุมสิวอย่างละเอียดเพื่อให้เกิดการฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งการรักษาด้วย Juvgen ต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวในการทำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และแพทย์ที่จะทำการรักษาด้วย Juvgen ได้นั้น ต้องผ่านการฝึกอบรมและรับรองจาก Acedemy ของ  Dr. Jin เท่านั้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าแพทย์ผู้นั้นสามารถรักษาได้ตามมาตรฐานเดียวกับที่ Dr. Jin กำหนดไว้นั่นเอง

  • พญ. รมิตา เป็นแพทย์ไทย และแพทย์ต่างชาติคนแรกที่ Dr. Jin ให้ความไว้วางใจ ถ่ายทอดเทคนิค Juvgen * ให้โดยตรง แบบตัวต่อตัว พร้อมทั้งให้การรับรองอย่างเป็นทางการ ว่า พญ. รมิตามีทั้งทักษะและประสบการณ์ในการประเมินปัญหาหลุมสิวอย่างแม่นยำ และรับรองการรักษาด้วย Juvgen ภายใต้การดูแลของ พญ. รมิตา นั้นได้มาตรฐานเดียวกับการทำโดย Dr. Jin ตรงตามแนวทางของต้นตำรับอย่างแท้จริง 

*ผลลัพธ์ที่ได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่การใช้ Juvgen เท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับทักษะของแพทย์ผู้ทำ แม้ว่าใช้ Juvgen เหมือนกัน แต่ทักษะและประสบการณ์ของแพทย์จะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ แตกต่างกันอย่างชัดเจน

 

2. ความสามารถของ พญ.รมิตา

พญ.รมิตา มีความเชี่ยวชาญพิเศษ และหลงไหลในการรักษาหลุมสิวด้วยหัตถการเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยโปรแกรม Real Scar Synergy (RSS) ที่ พญ. รมิตา คิดค้นและพัฒนาเอง ก็เป็นการใช้หัตถการ ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูหลุมสิวเช่นเดียวกับ Juvgen ร่วมกับฝีมือความละเอียดเฉพาะตัว ทำให้ พญ. รมิตา มีความคุ้นเคยกับเทคนิคการรักษาที่ใช้เครื่องมือและหัตถการในเชิงลึก พร้อมประสบการณ์ที่ยาวนานและมีเทคนิคการรักษาที่เหนือกว่า มีผลงานการแก้ไขรอยแผลเป็นหลุมสิวให้คนไข้ดีขึ้นได้จริงเป็นจำนวนมาก จึงมั่นใจได้ว่าการรักษาด้วย Juvgen ภายใต้การดูแลของพญ. รมิตาจะได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสม

 

3. การดูแลอย่างมืออาชีพละเอียดและตรงจุด

  • ให้ความสำคัญกับการดูแลคนไข้ ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าปัญหาจะเล็กน้อยเพียงใดก็ไม่เคยมองข้าม เพราะหมอเชื่อว่าทุกเรื่องที่กวนใจคนไข้มีความสำคัญ และสมควรได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด คุณหมอรมิตารับฟังปัญหาของคนไข้ด้วยความเข้าใจและใส่ใจเสมือนเป็นปัญหาของตัวเอง พร้อมใช้ความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ เพื่อออกแบบการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
  • เน้นการดูแลอย่างมืออาชีพและจริงใจ โดยจะให้คำแนะนำที่ตรงไปตรงมาและเป็นประโยชน์ตามปัญหาผิวของแต่ละบุคคล
  • การติดตามผลหลังการรักษา คืออีกหนึ่งสิ่งที่ พญ. รมิตา ให้ความสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้รับบริการจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในระยะยาว 

 

4. ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและปลอดภัย
ที่ Real Clinic เรามีโปรแกรมครบวงจรในการรักษาหลุมสิว ตั้งแต่การเริ่มต้นด้วย Juvgen ไปจนถึงโปรแกรมเสริมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา เช่น Real Scar Synergy ,Real Skin Quality, ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระยะยาว รวมไปถึงยังมี เลเซอร์เกลี่ยขอบหลุมสิว, เลเซอร์กระชับรูขุมขน การมีโปรแกรมที่หลากหลาย และสามารถปรับใช้ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ทำให้มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้รับห็นผลอย่างชัดเจน รวมถึงฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงและสุขภาพดีในระยะยาว.


5. การรักษาที่มุ่งเน้นที่ผลลัพธ์ ไม่ใช่การขาย

  • " ทั้ง Dr. Jin และ พญ. รมิตา จะไม่ทำการรักษาที่ไม่เหมาะสม หรือการรักษาที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ หากพวกเขาประเมินแล้วว่าไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้ ก็จะไม่ทำการรักษานั้น ๆ แนวทางการรักษาของ Dr. Jin และ พญ.รมิตา มีความตรงกันในเรื่องของปรัชญา "ที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยไม่มุ่งเน้นยอดขายที่ไม่จำเป็น
  • Juvgen ไม่ใช่การรักษาที่เหมาะสมกับทุกปัญหาหลุมสิว คุณหมอรมิตา จะเลือกใช้ Juvgen เฉพาะในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น หากประเมินแล้วว่ามีเทคนิคอื่นๆที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ท่านจะเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาหลุมสิวนั้นๆแทน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด โดยไม่ได้คำนึงถึงยอดขาย 

สรุป การรักษาด้วย Pregram Real Juvgen ภายใต้การดูแลของ พญ. รมิตา จึงไม่เพียงแค่การให้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการดูแลในระยะยาว และการให้คำแนะนำที่ตรงไปตรงมาและจริงใจ ผลลัพธ์ที่ได้จึงได้มาตรฐานเดียวกับการทำโดย Dr. Jin ตรงตามแนวทางของต้นตำรับอย่างแท้จริง

เพิ่มเพื่อน

Q & A

Q: Program Real Juvgen ทำแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน? ให้ผลถาวรหรือไม่?
A: โดยหลักการพื้นฐานแล้วและงานวิจัยแล้ว Program Real Juvgen เป็นนวัตกรรมที่ทำให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง ในทางการแพทย์จึงถือเป็นผลลัพธ์ที่ถาวร แต่หากมองในแง่ของการมีปัจจัยด้าน Aging process ตามธรรมชาติของร่างกายมนุษย์แล้ว คอลลาเจนที่ผิวคนเราสร้างขึ้นมา ก็ไม่ได้มีอยู่ถาวรแต่ก็จะเสื่อมลงตามวัย มีการลดลงเรื่อยๆ (ประมาณครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่ทุกๆ 15 ปี) ร่วมกับการสูญเสียปริมาตรของโครงสร้างที่พยุงใบหน้า ทั้งชั้นไขมัน และชั้นกระดูกเมื่อเวลาผ่านไป หากมองในแง่นี้ด้วยก็ควรจะถือว่าเป็นผลลัพธ์แบบกึ่งถาวร เพราะเมื่อทุกชั้นผิวเกิดการเสื่อมสภาพลงตามวัย ผลลัพธ์ของการรักษาหลุมสิวจากคอลลาเจนที่เคยดีขึ้น ก็มักจะร่วงโรยตามวัยด้วยเช่นกัน

จุดเด่นของ Program Real Juvgen ที่ทำให้เป็นที่นิยมและทำให้ดร.จิน แพทย์ผู้คิดค้นวิธีนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง ก็คือผลลัพธ์การรักษาที่เห็นได้ทันทีและมีรายงานเคสผลลัพธ์คงอยู่ได้ยาวนานกว่า 5-10 ปีขึ้นไป เนื่องจากกระบวนการทำงานของ Program Real Juvgen นั้นไม่ได้อาศัยการเติมสารเติมเต็มแบบการฉีดฟิลเลอร์ แต่เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเอง จากการทำปฏิกิริยาของสารสำคัญสองชนิดคือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และกรดไฮยาลูโรนิคอนุภาคเล็ก คอลลาเจนที่เกิดขึ้นนี้จึงเป็นเนื้อเยื่อธรรมชาติที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาเอง ไม่ใช่การเติมเต็มชั่วคราวแบบฟิลเลอร์ที่มักจะคงอยู่ได้เพียงระยะเวลาหนึ่งก่อนจะค่อยๆสลายตัวไป

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์การรักษาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ สุขภาพ พื้นฐานผิวเดิม ลักษณะของหลุมสิว กรรมพันธุ์ และการดูแลผิวพรรณ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมในการใช้ Program Real Juvgen และเพื่อให้คำแนะนำที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลผิวพรรณหลังการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและยั่งยืนที่สุดค่ะ

 

Q : Program Real Juvgen ต้องทำบ่อยไหม? ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
A : ด้วยเทคนิคการรักษาหลุมสิวแบบใหม่นี้ คนไข้จะเห็นผลได้ทันทีหลังการรักษาเพียงครั้งเดียว อีกจุดเด่นสำคัญคือความถาวรของผลลัพธ์ เนื่องจากเทคนิคนี้ไม่ใช่การเติมเต็มแบบชั่วคราว แต่เป็นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวด้วยตัวเอง จึงกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้หลุมสิวค่อยๆตื้นขึ้นอย่างยาวนาน แตกต่างจากวิธีการอื่นๆที่อาจต้องรักษาซ้ำหลายครั้ง และผลลัพธ์อาจไม่คงอยู่ถาวร อย่างไรก็ตามแม้เทคนิคนี้จะมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาหลุมสิวให้ตื้นขึ้นได้ทันทีและให้ผลอย่างถาวร แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของหลุมสิว สภาพผิว และปัจจัยอื่นๆ จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลค่ะ

 

Q : Program Real Juvgen ปลอดภัยแค่ไหน?
A : เทคนิคการรักษานี้ได้รับการออกแบบให้มีความปลอดภัยสูง คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บปวดในขณะทำการรักษา ความปลอดภัยนี้ได้รับการรับรองในระดับสากลและมีงานวิจัยรองรับตีพิมพ์ลงวารสารของวงการศัลยแพทย์ระดับโลก โดยมีการจดและยื่นจดสิทธิบัตรแล้วกว่า 40 ฉบับ ในหลายประเทศชั้นนำ เช่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และในประเทศไทยเอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานและความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับในระดับ เป็นเครื่องหมายรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยที่ผู้เข้ารับการรักษาสามารถไว้วางใจได้ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและรับคำแนะนำที่ถูกต้องก่อนการรักษา เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

Q : Program Real Juvgen แก้ไขปัญหาผิวหน้าอย่างอื่นได้อีกไหม?
A : Program Real Juvgen ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวเท่านั้น แต่ยังสามารถแก้ไขปัญหารอยแผลเป็น และริ้วรอยร่องลึกที่ผิวหน้าอื่นๆ ได้อีกด้วย เนื่องจากกลไกการทำงานที่เข้าถึงชั้นผิวหนังแท้ได้อย่างละเอียด Program Real Juvgen จึงสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยเนื้อเยื่อใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น การรักษาร่องน้ำหมาก ริ้วรอยร่องลึก รอยแผลเป็นชนิดผิวยุบตัวอื่นๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายครั้งแม้การฉีด Bo filler ทำเลเซอร์ หรือแม้กระทั่งการผ่าตัดดึงหน้า ก็ยังไม่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากวิธีการเหล่านั้นมักจะสามารถเข้าไปแก้ไขได้เพียงแค่บางชั้นผิวเท่านั้น แต่Program Real Juvgen แตกต่างออกไปด้วยเทคนิคการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และกรดไฮยาลูโรนิคลงสู่ชั้นหนังแท้ จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้แผลเป็นร่องลึกเหล่านั้นดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าวิธีการรักษาแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปัญหาผิว และปัจจัยอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสม และรับคำแนะนำที่ถูกต้องก่อนการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย

รีวิวการรักษาหลุมสิว

 

 

* ทุกรีวิวของคุณหมอได้รับการยินยอมจากคนไข้ให้นำมาเผยแพร่
* ทุกรีวิวเป็นคนไข้ทางคลินิกจริง
* *ผลจากการรักษาสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย

juvgen drjin ดร.จิน หลุมสิวเกาหลี รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว real scar synergy dr ramita
drramita
juvgen drjin ดร.จิน หลุมสิวเกาหลี รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว real scar synergy dr ramita รีวิวหลุมสิว
รักษาหลุมสิว,ตัดพังผืด,รักษาหลุมสิว, วิธีรักษาหลุมสิว, Fractional Laser, Microneedling, Subcision, เติมฟิลเลอร์, Real Scar Synergy, Juvgen,acnescarsurgery,acnescarrevision,รักษาหลุมสิวให้ตื้น,เลเซอร์หลุมสิว, รักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด,รักษาหลุมสิวให้หายขาด,ห
juvgen drjin ดร.จิน หลุมสิวเกาหลี รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว real scar synergy dr ramita  รีวิวหลุมสิว
รักษาหลุมสิว,ตัดพังผืด,รักษาหลุมสิว, วิธีรักษาหลุมสิว, Subcision, เติมฟิลเลอร์, Real Scar Synergy, รักษาหลุมสิวที่ไหนดี,Juvgen,acnescarsurgery,acnescarrevision,รักษาหลุมสิวให้ตื้น,เลเซอร์หลุมสิว, รักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด,รักษาหลุมสิวให้หายขาด,หลุมสิว,realc
juvgen drjin ดร.จิน หลุมสิวเกาหลี รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว real scar synergy dr ramita  รีวิวหลุมสิว
juvgen drjin ดร.จิน หลุมสิวเกาหลี รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว real scar synergy dr ramita
juvgen drjin ดร.จิน หลุมสิวเกาหลี รักษาหลุมสิว ศัลยกรรมหลุมสิว real scar synergy dr ramita
รักษาหลุมสิว,ตัดพังผืด,รักษาหลุมสิว, วิธีรักษาหลุมสิว, Fractional Laser, Microneedling, Subcision, เติมฟิลเลอร์, Real Scar Synergy, Juvgen,acnescarsurgery,acnescarrevision,รักษาหลุมสิวให้ตื้น,เลเซอร์หลุมสิว, รักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด,รักษาหลุมสิวให้หายขาด,ห

ฟิลเลอร์หลุมสิว: เรื่องจริงที่หมออยากเล่า ไม่ใช่ใครก็ฉีดได้ และไม่ใช่หลุมไหนก็ฉีดได้

ฟิลเลอร์หลุมสิวคืออะไร ฟิลเลอร์อยู่ไม่นาน แล้วหลุมสิวจะกลับมาไหม? คำตอบจริงที่ควรรู้

คู่มือฉบับตำรา โดย คุณหมอรมิตา | อธิบายครบถ้วน ไม่ย่อ ไม่ข้าม: พยาธิกำเนิดของหลุมสิว, กลไก Lift–Buffer–Biostimulation, เหตุผลที่ฟิลเลอร์สลายแต่ผลลัพธ์ยังคงอยู่, ทำไม Subcision + Filler จึงสำคัญ, อายุการคงตัวของฟิลเลอร์, คุณสมบัติด้าน Rheology, เทคนิคการเลือกตามชนิดหลุม, ภาวะแทรกซ้อน, โปรแกรมการรักษาแบบองค์รวม, พร้อมแหล่งอ้างอิงจากงานวิจัยระดับสากล

สิ่งที่หมอเขียนในบทความนี้เป็นข้อมูลที่อ้างอิงจากวารสารทางการแพทย์และงานวิจัยจริง (เช่น Dermatologic Surgery, JCAD, PMC, Wiley Online Library) ที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า ฟิลเลอร์ไม่ได้แค่เติมวอลุ่มแล้วสลายไปเฉยๆ แต่ยังทำหน้าที่ “กันพังผืดติดซ้ำ” และ “กระตุ้นคอลลาเจนใหม่” ให้ผิวฟื้นฟูต่อเนื่อง ผลลัพธ์จึงอยู่ยาวกว่าตัวฟิลเลอร์เอง

1) หลุมสิวคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร

หลุมสิว (atrophic acne scars) เกิดจากสิวอักเสบที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในหนังแท้ ขณะเดียวกันร่างกายซ่อมแซมไม่สมบูรณ์ จึงเกิด พังผืดดึงรั้ง (fibrotic anchoring/tethering) ยึดผิวลงไป ทำให้พื้นผิวทรุดเป็นหลุมถาวรบางส่วน ประเภทหลัก ได้แก่:

  • Icepick: ปากแคบ ลึก คล้ายรอยจิ้มเข็ม
  • Boxcar: ขอบชัด ขอบตั้งชัน ความลึกหลากหลาย
  • Rolling: ผิวเป็นคลื่นจากพังผืดใต้ผิวดึงรั้ง
  • Polymorphic: ผสมหลายชนิดในใบหน้าเดียว

แนวคิดสมัยใหม่จึงเป็นการรักษาแบบผสมผสาน โดยยึดหลัก Release Replace Remodel Refine: ปลดพังผืด (subcision), เติม/ค้ำฐานหลุม (filler), กระตุ้นการรีโมเดลของผิว (fractional/RF/ชีววิธี), และเก็บรายละเอียดขอบหลุม เพื่อให้พื้นผิวเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ

2) ประเมินหลุมสิวอย่างไรให้ตรงกัน (Goodman & Baron / ECCA / ภาพ 3D)

Goodman & Baron Scale

ใช้ทั้งแบบเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ เพื่อประเมินความรุนแรงและชนิดหลุมสิว ผูกโยงกับแนวทางหัตถการที่เหมาะสมในแต่ละระดับ ช่วยให้หมอคนไข้ เห็นภาพเดียวกัน ตั้งแต่ก่อนเริ่มรักษา

ECCA Score

ให้คะแนนเชิงตัวเลข แยกชนิดหลุม ความกว้าง ความลึก เพื่อติดตามเปอร์เซ็นต์การดีขึ้นเป็นตัวเลข (วัตถุวิสัย) ใช้คู่กับภาพถ่ายมาตรฐาน แสงเฉียง และในเคสวิจัยสามารถเสริมด้วยภาพ 3D/วิเคราะห์ปริมาตร

การมี baseline ที่แม่น ทำให้การอธิบายผลลัพธ์ ไม่คลาดเคลื่อน และช่วยตัดสินใจการปรับแผนในรอบถัดไปได้ตรงจุด

3) ฟิลเลอร์คืออะไร และใช้รักษาหลุมสิวอย่างไร

Dermal filler คือสารเจลที่ฉีดลงไปในชั้นผิวเพื่อ ยกฐานหลุม ให้กลับมาใกล้เคียงผิวรอบข้าง และในหลายกรณีทำหน้าที่ กระตุ้นซ่อมแซม ไปพร้อมกัน กลุ่มหลักที่ใช้กับหลุมสิว:

  • Hyaluronic Acid (HA) เห็นผลทันที ปลอดภัย โปรไฟล์ภาวะแทรกซ้อนระยะยาวต่ำ และ reversible ด้วย hyaluronidase จึงเหมาะเป็น first-line ในเวชปฏิบัติ
  • Biostimulators (เช่น CaHA, PLLA/Sculptra, PCL/Gouri) ให้ผลค้ำบางส่วนและกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว เหมาะบางชั้น/บางตำแหน่ง ต้องคัดกรองเคสและอธิบายการแก้ไขย้อนกลับที่ทำได้ยากกว่า HA
  • PMMA (Bellafill) ในสหรัฐฯ ได้ข้อบ่งชี้ FDA สำหรับ acne scars บางชนิด แต่เป็นวัสดุถาวร-กึ่งถาวร จึงต้องคัดเลือกและติดตามเข้มงวด (ตรวจสถานะ อย.ไทยทุกครั้งก่อนใช้จริง)

4) ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน (และทำไม อยู่ได้นาน ผลเท่าวันแรก)

HA โดยเฉลี่ยอยู่ราว 10-18 เดือน ขึ้นกับชนิดเจล/เรโอโลยี (G, tanδ, cohesivity), ชั้นฉีด, ตำแหน่ง, และการขยับใช้งานของบริเวณนั้น ๆ งานติดตามบางชุดด้วย MRI รายงาน ตรวจพบ HA ได้นานกว่านั้นในบางตำแหน่ง แต่การคงอยู่ในภาพ ไม่เท่ากับ แรงยกเท่าวันแรกเสมอไป (โครงสร้างผิวและชีวกลศาสตร์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา)

กลุ่ม biostimulator (CaHA/PLLA/PCL) โดยเฉลี่ยคาดหวังผล 12-24 เดือน โดย ความยาวนาน มักเกิดจากการเกิดคอลลาเจน/ECM ใหม่ มากกว่าตัวสารตั้งต้นเอง

5) ฟิลเลอร์สลายแต่ผลลัพธ์ยังอยู่: กลไก, ไทม์ไลน์, เหตุผลทางชีววิทยา

สรุปให้คนไข้เข้าใจง่าย

ฟิลเลอร์ (โดยเฉพาะ HA) ทำหน้าที่ ค้ำฐานหลุม ในช่วงแรก และในระหว่างที่เจลอยู่ใต้ผิว ไฟโบรบลาสต์ถูกยืด/ถูกกระตุ้น ให้สร้าง คอลลาเจนชนิด I/III จัดระเบียบ ECM ใหม่ ผลคือเกิด เนื้อเยื่อใหม่ของเราเอง มาช่วยพยุงฐานหลุม พอเจลค่อย ๆ สลาย เนื้อเยื่อใหม่ยังอยู่ จึงมักไม่ยุบกลับเท่าเดิม

Mechanotransduction Neo-collagenesis

  • Immediate lift: วันแรก ๆ ตื้นขึ้นจากแรงค้ำของเจล
  • สัปดาห์ 2-8: แรงกลจากเจลทำให้ไฟโบรบลาสต์ แผ่ตัวตื่น สร้างคอลลาเจน I/III และ GAGs
  • เดือน 3-6: ผิวหนาแน่นขึ้น จากเนื้อเยื่อใหม่ + เจลส่วนที่ยังคงอยู่
  • หลังจากนั้น: แม้เจลลดลง แต่โครงสร้างใหม่ยังพยุงฐานหลุม ผลลัพธ์จึงยืนระยะ

ข้อความสั้นกันความเข้าใจผิด

ฟิลเลอร์สลาย ผลลัพธ์ไม่หาย เพราะระหว่างที่เจลอยู่ ผิวถูกกระตุ้นให้ หล่อปูนใหม่ (คอลลาเจน/ECM) พอเจลหมด ปูนที่หล่อไว้ยังช่วยค้ำฐานหลุม จึงไม่ยุบกลับเท่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อทำเป็นโปรแกรมและมีการรีทัชจุดทรุดตามธรรมชาติของการหายของแผล

6) ตัดพังผืด + ฟิลเลอร์ = Spacer/Buffer + Biostimulation

Subcision คือการ ปลดเชือก หรือปลดพังผืดที่ดึงฐานหลุมให้ทรุดลง เมื่อปลดแล้วจะเกิด ช่องว่าง ใต้ผิว หากปล่อยไว้มีโอกาส ยึดกลับ ในช่วงสมานแผล (2-8 สัปดาห์แรก) การเติม HA ทันทีใน plane ที่ปลดมา ทำหน้าที่:

  • Spacer/Buffer: คั่นไม่ให้พังผืดกลับมายึดซ้ำ
  • Support: ค้ำระดับฐานหลุมให้คงอยู่ในระดับใหม่
  • Biostimulation: กระตุ้นไฟโบรบลาสต์ให้สร้างคอลลาเจน/ECM ระหว่างที่กำลังหาย
ข้อดีเชิงคลินิกที่พิสูจน์ได้
  • ลดอัตราการยึดซ้ำในช่วงวิกฤตสมานแผล
  • เห็นผลทันที + ดีขึ้นต่อเนื่องจากการสร้างคอลลาเจน
  • เหมาะกับ rolling scars และ boxcar บางแบบ

7) บทบาทของฟิลเลอร์มากกว่า ตัวเติม: Lift,Buffer,Biostimulate,Hydrate

  • Immediate Lift: ยกฐานหลุม ลดเงาและการหักเหแสงที่ทำให้เห็นหลุมชัด
  • Buffer (หลัง Subcision): ทำหน้าที่คั่น ลดการยึดซ้ำของพังผืด
  • Biostimulation: กระตุ้นไฟโบรบลาสต์ คอลลาเจน/ECM ใหม่
  • Hydration & Elasticity (ใน HA): เพิ่มความชุ่มชื้น/ความยืดหยุ่น คุณภาพผิวโดยรวมดูแน่นและสุขภาพดี
  • Structural Support: รองรับในรายที่มี volume loss ใต้ผิวร่วม

8) Rheology: เลือกเจลให้เข้ากับหลุม ไม่ใช่ให้หลุมเข้ากับเจล

ค่ารีโอโลยีเช่น G (แรงยก/ความคงรูป), viscosity (η*), tan δ (สมดุลยืดหยุ่น-หนืด), และ cohesivity (ความเหนียว/การยึดเกาะ) กำหนดพฤติกรรมของเจลในชั้นผิวจริง:

    <!doctype html>ฟิลเลอร์หลุมสิวอยู่ไม่นาน แล้วหลุมสิวจะกลับมาไหม? | Real Clinic by Dr.Ramita
  • รอยลึก/ต้องการแรงค้ำ เจล G สูง + cohesive ดี วางเดอร์มิสลึก/ซับคิว
  • รอยตื้น/ผิวบาง เจล ไหลเนียนกว่า, tan δ สูงกว่า ปูบาง ๆ intradermal ลดความเสี่ยง Tyndall
  • เจลเดียวรักษาทุกแบบ มักเพิ่มความเสี่ยง จับคู่ rheology ชนิดหลุม/ชั้นฉีด/ตำแหน่ง คือหัวใจ

9) เทคนิคฉีดตามชนิดหลุม (Rolling/Boxcar/Icepick + แผนหลัง Subcision)

  • Rolling (distensible): fanning/cross-hatching ใต้ฐานหลุม, micro-bolus 0.010.03 mL/จุด, คุมแรงกดให้ผิวตึงแต่ไม่โป่ง
  • Boxcar: เติมฐาน + feathering ขอบเพื่อให้ transition เนียน
  • Icepick: ไม่ใช่พระเอกของฟิลเลอร์เดี่ยว ๆ ใช้ TCA CROSS/punch แก้ ปากหลุม ก่อน แล้วค่อย ปรับพื้น ด้วย HA บาง/อ่อน
  • หลัง Subcision: เติมใน plane ที่ปลดมาเพื่อทำหน้าที่ spacer กันยึดซ้ำ
  • Needle vs Cannula: เลือกตาม plane/แผนที่หลอดเลือด; cannula ลดโอกาสทิ่มทะลุหลอดเลือดบางบริเวณ แต่ ไม่ใช่เกราะกำบัง 100% ต้องอาศัยทิศทาง/แรง/ปริมาตร/การเฝ้าระวัง

10) ฟิลเลอร์ vs เลเซอร์/RF: จังหวะเวลาและการผสมผสาน

เลเซอร์แบบ fractional (CO/Er:YAG) และ microneedling RF ช่วยกระตุ้น remodeling ของผิว เก็บขอบหลุม และปรับเท็กซ์เจอร์ โดยเฉพาะใน rolling/boxcar การจัดลำดับที่พบบ่อยคือ พลังงานก่อน แล้วจึงเติม HA หรือหากต้องเติมก่อน ให้เว้นระยะก่อนทำพลังงานที่มีความร้อนลึก เพื่อไม่เร่งการเสื่อมของ HA

11) กลยุทธ์แบบหลายด่าน: Release, Refine, Regenerate, Remodeling

  • เดือน 0: Subcision + เติม HA เฉพาะจุด (ทำหน้าที่ ค้ำ และ คั่น)
  • เดือน 0-2: พิจารณา Biostimulator (คัดเลือกเคส) เพื่อเสริมคอลลาเจนระยะยาว 
  • เดือน 3-4: Fractional / Microneedling RF เพื่อรีโมเดลผิว
  • เดือน 4-8: Re-touch HA จุดที่ทรุดตามธรรมชาติของการสมานแผล และเก็บขอบหลุม

แนวคิดนี้ สอดรับชีววิทยาการซ่อมแซม จึงให้ผลสม่ำเสมอและคงกว่าการทำวิธีเดียวจบ

12) ข้อจำกัด ความจริง และความคาดหวัง

  • ไม่มีหัตถการใดถาวร: อายุ/UV/พฤติกรรม ทำให้ผิวเสื่อมตามเวลาอยู่แล้ว จำเป็นต้องดูแลต่อเนื่อง
  • ทำครั้งเดียวไม่พอ ในหลุมสิวระดับกลางหนัก ต้องวางเป็น โปรแกรม และติดตาม/ปรับจูน
  • เครื่องมือพลังงานไม่เพิ่มปริมาตร หากมี volume loss ใต้ผิวร่วม ต้องใช้ฟิลเลอร์หรือไขมัน
  • “หลุมสิวไม่มีทางทำให้หาย เหมือนไม่เคยเป็นมาก่อนได้ 100% ต่หมอสามารถช่วยให้หลุมตื้นขึ้น เรียบขึ้น และดูดีขึ้นได้”

13) ปริมาณฟิลเลอร์เท่าไรจึงพอ (ริเริ่ม-ติดตาม-รีทัช)

ขึ้นกับชนิดหลุม ความกว้าง/ลึก บริเวณ ความหนาบางของผิว และเป้าหมายความเนียนโดยรวม หลักปฏิบัติที่ปลอดภัยคือ ค่อย ๆ เติม แล้วทบทวนผลที่ 4-8 สัปดาห์ เพื่อเลี่ยง overfill และสอดคล้องกับไทม์ไลน์การสมานแผล

  • หวังผลกระตุ้นคอลลาเจน: เริ่ม HA/skin booster 1-3 cc หรือ biostimulator 1-2 dose, ประเมินต่อเนื่อง
  • เติมชั้นเนื้อเยื่อที่ยุบตัวลง: ปริมาณขึ้นกับ ความกว้าง/ความลึก/จำนวนหลุม ทำหลาย session ตามเหมาะสม

14) ความปลอดภัย: ทำไม HA คือ First-line และโปรโตคอลฉุกเฉิน

  • HA reversible: แก้ไขได้ด้วย hyaluronidase เมื่อวางผิดชั้น/ก้อน/overfill หรือมีภาวะแทรกซ้อน
  • Vascular occlusion (VO): น้อยแต่รุนแรง ป้องกันด้วยความรู้กายวิภาค/เทคนิคแรงต่ำ/เฝ้าระวังสัญญาณเตือน พร้อม protocol hyaluronidase และการส่งต่อกรณีผิดปกติทางการมองเห็น
  • Non-ischemic complications: ช้ำ/บวม/ปวด (ชั่วคราว), ก้อน/ปฏิกิริยาหน่วง, biofilm ใช้ลำดับ asepsis-ยาปฏิชีวนะ-สเตียรอยด์-hyaluronidase และอาศัย อัลตราซาวนด์ความถี่สูง ช่วยประเมินในเคสที่ซับซ้อน

15) ไม่ใช่ใครก็ฉีดได้ และไม่ใช่ทุกหลุมควรฉีด: เกณฑ์คัดเลือก

  • เหมาะฉีด: rolling ที่ distensible, boxcar ตื้นกลาง, หลุมที่ปลดพังผืดแล้วฐานเปิดรับ, ผิวรอบแข็งแรงพอ
  • ไม่ควรฉีดเดี่ยว ๆ: icepick ลึก/ปากแคบ ทำ TCA CROSS/punch ก่อน
  • คนไข้ต้องพร้อม โปรแกรม: ไม่ใช่หวังวิธีเดียวจบ ต้องพร้อมติดตาม/รีทัช และดูแลสุขภาพผิวร่วม
  • แพทย์ต้องชำนาญ: anatomy + rheology + เทคนิคละเอียดระดับมิลลิเมตร และรู้ เมื่อไรควรถอย/ละลาย/เปลี่ยนวิธี
  • แพทย์ต้องใจเย็น ละเอียด ประณีต เพราะต้องฉีดทีละหลุมๆ ทั่วทั้งหน้า
  • เทคนิคระดับมิลลิเมตร ส่วนใหญ่ต้องทำแบบ ทีละหลุม ทีละ micro-bolus (0.01–0.03 mL/จุด) ใช้ “แผนที่หลุม” ช่วย, จัดแสงเฉียงตรวจเงาหลุม, ตรวจในท่านั่งเพื่อดูแรงโน้มถ่วงจริง, ปรับลึก–ตื้นให้พอดี
  • ลึกเกินไป: ไม่ดันฐานหลุม
  • ตื้นเกินไป: เสี่ยงผิวอมฟ้า (Tyndall) / ผิวลอน ผิวคลื่น
  • มากเกินไป: เป็นก้อน/เงา
  • น้อยเกินไป: ไม่เห็นผล
  • ความใจเย็นและเวลาทำ: เคสทั้งหน้าอาจต้อง “จุดฉีดหลายสิบถึงหลักร้อยจุด” ใช้เวลาไล่ระดับ–คุมแรง–ประเมินซ้ำตลอดขั้นตอน หมอที่ ไม่ใจเย็น/ไม่ชำนาญ มักเกิด over/under-correction ได้ง่าย และแก้ภายหลังยากกว่า

16) โปรแกรมตัวอย่างของ Real Clinic (RSS / Real Juvgen / เลเซอร์เกลี่ยขอบ)

Program Real Scar Synergy (RSS)

โปรแกรมรักษาหลุมสิวที่ออกแบบขึ้นโดย Dr.Ramita ซึ่งเน้นการรักษาโดยวิธีหัตถการแพทย์เป็นหลัก (Non-Energy Based Acne Scar Revision) ด้วยเทคนิคของ Dr.Ramita ผสมผสานหลายวิธีการรักษาหลุมสิว เสริมด้วยการฉีดสารฟื้นฟู ร่วมกับฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยคอลลาเจนของตัวเราเอง เพิ่มเติมด้วยสารฟื้นบำรุงช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษาให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น ลดการบวมช้ำ พักหน้าน้อยลง อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

 

Program Real Juvgen

การรักษาหลุมสิวที่ คุณหมอรมิตา ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจาก Dr. Jin Se-hun (ดร.จิน ) การรักษานี้มุ่งเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนการ ฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเอง โดยใช้การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และกรดไฮยาลูโรนิกอนุภาคเล็ก (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ชั้นหนังแท้บริเวณที่มีปัญหา เช่น หลุมสิว ริ้วรอยร่องลึก หรือแผลเป็นเนื้อผิวยุบตัว กระบวนการนี้จะช่วยสร้างเนื้อเยื่อผิวคอลลาเจนในปริมาณมากให้ขึ้นมามาทดแทนผิวหนังที่เคยยุบเป็นหลุม ให้สามารถฟูตัวขึ้นมา ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เนื้อเยื่อใหม่ โดยไม่ทำลายโครงสร้างผิวหนัง หลังการรักษาประมาณ 3-5 วัน จะสังเกตเห็นการยกตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจนใหม่ที่ขึ้นมาช่วยลดเลือนแผลเป็นหลุมสิวความไม่เรียบเนียนของผิว อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

Program Laser Resurfacing

เลเซอร์เกลี่ยขอบหลุมสิว ใช้เพื่อปรับรายละเอียดที่หัตถการอย่างเดียวอาจทำได้ไม่ครบ ช่วยเกลี่ยขอบหลุมสิวให้เรียบ เติมเต็มผลลัพธ์ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และปรับพื้นผิวหน้าให้สม่ำเสมอและเรียบเนียนมากขึ้น เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว เหมาะกับการทำร่วมกับโปรแกรมรักษาหลุมสิวอื่นๆ เพื่อผลลัพธ์ที่เด่นชัดและยั่งยืน อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

17) Mini-FAQ 

ฟิลเลอร์อยู่ 10-18 เดือน พอหมดแล้วผลจะหายไหม?

ส่วนใหญ่ไม่ เพราะระหว่างที่ฟิลเลอร์อยู่ ผิวสร้างคอลลาเจน/ECM ใหม่ ทำให้ ฐานหลุมแข็งแรงขึ้น แม้เจลจะบางลงก็ไม่ยุบเท่าเดิม โดยเฉพาะถ้าทำคู่กับ Subcision+Filler ที่กันยึดซ้ำและกระตุ้นคอลลาเจนไปพร้อมกัน

ต้องตัดพังผืดก่อนทุกเคสไหม?

ไม่ทุกเคส แต่ rolling/anchored มักได้ผลดีกว่าเมื่อทำ subcision แล้วเติม HA ใน plane ที่ปลด เพื่อทำหน้าที่ spacer กันยึดซ้ำ

หลังฉีดทำเลเซอร์/RF ได้ไหม?

ได้ แต่ควรวางลำดับ/เว้นระยะให้เหมาะ เพราะความร้อนลึกบางชนิดอาจเร่งการเสื่อมของ HA หากทำใกล้กันเกินไป หลักทั่วไป: ทำ EBD ก่อน หรือเว้นช่วงหลังเติมตามชนิดเครื่องและชั้นฉีด

 ฟิลเลอร์หลุมสิวคืออะไร?
ฟิลเลอร์คือสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปใต้ผิว เพื่อยกฐานหลุมสิวให้ตื้นขึ้น ดูเรียบเนียนขึ้นทันที

พอฟิลเลอร์สลายแล้ว หลุมสิวจะกลับมาเหมือนเดิมไหม?
ไม่จำเป็นต้องกลับมาเหมือนเดิม เพราะระหว่างที่ฟิลเลอร์อยู่ มันช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้โครงสร้างผิวดีขึ้นกว่าเดิม

ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวเจ็บไหม?
เจ็บเล็กน้อย แต่แพทย์จะทายาชาหรือฉีดยาชาช่วย ลดความรู้สึกเจ็บได้มาก

ต้องใช้ฟิลเลอร์กี่ cc ?
ขึ้นกับจำนวนและความลึกของหลุมสิว โดยทั่วไปมักเริ่มที่ 1–4 cc และอาจต้องทำร่วมกับหัตถการอื่นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องพักฟื้นนานไหม?
แทบไม่ต้องพักฟื้น อาจมีรอยเข็มหรือรอยช้ำเล็กน้อย หายเองภายใน 1–2 วัน

ฟิลเลอร์กับเลเซอร์ อันไหนดีกว่ากัน?
ไม่สามารถเปรียบตรง ๆ ได้ เพราะทำงานต่างกัน ฟิลเลอร์ = เติมเต็มทันที, เลเซอร์ = กระตุ้นสร้างผิวใหม่ระยะยาว มักใช้ร่วมกันเพื่อผลที่ชัดเจนและยั่งยืน

ฟิลเลอร์ช่วยเรื่องคอลลาเจนได้จริงไหม?
จริงค่ะ งานวิจัย (Yutskovskaya & Kogan, 2014) พบว่า Hyaluronic Acid filler กระตุ้น fibroblast ให้สร้าง collagen type I และ III เพิ่มขึ้นภายใน 6–8 สัปดาห์

แหล่งอ้างอิงวิชาการ 

  1. Yutskovskaya Y, Kogan E. Dermatology Research and Practice. 2014. (หลักฐาน in vivo ว่า HA กระตุ้น Collagen I/III & ECM; ผลชัดใน 6-8 สัปดาห์)
  2. Wollina U. Dermatology and Therapy (Heidelb). 2018. (ความหนาหนังแท้/คุณภาพผิวดีขึ้นระยะยาวแม้สารบางส่วนสลาย)
  3. Sadick NS, Manhas-Bhutani S. Dermatologic Surgery. 2018. 
  4. Beer K, Beer J. J Clin Aesthet Dermatol. 2009.Kablik J.; Sundaram H.; Fundarò S. 
  5. ACE Group/CMAC/JCAD consensus.
  6. Bellafill (PMMA) เอกสาร FDA/รีวิว JCAD: ข้อบ่งชี้ acne scars (US), ควรตรวจสถานะ อย.ไทยก่อนใช้
  7. รีวิว/แนวทาง EBD (fractional/RF) ร่วมกับฟิลเลอร์: ลำดับการทำ/การเว้นระยะเพื่อลดผลต่อ HA

หมายเหตุ: อ้างอิงฉบับเต็ม (เช่น PubMed/PMC/DOI) 


     

สรุป การฉีดเติมเต็มหลุมสิว ไม่ว่าจะด้วยการใช้ฟิลเลอร์หรือสารฟื้นฟูเนื้อเยื่ออื่นๆ เป็นวิธีที่ทำให้หลุมสิวดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยเฉพาะในหลุมสิวประเภท Rolling scar และ boxcar scar บางประเภท

การฉีดเติมเต็มหลุมสิว หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้องโดยแพทย์ผู้ชำนาญ และเลือกใช้สารเติมเต็มหรือฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิว ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นฐานผิวของแต่ละบุคคลแล้ว ถึงแม้ว่าสารเติมเต็มนั้นจะสลายตัวหมดเมื่อเวลาผ่านไป แต่คอลลาเจนที่ถูกสร้างด้วยร่างกายคนไข้เองทั้งทางตรงและทางอ้อมยังคงอยู่ มากน้อยขึ้นกับชนิดของสารเติมเต็ม และพื้นฐานผิวเดิมตามกรรมพันธุ์ของคนไข้เอง

อย่างไรก็ตาม การเติมเต็มหลุมสิว เป็นหัตถการแพทย์ที่ต้องใช้ทักษะความชำนาญขั้นสูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไปเป็นอย่างมาก และมีโอกาสเกิดการอุดตันของเส้นเลือดได้ จึงควรได้รับการดูแลรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเห็นผลดีที่สุด

SEO Keywords:

ฟิลเลอร์หลุมสิว, รักษาหลุมสิว, เติมเต็มหลุมสิว, Subcision + Filler, Hyaluronic Acid Filler, Biostimulator, Real Scar Synergy, Real Clinic, ฟิลเลอร์กระตุ้นคอลลาเจน, วิธีรักษาหลุมสิวเห็นผลเร็ว


Real Juvgen by Dr.Ramita | โปรแกรมรักษาหลุมสิว CO + HA (Lift Buffer Biostimulation)
Real Clinic Acne Scar Expertise

Real Juvgen by Dr.Ramita ก้าวใหม่ของการรักษาหลุมสิว (CO + HA)

ถ่ายทอดตรงจาก Dr. Jin เกาหลีใต้ สู่ประเทศไทย โดย คุณหมอรมิตา Real Clinic

SEO Keywords (สำหรับทีมคอนเทนต์/เว็บ)

Real Juvgen, จูวีเจน, โปรแกรมรักษาหลุมสิว, ฟิลเลอร์หลุมสิว, CO + HA, dual-chamber syringe, Lift Buffer Biostimulation, Subcision, กระตุ้นคอลลาเจน, Rolling scar, Boxcar scar, Dr. Ramita, Real Clinic
*กล่องนี้แสดงเฉพาะในหน้าเอกสาร สามารถซ่อนไปในโปรดักชันได้*

Real Juvgen คืออะไร

Real Juvgen คือเทคนิคการรักษาหลุมสิวที่ใช้ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO) ร่วมกับ กรดไฮยาลูโรนิก (HA) อนุภาคเล็ก ผ่านอุปกรณ์ dual-chamber syringe ที่สามารถปล่อย CO และ HA ได้อย่างเป็นระบบ โดย CO จะทำหน้าที่ หุ้ม HA micro-particles ช่วยให้ HA กระจายตัวสม่ำเสมอ ซึมลึกถึงชั้นหนังแท้ และอยู่ได้นานกว่า HA เพียว ๆ

  • Physical (CO): เพิ่มการไหลเวียน & ออกซิเจน (Bohr effect) กระตุ้นกระบวนการสมานแผล
  • Chemical (HA micro): เติมเต็มฐานหลุม & กั้นพังผืดไม่ให้ยึดซ้ำ & เพิ่มความชุ่มชื้น
  • Biological (Fibroblast stretching): กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และการจัดระเบียบ ECM

ผลลัพธ์ = Lift + Buffer + Biostimulation ในคราวเดียว: เห็นผลทันทีหลังฉีด ลดการกลับมายึดของพังผืด และฟื้นฟูเนื้อเยื่อจริง ทำให้ผลคงอยู่นานอย่างมีเหตุผลทางชีววิทยา

ทำไม Real Juvgen จึงแตกต่าง

จุดเด่นหลัก

  • เทคโนโลยีสิทธิบัตรจากเกาหลีใต้ (ยื่นจดหลายประเทศ: เกาหลี สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น)
  • ถ่ายทอดเทคนิคโดยตรงสู่ไทย: คุณหมอรมิตาเป็นแพทย์คนแรก
  • สามกลไกพร้อมกัน: Lift Buffer Biostimulation
  • เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก — ผิวดีขึ้นต่อเนื่อง
  • ปลอดภัยสูง ไม่ใช่สารถาวร แต่โครงสร้างใหม่ที่สร้างเองยังอยู่
  • พักฟื้นน้อย ประมาณ 13 วัน

3 กลไกสำคัญ:

Lift – ฟิลเลอร์ช่วยดันฐานหลุมสิวขึ้นมาให้ใกล้เคียงผิวรอบข้าง → คนไข้เห็นผลทันทีหลังทำ
Buffer – หลังการตัดพังผืด (subcision) ฟิลเลอร์ทำหน้าที่เป็นตัวคั่นไม่ให้พังผืดกลับมายึดเกาะผิวซ้ำ → ลดโอกาสยุบตัวอีกครั้ง
Biostimulation – ฟิลเลอร์ โดยเฉพาะ HA และกลุ่ม Biostimulator (เช่น PLLA, CaHA, PCL) จะกระตุ้น fibroblast กระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนชนิด I และ III และจัดระเบียบ extracellular matrix (ECM) ใหม่ ส่งผลให้ผิวหนาขึ้น แข็งแรงขึ้น แม้ตัวฟิลเลอร์ค่อย ๆ สลายไป


แม้ HA จะสลาย ผลลัพธ์ยังคงอยู่ เพราะโครงสร้างผิวถูกฟื้นฟูจริงจากคอลลาเจนใหม่

Real Juvgen เหมาะกับใคร

ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ทั้งทันทีและยืนระยะ โดยเฉพาะ:

Rolling scar
Boxcar scar
เคยทำเลเซอร์/วิธีอื่นแล้วยังเหลือร่องลึก
อยากเห็นผลเร็ว พักฟื้นน้อย
ต้องการฟื้นฟูแบบ Non-Energ

ขั้นตอนการรักษาแบบมืออาชีพ (Workflow ที่คลินิกทำจริง)

  1. ประเมิน & วางแผน เก็บประวัติ/ความคาดหวัง ประเมินชนิดหลุมด้วยสเกลมาตรฐาน (Goodman & Baron / ECCA) ถ่ายภาพมาตรฐาน แสงเฉียง และบางเคสใช้ 3D
  2. เตรียม & ชา ชาเฉพาะที่/บล็อกเส้นประสาท เตรียมผิวปลอดเชื้อ
  3. ปลดพังผืด (ถ้าจำเป็น) Subcision ด้วยเข็ม/คานูลา เพื่อคลายฐานหลุม
  4. เติมและคั่น (Real Juvgen) ฉีดแบบ micro-bolus (0.010.03 mL/จุด) คุมชั้น/ทิศทาง/แรงมือ ใช้ระบบ dual-chamber ให้ CO + HA ทำงานร่วมกัน
  5. ตรวจซ้ำ & เก็บรายละเอียด ประเมินในท่านั่ง/แสงเฉียง ปรับขอบหลุมไม่ให้แข็ง/สะท้อนเงา ให้อธิบายการดูแลหลังทำ
  6. ติดตามผล 48 สัปดาห์ ช่วงคอลลาเจนใหม่เริ่มชัด ประเมินและเติมแต่งเฉพาะจุดตามชีววิทยาผิว

การทำหลุมสิวต้องฉีดทีละหลุม ใช้เวลานานและละเอียด ต้องอาศัยแพทย์ที่ใจเย็นและชำนาญเฉพาะทาง

ทำไม Real Juvgen จึงแตกต่าง

  1. เทคโนโลยีสิทธิบัตรเกาหลีใต้: จดสิทธิบัตรแล้วกว่า 40 ฉบับทั่วโลก (สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี)
  2.  หมอรมิตาเป็นแพทย์ไทยคนแรกที่ได้รับการถ่ายทอดตรงจาก Dr. Jin
  3.  สามกลไกพร้อมกัน: Lift, Buffer, Biostimulation
  4. เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก: หลุมสิวดูตื้นขึ้นทันที และผิวค่อย ๆ ดีขึ้นต่อเนื่อง
  5.  ปลอดภัยสูง: ไม่ใช่สารถาวร แต่โครงสร้างใหม่ (คอลลาเจน) ที่ร่างกายสร้างขึ้นยังอยู่ต่อ
  6.  พักฟื้นน้อย: มีเพียงรอยบวมแดงเล็กน้อย หายภายใน 1–3 วัน
ความละเอียดและความยากของหัตถการ การทำ Real Juvgen ไม่ใช่หัตถการที่ใครก็ทำได้ เพราะต้องอาศัย:
  1. ความเข้าใจพังผืดและโครงสร้างหลุมสิวอย่างลึกซึ้ง
  2. การประเมินทีละหลุม ว่าหลุมไหนเหมาะ หลุมไหนไม่ควรฉีด
  3. เทคนิคระดับมิลิเมตรการฉีดแบบ micro-dosing หลายจุด ใช้ความใจเย็นและความแม่นยำสูง
  4. ส่วนใหญ่ต้องทำแบบ ทีละหลุม ทีละ micro-bolus (0.01–0.03 mL/จุด) ใช้ “แผนที่หลุม” ช่วย, จัดแสงเฉียงตรวจเงาหลุม, ตรวจในท่านั่งเพื่อดูแรงโน้มถ่วงจริง, ปรับลึก–ตื้นให้พอดี
    ลึกเกินไป: ไม่ดันฐานหลุม
    ตื้นเกินไป: เสี่ยงผิวอมฟ้า (Tyndall) / ผิวลอน
    มากเกินไป: เป็นก้อน/เงา
    น้อยเกินไป: ไม่เห็นผล
  5. ความใจเย็นและเวลาทำ: เคสทั้งหน้าอาจต้อง “จุดฉีดหลายสิบถึงหลักร้อยจุด” ใช้เวลาไล่ระดับ–คุมแรง–ประเมินซ้ำตลอดขั้นตอน หมอที่ ไม่ใจเย็น/ไม่ชำนาญ มักเกิด over/under-correction ได้ง่าย และแก้ภายหลังยากกว่า
  6. การเลือกชั้นผิวที่ถูกต้อง เพื่อให้ CO₂ และ HA ทำงานได้เต็มที่
คุณหมอรมิตาเน้นการทำทีละหลุม ละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและปลอดภัยที่สุด

ถามตอบทั่วไป (Basic FAQ)

ฟิลเลอร์หลุมสิวคืออะไร?

คือการฉีด HA หรือสารกระตุ้นคอลลาเจนใต้ฐานหลุมเพื่อยกฐาน กั้นพังผืด และกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ ทำให้พื้นผิวเรียบขึ้น

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?

HA โดยทั่วไป 1018 เดือน ส่วนกลุ่ม Biostimulator เช่น Sculptra (PLLA), CaHA ประมาณ 12 ปี (ขึ้นกับผลิตภัณฑ์ พื้นที่ และพฤติกรรม)

ฟิลเลอร์สลายแล้วหลุมสิวจะกลับมาเหมือนเดิมไหม?

ไม่จำเป็นต้องกลับเท่าเดิม ระหว่างที่ฟิลเลอร์อยู่ ผิวถูกกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจน/ECM ใหม่ ทำให้ฐานหลุมแน่นขึ้น

Real Juvgen ต่างจากฟิลเลอร์ธรรมดาอย่างไร?

ใช้ CO หุ้ม HA micro ผ่านระบบ dual-chamber ทำให้ซึมลึก อยู่ได้นาน และกระตุ้นคอลลาเจนมากกว่า HA เพียว ๆ

ต้องทำ Subcision ร่วมไหม?

หลุมจำนวนมากมีพังผืดยึด การตัดพังผืดช่วยคลายฐานหลุม แล้วจึงเติมเพื่อค้ำและกันยึดซ้ำ ได้ผลสวยและยืนระยะกว่า

เจ็บไหม พักฟื้นนานหรือเปล่า?

ใช้ยาชาหรือ nerve block เจ็บน้อย พักฟื้น 13 วัน อาจบวมแดงเล็กน้อย

Real Juvgen เหมาะกับใคร?

Rolling/Boxcar scar ผู้ที่ต้องการผลเร็ว พักฟื้นน้อย และอยากได้ผลที่ยืนระยะยาวกว่า HA เพียว ๆ

ความเสี่ยงมีอะไรบ้าง?

เมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ของแท้ ความเสี่ยงต่ำ ที่พบได้คือบวม/ช้ำชั่วคราว ต้องคัดกรองและปลอดเชื้อเข้มงวด

ผลอยู่ได้นานแค่ไหน?

มีรายงานว่าผลอยู่ยาวกว่า HA เพียว ๆ หลายเท่า (บางรายงาน 510 ปี) เพราะฟื้นฟูด้วยคอลลาเจนตนเองร่วมด้วย

ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนทำ?

เลี่ยงสครับ/กรดผลไม้/เรตินอล 37 วัน งดยาหรืออาหารเสริมที่เพิ่มเลือดออกตามคำแนะนำ พักผิวสะอาด และกันแดดหลังทำ

ถามตอบเชิงลึก (Advanced FAQ)

ทำไมฟิลเลอร์ถึงกระตุ้นคอลลาเจนได้?

กลไก fibroblast stretching จากเจลที่ค้ำผิว + สัญญาณการสมานแผล กระตุ้น type I/III collagen และการจัดระเบียบ ECM (รายงานมนุษย์: Yutskovskaya & Kogan, 2014; Wollina, 2018)

Real Juvgen ในระดับเซลล์: CO + HA ทำอะไร?

CO เพิ่มออกซิเจนและเลือดฝอย (Bohr effect) กระตุ้นการซ่อมแซม ขณะที่ HA micro เติมเต็ม/คั่นพังผืด/เพิ่มชุ่มชื้น เกิด synergy ต่อ fibroblast ทำให้สร้างคอลลาเจนต่อเนื่อง

อายุผลลัพธ์ยาวกว่าฟิลเลอร์ทั่วไปได้อย่างไร?

ไม่ได้พึ่งสารเติมอย่างเดียว แต่อาศัยการฟื้นฟูตนเองของผิว จึงมีรายงานผลยืนระยะยาวกว่า (บางรายงาน 510 ปี) ทั้งนี้ยังขึ้นกับอายุ/พฤติกรรม/ชีววิทยาผิว

ทำไมต้องทำโดยแพทย์ที่ชำนาญเฉพาะทาง?

การฉีดหลุมสิวต้องประเมินทีละหลุม ฉีด micro-dosing หลายจุด คุมชั้น/แรงมือ ใช้ dual-chamber อย่างแม่นยำ เพื่อให้เกิดทั้ง Lift-Buffer-Biostimulation อย่างปลอดภัย

หลักฐานวิชาการที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง?

มีสิทธิบัตรนานาชาติของระบบ/อุปกรณ์ Juvgen และบทความทางวิชาการ เช่น Annals of Plastic Surgery (2010) & งานรีวิว/ทดลองด้าน dermal regeneration; สำหรับฟิลเลอร์ HA ที่กระตุ้นคอลลาเจนมีรายงานมนุษย์ (PMC3970829; PMC6330525) สนับสนุน

ข้อควรรู้เพิ่มเติม

  • ผล Real Juvgen ไม่ใช่ถาวร 100% ผิวมนุษย์ยังเสื่อมตามวัย (aging) แต่ยืนระยะยาวกว่าฟิลเลอร์เพียว ๆ อย่างมีนัย
  • ผลลัพธ์แตกต่างกันตามอายุ สุขภาพ พื้นฐานผิว พฤติกรรมแดด/บุหรี่/การนอน และการดูแลหลังทำ
  • เพื่อความปลอดภัย ควรทำโดยแพทย์ที่ผ่านการอบรมเทคนิค Juvgen โดยตรง

อ้างอิงบางส่วน: Yutskovskaya & Kogan (2014) PMC3970829; Wollina (2018) PMC6330525; Annals of Plastic Surgery (2010); เว็บไซต์ทางการ Juvgen (JSDR)

ปรึกษากับคุณหมอรมิตา

ต้องการประเมินว่าหลุมสิวของคุณเหมาะกับ Real Juvgen หรือไม่? แอดไลน์/ส่งรูปภายใต้มาตรฐานความเป็นส่วนตัวของคลินิก เพื่อรับคำแนะนำแบบรายบุคคล

*คำแนะนำจากแพทย์ขึ้นกับการซักประวัติ ตรวจสภาพผิวจริง และการวิเคราะห์ภาพมาตรฐาน*

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้