Laser Resurfacing : เลเซอร์เกลี่ยขอบหลุมสิว

เทคนิคเฉพาะโดย คุณหมอรมิตา Real Clinic 

 

เป้าหมายหลักในการใช้เลเซอร์หลุมสิว

 

หมอใช้เลเซอร์ MCL Dermablate เป็น เครื่องมือเสริม ในโปรแกรมฟื้นฟูหลุมสิว เพื่อ:

  • เก็บรายละเอียด เกลี่ยผิวโดยรวมให้สม่ำเสมอ
  • กรอขอบหลุมหนาคมให้อ่อนตัว เรียบเนียนขึ้น
  • กระตุ้นคอลลาเจนที่ก้นหลุม

หมอจะเลือกโหมดพลังงานและความลึกที่เหมาะกับหลุมสิวแต่ละแบบ เช่น Boxcar scar จะใช้การยิงกรอขอบ + โฟกัสก้นหลุม + Fractional เกลี่ยผิวโดยรวมอีกครั้ง

Gold Standard Laser ที่ Real Clinic

MCL Dermablate จากบริษัท Asclepion Laser Technologies เยอรมนี ผ่านมาตรฐาน USFDA และ อย.ไทย เป็นที่ยอมรับทั่วโลกกว่า 10 ปี และเหมาะกับสภาพผิวเอเชีย

*Gold Standard Laser = เครื่องมือที่ถือว่ามาตรฐานสูงสุดและผลการรักษาน่าเชื่อถือที่สุดในโรคนั้น ๆ*

MCL Dermablate ทำงานอย่างไร

เลเซอร์ชนิด Erbium:YAG 2940 nm ที่มีความจำเพาะกับน้ำในผิว ทำให้กรอชั้นผิว (skin resurfacing) อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง

    • กระตุ้นคอลลาเจนใหม่ ผิวเรียบเนียน หลุมตื้นขึ้น
    • ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ แม่นยำสูง
    • แผลเล็ก พักฟื้นเพียง 1 สัปดาห์ เร็วกว่ากลุ่ม CO laser

จุดเด่นของ MCL Dermablate

  • หลุมสิวตื้นขึ้นอย่างชัดเจน
  • ผิวหน้าเรียบเนียน ฟูขึ้น
  • ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบผลลัพธ์
  • เห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรก
  • ทำร่วมกับ Subcision/หัตถการอื่นได้

หลุมสิวแบบใด เหมาะกับ MCL Dermablate

Boxcar scars
Icepick scars
Rolling scars
Hypertrophic scars
รูขุมขนกว้าง/ผิวไม่เรียบ
รอยด่างดำ/ผิวหมองคล้ำ

เทคนิคเฉพาะของ Dr.Ramita

  1. Focus Beam ยิงลึกเฉพาะจุด กระตุ้นคอลลาเจนที่ก้นหลุม
  2. Spread Mode เกลี่ยขอบหลุมให้เรียบเนียน อ่อนตัว
  3. Focal Ablative กรอขอบหลุม layer by layer
  4. Fractional Resurfacing เกลี่ยผิวทั่วหน้า กระตุ้นคอลลาเจนใหม่
  5. Sterile Mask & Nutrient Boost บำรุง-ปลอบประโลมผิว ลด downtime

ผลลัพธ์ที่ได้

  • ผิวหน้าเรียบเนียน หลุมสิวตื้นขึ้น
  • แม่นยำสูง ไม่เจ็บ ไม่แสบร้อน
  • ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
  • สามารถเสริมกับ RSS หรือหัตถการอื่น ๆ ได้

MCL Dermablate: Gold Standard Laser ระดับโลก

MCL Dermablate จากบริษัท Asclepion Laser Technologies เยอรมนี ซึ่งเป็นผู้นำด้านเลเซอร์ทางการแพทย์ระดับสากลกว่า 35 ปี ผลิตในเยอรมนี ได้รับการยอมรับทั้งด้าน วิทยาศาสตร์และงานวิจัย ผ่านการรับรอง USFDA และ อย.ไทย เป็นหนึ่งใน Gold Standard Laser ที่วงการแพทย์ผิวหนังทั่วโลกเชื่อถือ โดยเฉพาะในการรักษาหลุมสิว

ทำไมเหมาะกับผิวเอเชีย

  • ใช้คลื่นพลังงาน Erbium:YAG 2,940 nm ที่จำเพาะกับ น้ำ ในผิว
  • ความร้อนน้อยกว่า CO ลดความเสี่ยง รอยดำหลังเลเซอร์
  • พลังงานละเอียดและแม่นยำระดับไมครอน
  • เหมาะกับผิวเอเชียที่มีเมลานินหนาแน่นกว่าคนยุโรป/อเมริกัน

จึงผลัดเซลล์ผิวและกรอชั้นบน (skin resurfacing) ได้อย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง

จุดเด่นของเครื่อง

  • พลังงานเสถียร ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ แม่นยำ คงที่
  • ปรับการยิงได้ละเอียดระดับไมครอน ผลข้างเคียงน้อย
  • แผลเล็ก หายไว downtime น้อย
  • มีหลักฐานวิจัยรับรองยาวนานกว่า 10 ปี

บทบาทของแพทย์ผู้ทำ

พญ. รมิตา ผ่านการอบรมการใช้เลเซอร์ขั้นสูง จากสถาบันระดับสากล และเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์หลุมสิว

เลเซอร์ระดับสูง = ต้องการฝีมือแพทย์ระดับสูง

  • แพทย์ต้องรู้ลึกและวิเคราะห์ถูกต้องว่า หลุมสิวแบบไหน เหมาะกับวิธีใด
  • การประเมินวางแผนปรับพลังงาน คือหัวใจ

** เครื่องเดียวกัน แต่ต่างแพทย์ ผลลัพธ์ย่อมต่างกัน เพราะขึ้นกับทักษะและการปรับการรักษาอย่างแม่นยำ **

เทคนิคเฉพาะของ Dr.Ramita (MultiMode MCL Dermablate)

  1. Focus Beam ยิงพลังงานลึกเฉพาะจุด กระตุ้นคอลลาเจนที่ก้นหลุมทีละหลุม
  2. Focal Ablative กรอขอบหลุมทีละชั้น layer by layer ให้เรียบเนียน
  3. Fractional Erbium Resurfacing เกลี่ยผิวทั่วหน้า กระตุ้นคอลลาเจนใหม่ + ผลัดเซลล์อ่อนโยน เพื่อผิวสดใสขึ้น
เครื่องระดับโลก MCL Dermablate จากบริษัท Asclapion Laser Technologies ซึ่งเป็นผู้นำด้านเครื่องเลเซอร์ที่ได้มาตรฐานจากประเทศเยอรมนี 
  • เทคโนโลยีเลเซอร์ของ ASCLEPION ดำเนินงานมานานกว่า 35 ปีในฐานะผู้นำด้านเลเซอร์ทางการแพทย์ระดับนานาชาติในฐานะผู้ผลิตระบบเลเซอร์ขั้นสูงสำหรับวิทยาผิวหนัง เวชศาสตร์ความงาม และศัลยกรรม ASCLEPION ผลิตในเยอรมนี และความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
  • ปลอดภัย ผ่านการรับรอง ทั้ง USFDA และ อย.ไทย ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (USFDA) และได้รับ อย. ไทยแล้ว เป็นอีกหนึ่ง Gold Standard Laser ที่ได้รับความเชื่อถือจากวงการแพทย์ผิวหนังทั่วโลกในการรักษาหลุมสิว มีหลักฐานงานวิจัยหลายฉบับรับรองมาอย่างยาวนานกว่าสิบปี 
  • พลังงานที่ปล่อยออกมาเหมาะกับผิวเอเชีย ความร้อนน้อยกว่า แต่ละเอียดกว่า และจับเม็ดสีได้น้อยกว่า CO2 เพราะผิวคนเอเชีย มีเม็ดสีเมลานินที่หนาแน่นกว่าคนผิวขาว(คนยุโรป คนอเมริกา) จึงถูกกระตุ้นให้เกิดรอยดำได้ง่ายกว่า
  • พลังงานงานแสงความเข้มสูงที่คลื่นความยาว 2,940 nm ซึ่งเป็นช่วงที่มีความจำเพาะเป็นพิเศษกับน้ำในชั้นผิว จึงสามารถผลัดเปลี่ยนเซลล์ใหม่ กรอชั้นผิวด้านบน (Skin resurfacing) ได้อย่างละเอียด โดยไม่เกิดอันตรายกับเนื้อเยื่อส่วนอื่นได้
  • พลังงานเสถียร แม่นยำ คงที่ ควบคุมด้วยระบบ computer มาตรฐานสูง หายไว downtime น้อย ตัวเครื่องปรับได้ละเอียด และยิงพลังออกมาเล็กระดับไมครอน จึงมีผลข้างเคียงน้อย ไม่ต้องพักหน้านาน
แพทย์ผู้ทำ พญ. รมิตา ผ่านการทำอบรมการใช้เลเซอร์ขั้นสูง จากสถาบันอบรมระดับสากล
  • ตัวเครื่องเป็นเลเซอร์ระดับสูง จึงจำเป็นต้องอาศัยเทคนิค ฝีมือ และความชำนาญของแพทย์ผู้ทำเป็นอย่างมากในการใช้
  • แพทย์ผู้ใช้เครื่องต้องมีความรู้ลึก รู้จริง ในเรื่องของหลุมสิว วิเคราะห์ได้ว่าหลุมสิวแบบไหนต้องใช้การรักษาวิธีใดจึงจะเห็นผลและคุ้มค่าที่สุด

** เครื่องแบบเดียวกัน แพทย์ผู้ทำคนละคน ผลลัพธ์ย่อมต่างกัน เพราะสำคัญตั้งแต่การประเมินปัญหา วิเคราะห์และวางแผนการรักษา การปรับเครื่อง ปรับพลังงานให้ตรงกับจุดที่คนไข้มีปัญหา

เทคนิคเฉพาะของ Dr.Ramita ด้วย MultiMode MCL Dermablate: ErbiumYAG

  • Focus Beam ปรับพลังงานระดับสูงให้ลงชั้นลึกเฉพาะจุด เพื่อไปกระตุ้นคอลลาเจนที่ก้นหลุมสิวทีละหลุม
  • Focal Ablative กรอขอบหลุมสิวทีละชั้นอย่างละเอียด layer by layer ให้อ่อนตัวจางลง หลุมที่หนาขอบชัดจึงดูเรียบเนียนขึ้น
  • Fractional Erbium Resurfacing เกลี่ยผิวโดยรวมพร้อมกระตุ้นคอลลาเจนอย่างทั่วถึงครอบคลุม และผลัดเซลล์อย่างอ่อนโยน เพื่อให้ผิวโดยรวมเรียบเนียนสดใสยิ่งขึ้น
เทคนิคเฉพาะของ Dr.Ramita ด้วย MultiMode MCL Dermablate: ErbiumYAG
  • Focus Beam ปรับพลังงานระดับสูงให้ลงชั้นลึกเฉพาะจุด เพื่อไปกระตุ้นคอลลาเจนที่ก้นหลุมสิวทีละหลุม
  • Focal Ablative กรอขอบหลุมสิวทีละชั้นอย่างละเอียด layer by layer ให้อ่อนตัวจางลง หลุมที่หนาขอบชัดจึงดูเรียบเนียนขึ้น
  • Fractional Erbium Resurfacing เกลี่ยผิวโดยรวมพร้อมกระตุ้นคอลลาเจนอย่างทั่วถึงครอบคลุม และผลัดเซลล์อย่างอ่อนโยน เพื่อให้ผิวโดยรวมเรียบเนียนสดใสยิ่งขึ้น


 

6 ปัจจัยในการทำเลเซอร์ให้เห็นผลลัพธ์ดีที่สุด

1) ความรู้เรื่องหลุมสิวของแพทย์

แพทย์ต้องวิเคราะห์และวางแผนได้ว่า ปัญหาของคนไข้จะตอบสนองกับเลเซอร์ได้จริงหรือไม่ ต้องมีความรู้ลึก รู้จริง เกี่ยวกับโครงสร้างและชนิดของหลุมสิว

2) ความชำนาญของแพทย์

แม้เครื่องมือเหมือนกัน แต่ทักษะและประสบการณ์ในการวิเคราะห์ วางแผน และปรับพลังงาน ส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ที่ได้

3) คุณภาพของเครื่อง

ต้องเป็นเครื่องมาตรฐานระดับสากล พลังงานเสถียร คงที่ ปลอดภัย และผ่านการรับรองระดับโลก (USFDA, อย.ไทย)

4) การดูแลตนเองของคนไข้

After care สำคัญมาก เช่น ทากันแดดอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงแดด 1-2 สัปดาห์ และทาครีมบำรุงผิวต่อเนื่อง

5) ความต่อเนื่องในการรักษา

เลเซอร์มักต้องทำเป็นโปรแกรมหลายครั้ง และเสริมด้วยหัตถการอื่นเพื่อ synergy ให้เห็นผลชัดเจนและยั่งยืน

6) ปัจจัยเฉพาะของผิวคนไข้

อายุ กรรมพันธุ์ และคุณภาพคอลลาเจนเดิมมีผล เช่น คนอายุมากมักต้องเสริมด้วยหัตถการใต้ผิว (ฟิลเลอร์, Subcision) เพราะโครงสร้างลึก (กระดูก, เส้นเอ็น, ไขมัน) ก็เสื่อมร่วมด้วย

ข้อจำกัดการรักษา

  • ผิวบาง ระคายเคือง อักเสบ ควรฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรงก่อน
  • ผู้ที่ต้องออกแดดจัดต่อเนื่อง 1-2 สัปดาห์หลังทำ ไม่เหมาะสม
  • หลุมสิวลึก มีพังผืดมาก ต้องทำ Subcision ก่อน แล้วจึงใช้เลเซอร์เก็บรายละเอียด
  • ผู้ที่คาดหวังให้หาย 100% แบบผิวเรียบกริบ ปัจจุบันยังไม่มีเทคนิคใดทำได้

ข้อควรระวังก่อนและหลังทำเลเซอร์

ก่อนทำ

ควบคุมสิวไม่ให้เห่อ/อักเสบในช่วงทำเลเซอร์ เพราะการอักเสบจะลดทอนประสิทธิภาพการกระตุ้นคอลลาเจน

หลังทำ

ต้องทากันแดด SPF50+ อย่างเคร่งครัด วันละ 2 ครั้ง (ครั้งละ 2-3 ml) และหลีกเลี่ยงแดดกลางแจ้ง 1-2 สัปดาห์

การดูแลหลังทำการรักษา

  • หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ 24 ชม. แรก
  • หลังจากนั้น ทาครีมบำรุงที่เพิ่มความชุ่มชื้นต่อเนื่องจนกว่าสะเก็ดจะหลุด (5-7 วัน)
  • เลี่ยงแดดจัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์แรก
  • หลังสะเก็ดหลุด ผิวและรอยหลุมสิวจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ใน 30-45 วัน


Q. : จะทราบได้อย่างไร ว่าหลุมสิวที่เป็นเหมาะกับการทำเลเซอร์หรือไม่?
จำเป็นต้องให้หมอทำการตรวจผิวอย่างละเอียด เพื่อประเมินพื้นฐานสภาพผิว ระดับความรุนแรงของหลุมสิว ความหนาแน่นของพังผืดที่ดึงรั้ง ข้อจำกัดของแต่ละบุคคล และชนิดของหลุมสิว จึงจะสามารถวางแผนการรักษาได้

 Q : ใครเป็นคนยิงเลเซอร์?

พญ. รมิตา ลงมือเองทุกเคสค่ะ


Q : ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล?
เป้าหมายหลักในการใช้เลเซอร์รักษาหลุมสิวของหมอ คือใช้เป็นเครื่องมือเสริมในการเก็บรายละเอียดหลุมขนาดเล็กๆ เกลี่ยปรับสภาพพื้นผิวโดยรวมให้สม่ำเสมอขึ้น และใช้เกลี่ยขอบหลุมที่หนาคมให้อ่อนตัวเรียบเนียนขึ้น ดังนั้นหมอจึงพยายามใช้จำนวนครั้งในการทำเลเซอร์ให้น้อยที่สุดแต่ให้เห็นผลได้มากที่สุดเมื่อทำควบคู่กับกลุ่มหัตถการสารฟื้นฟู
ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 3-5 ครั้ง ขึ้นกับสภาพผิวพื้นฐานและข้อจำกัดของแต่ละบุคคล ดังนี้
- คนผิวเข้ม อาจต้องทำเลเซอร์หลายครั้งมากกว่า เนื่องจากอาจไม่สามารถใช้พลังงานที่สูงได้
- ประเภทของหลุมสิว หลุมสิวที่ลึกกว่าย่อมต้องทำหลายครั้งมากกว่าหลุมสิวที่ตื้น
- ข้อจำกัดและเวลาในการพักหน้า
- ความคาดหวังและความพึงพอใจของแต่ละบุคคล

Q: การทำเจ็บมากไหม?
ขึ้นอยู่กับการปรับพลังงานและเทคนิคการยิงให้เหมาะกับหลุมสิวแต่ละบุคคล
- หลุมสิวระดับเล็กน้อย และเกลี่ยผิวระดับตื้น : แทบไม่เจ็บ แม้ไม่ทายาชา
- หลุมสิวระดับกลาง และเกลี่ยผิวระดับกลางขึ้นไป : อาจรู้สึกเจ็บมากขึ้น จะมีการทายาชา หรือฉีดยาชาให้เพิ่มเติม

Q : จะเห็นผลเมื่อไร?
โดยทั่วไปจะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำเลเซอร์ที่ 1-2 สัปดาห์ และจะเกิดการปรับสภาพฟื้นฟูผิวขึ้นเรื่อยๆจนผลลัพธ์คงที่ที่ 4-6 เดือนเป็นต้นไป

Q : ราคาเท่าไร?
ขึ้นอยู่กับพื้นที่หลุมสิว ตัวยาเสริมการรักษา และโปรโมชั่นในแต่ละช่วง
ราคาเริ่มต้นครั้งละ 9,900 บาท

Powered by MakeWebEasy.com