เทคนิคเฉพาะโดย คุณหมอรมิตา Real Clinic
หมอใช้เลเซอร์ MCL Dermablate เป็น เครื่องมือเสริม ในโปรแกรมฟื้นฟูหลุมสิว เพื่อ:
หมอจะเลือกโหมดพลังงานและความลึกที่เหมาะกับหลุมสิวแต่ละแบบ เช่น Boxcar scar จะใช้การยิงกรอขอบ + โฟกัสก้นหลุม + Fractional เกลี่ยผิวโดยรวมอีกครั้ง
MCL Dermablate จากบริษัท Asclepion Laser Technologies เยอรมนี ผ่านมาตรฐาน USFDA และ อย.ไทย เป็นที่ยอมรับทั่วโลกกว่า 10 ปี และเหมาะกับสภาพผิวเอเชีย
*Gold Standard Laser = เครื่องมือที่ถือว่ามาตรฐานสูงสุดและผลการรักษาน่าเชื่อถือที่สุดในโรคนั้น ๆ*

เลเซอร์ชนิด Erbium:YAG 2940 nm ที่มีความจำเพาะกับน้ำในผิว ทำให้กรอชั้นผิว (skin resurfacing) อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง
MCL Dermablate จากบริษัท Asclepion Laser Technologies เยอรมนี ซึ่งเป็นผู้นำด้านเลเซอร์ทางการแพทย์ระดับสากลกว่า 35 ปี ผลิตในเยอรมนี ได้รับการยอมรับทั้งด้าน วิทยาศาสตร์และงานวิจัย ผ่านการรับรอง USFDA และ อย.ไทย เป็นหนึ่งใน Gold Standard Laser ที่วงการแพทย์ผิวหนังทั่วโลกเชื่อถือ โดยเฉพาะในการรักษาหลุมสิว
จึงผลัดเซลล์ผิวและกรอชั้นบน (skin resurfacing) ได้อย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง
พญ. รมิตา ผ่านการอบรมการใช้เลเซอร์ขั้นสูง จากสถาบันระดับสากล และเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์หลุมสิว
เลเซอร์ระดับสูง = ต้องการฝีมือแพทย์ระดับสูง
** เครื่องเดียวกัน แต่ต่างแพทย์ ผลลัพธ์ย่อมต่างกัน เพราะขึ้นกับทักษะและการปรับการรักษาอย่างแม่นยำ **
** เครื่องแบบเดียวกัน แพทย์ผู้ทำคนละคน ผลลัพธ์ย่อมต่างกัน เพราะสำคัญตั้งแต่การประเมินปัญหา วิเคราะห์และวางแผนการรักษา การปรับเครื่อง ปรับพลังงานให้ตรงกับจุดที่คนไข้มีปัญหา
เทคนิคเฉพาะของ Dr.Ramita ด้วย MultiMode MCL Dermablate: ErbiumYAG
แพทย์ต้องวิเคราะห์และวางแผนได้ว่า ปัญหาของคนไข้จะตอบสนองกับเลเซอร์ได้จริงหรือไม่ ต้องมีความรู้ลึก รู้จริง เกี่ยวกับโครงสร้างและชนิดของหลุมสิว
แม้เครื่องมือเหมือนกัน แต่ทักษะและประสบการณ์ในการวิเคราะห์ วางแผน และปรับพลังงาน ส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ที่ได้
ต้องเป็นเครื่องมาตรฐานระดับสากล พลังงานเสถียร คงที่ ปลอดภัย และผ่านการรับรองระดับโลก (USFDA, อย.ไทย)
After care สำคัญมาก เช่น ทากันแดดอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงแดด 1-2 สัปดาห์ และทาครีมบำรุงผิวต่อเนื่อง
เลเซอร์มักต้องทำเป็นโปรแกรมหลายครั้ง และเสริมด้วยหัตถการอื่นเพื่อ synergy ให้เห็นผลชัดเจนและยั่งยืน
อายุ กรรมพันธุ์ และคุณภาพคอลลาเจนเดิมมีผล เช่น คนอายุมากมักต้องเสริมด้วยหัตถการใต้ผิว (ฟิลเลอร์, Subcision) เพราะโครงสร้างลึก (กระดูก, เส้นเอ็น, ไขมัน) ก็เสื่อมร่วมด้วย
ควบคุมสิวไม่ให้เห่อ/อักเสบในช่วงทำเลเซอร์ เพราะการอักเสบจะลดทอนประสิทธิภาพการกระตุ้นคอลลาเจน
ต้องทากันแดด SPF50+ อย่างเคร่งครัด วันละ 2 ครั้ง (ครั้งละ 2-3 ml) และหลีกเลี่ยงแดดกลางแจ้ง 1-2 สัปดาห์

Q. : จะทราบได้อย่างไร ว่าหลุมสิวที่เป็นเหมาะกับการทำเลเซอร์หรือไม่?
จำเป็นต้องให้หมอทำการตรวจผิวอย่างละเอียด เพื่อประเมินพื้นฐานสภาพผิว ระดับความรุนแรงของหลุมสิว ความหนาแน่นของพังผืดที่ดึงรั้ง ข้อจำกัดของแต่ละบุคคล และชนิดของหลุมสิว จึงจะสามารถวางแผนการรักษาได้
Q : ใครเป็นคนยิงเลเซอร์?
พญ. รมิตา ลงมือเองทุกเคสค่ะ
Q : ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล?
เป้าหมายหลักในการใช้เลเซอร์รักษาหลุมสิวของหมอ คือใช้เป็นเครื่องมือเสริมในการเก็บรายละเอียดหลุมขนาดเล็กๆ เกลี่ยปรับสภาพพื้นผิวโดยรวมให้สม่ำเสมอขึ้น และใช้เกลี่ยขอบหลุมที่หนาคมให้อ่อนตัวเรียบเนียนขึ้น ดังนั้นหมอจึงพยายามใช้จำนวนครั้งในการทำเลเซอร์ให้น้อยที่สุดแต่ให้เห็นผลได้มากที่สุดเมื่อทำควบคู่กับกลุ่มหัตถการสารฟื้นฟู
ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 3-5 ครั้ง ขึ้นกับสภาพผิวพื้นฐานและข้อจำกัดของแต่ละบุคคล ดังนี้
- คนผิวเข้ม อาจต้องทำเลเซอร์หลายครั้งมากกว่า เนื่องจากอาจไม่สามารถใช้พลังงานที่สูงได้
- ประเภทของหลุมสิว หลุมสิวที่ลึกกว่าย่อมต้องทำหลายครั้งมากกว่าหลุมสิวที่ตื้น
- ข้อจำกัดและเวลาในการพักหน้า
- ความคาดหวังและความพึงพอใจของแต่ละบุคคล
Q: การทำเจ็บมากไหม?
ขึ้นอยู่กับการปรับพลังงานและเทคนิคการยิงให้เหมาะกับหลุมสิวแต่ละบุคคล
- หลุมสิวระดับเล็กน้อย และเกลี่ยผิวระดับตื้น : แทบไม่เจ็บ แม้ไม่ทายาชา
- หลุมสิวระดับกลาง และเกลี่ยผิวระดับกลางขึ้นไป : อาจรู้สึกเจ็บมากขึ้น จะมีการทายาชา หรือฉีดยาชาให้เพิ่มเติม
Q : จะเห็นผลเมื่อไร?
โดยทั่วไปจะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำเลเซอร์ที่ 1-2 สัปดาห์ และจะเกิดการปรับสภาพฟื้นฟูผิวขึ้นเรื่อยๆจนผลลัพธ์คงที่ที่ 4-6 เดือนเป็นต้นไป
Q : ราคาเท่าไร?
ขึ้นอยู่กับพื้นที่หลุมสิว ตัวยาเสริมการรักษา และโปรโมชั่นในแต่ละช่วง
ราคาเริ่มต้นครั้งละ 9,900 บาท