1. โปรแกรม Real Scar Synergy (RSS) คือ โปรแกรมรักษาหลุมสิวที่ออกแบบขึ้นโดย Dr.Ramita ซึ่งเน้นการรักษาโดยวิธีหัตถการแพทย์เป็นหลัก (Non-Energy Based Acne Scar Revision) ด้วยเทคนิคของ Dr.Ramita ผสมผสานหลายวิธีการรักษาหลุมสิว เสริมด้วยการฉีดสารฟื้นฟู ร่วมกับฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยคอลลาเจนของตัวเราเอง เพิ่มเติมด้วยสารฟื้นบำรุงช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษาให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น ลดการบวมช้ำ พักหน้าน้อยลง
คลิก อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
" การรักษารอยแผลเป็น'หลุมสิว' เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในการรักษาที่หมอให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และชอบเป็นการส่วนตัวค่ะ เนื่องจากหมอก็มีปัญหาหลุมสิวด้วยเหมือนกัน จึงได้ศึกษาและติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาหลุมสิวมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงที่ศึกษาแพทย์ทั่วไป ไปจนถึงการศึกษาต่อเฉพาะทางด้านตจวิทยา (ผิวหนัง) จนถึงปัจจุบัน
สำหรับแนวทางการรักษาที่หมอถนัดและมีความเชี่ยวชาญคือกลุ่มการรักษาด้วยหัตถการ (Non-Energy Based Scar Revision) โดยใช้เครื่องมือเลเซอร์เป็นส่วนเสริมเฉพาะส่วนที่จำเป็น โดยเลเซอร์ที่ทางคลินิกเลือกใช้คือ MCL Dermablate Laser ที่ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจสำหรับผิวคนเอเชีย
เพื่อให้เข้าใจโปรแกรม Real Scar Synergy มากขึ้นสามารถศึกษาข้อมูลได้ตามหัวข้อต่อไปนี้เลยค่ะ
Real Scar Synergy แตกต่างจากการรักษาหลุมสิวทั่วไปอย่างไร โดยทั่วไปการรักษาหลุมสิวแบบมาตรฐาน จะแบ่งเป็น 2 หลักการใหญ่ๆ คือ
ในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะนิยมใช้เลเซอร์เป็นทางเลือกแรก เนื่องจากเป็นวิธีที่ดูปลอดภัยและไม่ยุ่งยาก แต่เลเซอร์มักต้องทำซ้ำหลายครั้ง และในแต่ละครั้งจะเกิดสะเก็ดที่ผิว ซึ่งจำเป็นต้องหยุดกิจกรรมกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงแดด และพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง ส่งผลให้หลายคนต้องเว้นช่วงหรือยุติการรักษาก่อนเห็นผลจริง
Real Scar Synergy: ทางเลือกที่ได้ผลลัพธ์เร็วกว่า ไม่ต้องพักฟื้น
Real Scar Synergy จัดอยู่ในกลุ่ม Non-Energy Based Acne Scar Revision แต่แตกต่างจากการหัตถการทั่วไป ด้วยการผสานเทคนิคทางการแพทย์ และการวิเคราะห์เชิงลึกของปัญหาหลุมสิวในแต่ละคน ซึ่งสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก และให้ผลลัพธ์ยาวนาน โดยไม่จำเป็นต้องหยุดงานหรือพักหน้า
สรุป: ถ้าหลุมสิวของคุณไม่ตอบสนองต่อเลเซอร์... อาจถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแนวทาง
Real Scar Synergy คือการปรับเปลี่ยนแนวทางจากการรักษาแบบเดิมๆ ที่หวังพึ่งเครื่องมือเพียงอย่างเดียว มาเป็นการวางแผนฟื้นฟูผิวแบบเจาะลึก ด้วยการเน้นหัตถการ โดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญการรักษาหลุมสิว ที่เข้าใจกลไกของหลุมสิวและการฟื้นฟูของหลุมสิว
กลไกการทำงานของ Real Scar Synergy
โปรแกรม Real Scar Synergy (RSS) เป็นแนวทางการรักษาหลุมสิวที่ออกแบบมาเพื่อ ฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน โดยเน้นใช้เทคนิคการแพทย์เฉพาะทางในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายอย่างเหมาะสม
จุดเด่นของโปรแกรม Real Scar Synergy
*หัตถการหลักเทคนิคเฉพาะของ Dr.Ramita ที่ผสมผสานหลายวิธีการรักษาหลุมสิว ซึ่งคุณหมอจะเลือกใช้หัตถการที่เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
เหมาะกับใคร?
รักษาอะไรได้บ้าง?
ข้อจำกัดการรักษา
Q : Real Acne Scar Synergy แตกต่างจากคอร์สเลเซอร์อย่างไร
A : Real Scar Synergy เป็นการดูแลรักษาหลุมสิวแบบองค์รวม โดยใช้หัตถการฝีมือแพทย์เป็นหลัก หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่ากลุ่มการรักษาแบบ Non-Energy Based Acne Scar Revision
Q : Real Acne Scar Synergy แตกต่างจากการผ่าตัดเย็บหลุมสิวอย่างไร
A : เนื่องจากการผ่าตัดเย็บหลุมสิวนี้ เป็นการเปลี่ยนรูปแบบของแผลจิกลึกขอบหนา ให้กลายเป็นแผลเป็นรูปแบบเส้นแทน ซึ่งผู้ที่ได้รับการผ่าตัดเย็บหลุมสิวจะต้องดูแลรอยแผลอย่างเคร่งครัด ห้ามแผลโดนน้ำและต้องกลับมาตัดไหมที่ 5-7 วัน หลังจากนั้นต้องมีการทำเลเซอร์เพื่อลบรอยแผลใหม่ต่ออีกด้วย จึงเหมาะกับผู้ที่สามารถดูแลรักษาแผลหลังผ่าตัดได้อย่างเคร่งครัด และสามารถเข้ารับการดูแลต่อเนื่องหลังผ่าตัดได้จริงๆ
ในกลุ่มของการรักษาหลุมสิวด้วยการผ่าตัดนี้ จะมีเทคนิคมาตรฐานอื่นๆอีก เช่น Punch grafting,Punch elevation ซึ่งในขณะนี้ จะยังไม่ได้มีการรักษาด้วยเทคนิคนี้ในโปรแกรมของทางคลินิกค่ะ
Q : ขั้นตอนการทำ เป็นอย่างไร ?
A : ขั้นตอนการทำ " ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแพทย์และสภาพผิวของแต่ละบุคคล "
เนื่องจากแต่ละบุคคลมีพื้นฐานปัญหาผิวและข้อจำกัดไม่เหมือนกัน คุณหมอจะเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ลักษณะของใบหน้าโดยรวม และปัญหาหลุมสิวที่คนไข้เป็นอย่างละเอียดก่อน ตามด้วยระบุประเภทหลุมสิวแต่ละจุดบนใบหน้าอย่างละเอียด ประเมินลักษณะผังผืด และประเมินสภาพพื้นฐานผิวของคนไข้ได้อย่างถี่ถ้วน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นวางแผนการรักษาที่สำคัญมาก เมื่อประเมินลักษณะปัญหาหลุมสิวของคนไข้ได้อย่างละเอียดดีแล้ว จึงค่อยวางแผนเลือกใช้วิธีการรักษาให้เหมาะสมกับคนไข้เฉพาะบุคคล เพราะแต่ละคนมีข้อจำกัดไม่เหมือนกัน เช่น บางต้องใช้ใบหน้าทำงานตลอด พักหน้าไม่ได้ ตกสะเก็ดไม่ได้ หมอจึงต้องคอยปรับแต่งแผนการรักษาโดยตลอดให้เหมาะกับแต่ละคน
Q : หัตถการที่แพทย์ทำ ต่อ 1 เคสทำอะไรบ้าง
A : หมอจะใช้หลายๆหัตถการร่วมกัน ในการรักษาครั้งเดียวเลยค่ะ ด้วยปัญหาของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน หัตถการที่ใช้และตัวยาก็จะแตกต่างกันออกไป
โดยหัตถการหลักที่ทำให้ทุกเคส เพื่อการฟื้นฟูหลุมสิวด้วยเนื้อเยื่อตัวเอง คือ การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปตัดพังผืดและสร้างโพรงอากาศ แล้วฉีดสารฟื้นฟูเนื้อหลุมสิว Skin Regeneration Agents เช่น กรดไฮยาลูโรนิคอนุภาคเล็ก
Q : เห็นผลดีแค่ไหน ? ต้องรักษากี่ครั้ง ?
A : ก่อนอื่นจำเป็นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า หลุมสิวคือแผลเป็นชนิดหนึ่งในปัจจุบันยังไม่มีวิธีใดที่จะทำให้หายเรียบเนียนกริบ เสมือนผิวปกติที่ไม่เคยมีแผลเป็นมาก่อนได้เลย 100% ผลลัพธ์การรักษาด้วยโปรแกรมนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทของหลุมสิวที่เป็น สภาพพื้นฐานผิว กรรมพันธุ์ อายุ และข้อจำกัดของคนไข้เอง โดยทั่วไปในหลุมสิวแบบ Rolling scar ที่ปากแผลกว้าง ขอบไม่ชัดมีพังผืดเกาะไม่ลึกและไม่หนามาก ในบางรายหมออาจรักษาให้ดีขึ้นได้ถึง 60-70% ได้ในการทำหัตถการเพียงครั้งเดียว แต่ในกรณีที่หลุมสิวรุนแรงกว่า เป็นลักษณะจิกลึก ขอบคมชัด มีพังผืดที่หนาและแข็งมากดึงรั้งกับไขมันกล้ามเนื้อชั้นลึกเยอะ อาจรักษาได้ยากขึ้น แบบนี้อาจต้องรักษามากกว่า 2-3 ครั้งเพื่อให้ผลที่ดีขึ้น 40-50%
Q : ราคาเท่าไร ?
A : เริ่มต้นที่ 39,900 บาท (ที่ไม่สามารถระบุราคาได้เลย เพราะแต่ละคนปัญหาหนักเบาไม่เท่ากันค่ะ แนะนำคนคนไข้ส่งรูปปัญหา เพื่อให้คุณหมอประเมินราคาเบื้องต้นก่อนเข้ามาค่ะ)
Q : ผลข้างเคียง ความปลอดภัย?
A : เป็นหัตถการแพทย์ที่มีความปลอดภัยสูง อาจมีผลข้างเคียง บวม แดง ช้ำได้บ้าง ตามสภาพผิวของแต่ละบุคคลแต่ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหน้า ไม่มีสะเก็ดตาราง ไม่เบิร์นผิวค่ะ
Q : มี อย. ไทยไหม ?
A : ผลิตภัณฑ์ตัวยา รวมถึง เครื่องมือแพทย์ทุกตัวที่ใช้ในการทำหัตถการ มี อย. ไทย ทุกตัวค่ะ
Q : ทำครั้งหนึ่งอยู่ได้นานแค่ไหน? ได้ผลถาวรไหม?
A : พื้นฐานของโปรแกรมการรักษานี้ จะทำให้เกิดการตัดพังผืดและมีการสร้างคอลลาเจนฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวขึ้นมาใหม่ หากมองแค่ในหลักการนี้ก็จะถือว่าเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ทำนองเดียวกันกับการทำเลเซอร์เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนขึ้นมาเติมหลุมสิว นั่นเอง
แต่หากมองในแง่ของการมี Aging process เข้ามาเกี่ยวข้องตามธรรมชาติของมนุษย์ร่วมด้วยแล้ว คอลลาเจนที่ผิวสร้างขึ้นเองนี้ จะมีการลดลงครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่(half-life) ในทุกๆประมาณ 15 ปี ร่วมกับการสูญเสียปริมาตรของโครงสร้างที่พยุงใบหน้า ทั้งชั้นเนื้อเยื่อไขมัน และชั้นกระดูกเมื่อเวลาผ่านไป หากมองในแง่นี้ด้วยก็ควรจะถือว่าเป็นผลลัพธ์แบบกึ่งถาวร เพราะเมื่อทุกชั้นผิวหนังโดยรวมเกิดความเสื่อมสภาพลงตามวัย ผลลัพธ์ของการรักษาหลุมสิวจากคอลลาเจนที่เคยดีขึ้น ก็มักจะร่วงโรยตามวัยด้วยเช่นกัน
นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ช่วยอธิบายได้ว่า ทำไมคนที่มีหลุมสิวมาอย่างยาวนาน แต่ไม่เคยได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมเลย เมื่อมีอายุมากขึ้น หลุมสิวจึงเป็นมากขึ้นไปด้วย ทั้งๆที่ไม่ได้มีสิวใหม่เกิดขึ้นเลย แต่หลุมสิวที่มีอยู่กลับดูเป็นหนักขึ้น
นอกจากนี้ ในกรณีของหลุมสิวที่มีการยุบตัวฝ่อลงของเนื้อเยื่อชั้นไขมันร่วมด้วย ซึ่งจำเป็นต้องฉีดสารเติมเต็มเข้าไปแทนที่ เมื่อเวลาผ่านไปสารเติมเต็มนี้จะถูกสลายไปได้ตามกาลเวลา แต่ในขณะเดียวกันการ Subcisionตัดพังผืดนี้ ร่วมกับอีกคุณสมบัติของสารเติมเต็มที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ด้วยเช่นกัน จะไปกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างเส้นใยคอลลาเจนอิลาสตินขึ้นมาใหม่ ถือเป็นผลที่ได้อย่างถาวร(หรือกึ่งถาวร หากพิจารณาAging processด้วย)
อย่างไรก็ตาม คอลลาเจนที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ขึ้นกับยีนและระบบภูมิคุ้มกันที่เป็นตัวกำหนดการฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิว การหายของแผลในแต่ละบุคคลด้วยค่ะ
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการรักษาแผลเป็นหลุมสิวนั้น มีหลายวิธีด้วยกันโดยหมอจะขอแบ่งเป็นกลุ่มการรักษาเพื่อให้เข้าใจง่ายดังนี้
1.กลุ่ม Resurfacing เรียกง่ายๆก็คือการกรอผิวให้เนียนขึ้นนั่นเองในกลุ่มนี้ก็ได้แก่
การรักษาเหล่านี้มีหลักการเดียวกันคือทำให้เกิดบาดแผลขึ้นที่ผิวหนังแล้วหวังผลให้ผิวหนังซ่อมแซมตัวเองสร้างคอลลาเจนเนื้อเยื่อใหม่ได้ผิวที่เรียบเนียนขึ้น ในคนไข้บางรายที่ทำเลเซอร์จนครบคอร์สหลายครั้ง แต่ยังรู้สึกไม่เห็นผล อาจเกิดจากมีพังผืดยึดเกาะใต้ผิวมาก หรือบางครั้งเมื่ออายุผิวมากขึ้น คุณภาพผิวเราไม่ดีแล้ว การสร้างใหม่จึงไม่ดีด้วย ทำให้ผิวบางลง ยิ่งทำเลเซอร์บ่อย โดยไม่ได้ทำการฟื้นบำรุงผิวร่วมด้วย ผิวยิ่งบาง หน้ายิ่งแดงง่าย เห็นเส้นเลือดฝอยเล็กๆใต้ผิว แสบหน้า ผิวแพ้ง่าย และผิวหน้าดำคล้ำลงได้ง่าย แม้เวลาถูกแดดเพียงเล็กน้อยก็ตาม
โปรแกรม เลเซอร์เกลี่ยของหลุมสิวของ Real Clinic คลิกดูรายละเอียด
2.กลุ่มการศัลยกรรมตัดพังผืด
3.กลุ่มเครื่องมือที่ใช้เข็ม (Skin needling)
เช่น Dermaroller, Dermapen, Derma stamp, Dermafix, เลเซอร์ Microneedle กลุ่มนี้ใช้หลักการทำให้ผิวเกิดการบาดเจ็บด้วยเข็มขนาดเล็ก เพื่อให้ร่างกายเกิดกระบวนการรักษาบาดแผลขึ้นมา จึงมีการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาซ่อมแซมผิวด้วย ในกลุ่มนี้ต้องระวังการทำลูกกลิ้ง Dermaroller ที่ปัจจุบันมีการศึกษาพบว่าไม่ได้ช่วยให้หลุมสิวดีขึ้น แต่ยังทำให้เกิดบาดแผลที่ผิวชั้นบนมากยิ่งขึ้น เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มาก
ประโยชน์ของ Microneedling?
กลุ่มเครื่องมือที่ใช้เข็มขนาดเล็ก microneedling สามารถช่วยแก้ไขหลุมสิวได้ในระดับตื้นถึงปานกลางเท่านั้น ข้อดีคือสามารถช่วยผลัดผิวชั้นบน ใช้ร่วมกับการผลักดันตัวยาหรือ ได้ดี และไม่ค่อยมีผลข้างเคียงเรื่องรอยดำหลังทำเลเซอร์ ไม่ต้องพักฟื้นผิวหน้าหลังทำ แต่อย่างไรก็ตามหากเทียบประสิทธิภาพในการกระตุ้นคอลลาเจน(เทียบเฉพาะเครื่องมือ ไม่รวมตัวยาที่ใช้) การทำ Fractional Laser ยังคงให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
4.กลุ่มสารเติมเต็มและยกกระชับ
-Kravvas G, Al-Niaimi F. A systematic review of treatments for acne scarring. Part 1: Non-energy-based techniques. Scars, Burns & Healing, Volume 3, 2017
-Kravvas G, Al-Niaimi F. A systematic review of treatments for acne scarring. Part 2: Energy-based techniques. Scars, Burns & Healing, Volume 4, 2018.
-Jordan R, Cummins CCL, Burls A, Seukeran DDC. Laser resurfacing for facial acne scars. Cochrane Database of Systematic Reviews 2000, Issue 3
-Bhargava, S., Cunha, P.R., Lee, J. et al. Acne Scarring Management: Systematic Review and Evaluation of the Evidence. Am J Clin Dermatol 19, 459–477 (2018)
-Review Article Acne Scars: Pathogenesis, Classification and Treatment
https://www.researchgate.net/publication/338749120_Improvement_of_Atrophic_Acne_Scar_and_Skin_Complexity_by_Combination_of_Aqueous_Human_Extract_and_Mesenchymal_Mesotherapy