ฟิลเลอร์หลุมสิว: ทางเลือกใหม่ของคนเป็นหลุมสิว เพื่อผิวเรียบเนียน 2025

Last updated: 22 มิ.ย. 2568  |  3 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ฟิลเลอร์หลุมสิว

ฟิลเลอร์หลุมสิว: เรื่องจริงที่หมออยากเล่า ไม่ใช่ใครก็ฉีดได้ และไม่ใช่หลุมไหนก็ฉีดได้

สวัสดีค่ะ หมอรมิตานะคะ
วันนี้หมออยากมาเล่าเรื่อง "ฟิลเลอร์หลุมสิว" ให้ฟังกันแบบจริงใจ ตรงไปตรงมา และลึกกว่าที่เคย เพราะนี่เป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตที่คนไข้ถามหมอบ่อยมาก
“คุณหมอคะ ฉีดฟิลเลอร์เติมหลุมสิวได้ไหม?”
คำตอบคือ ได้ค่ะ แต่... ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะ และไม่ใช่ทุกหลุมจะควรฉีด

หลุมสิวแต่ละแบบ ใช้แนวทางรักษาไม่เหมือนกัน
ก่อนจะพูดถึงฟิลเลอร์ เราต้องเข้าใจก่อนว่า “หลุมสิวไม่ใช่แค่รอยบุ๋ม” แต่มันคือผลจากพังผืดที่ยึดเกาะผิวเอาไว้ บางหลุมลึก บางหลุมตื้น บางหลุมมีพังผืดดึงแน่น บางหลุมรอบข้างไม่เรียบ
หากฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้น ผิดจุด หรือฉีดในหลุมที่ไม่เหมาะสม อาจได้ผลลัพธ์ที่แย่ลงกว่าเดิม

ฟิลเลอร์หลุมสิว ทำงานอย่างไร?
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวคือการเติมสารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปใต้ชั้นผิว เพื่อดันฐานหลุมขึ้นมาให้นูนเรียบใกล้เคียงกับผิวรอบข้าง
- จุดสำคัญคือฟิลเลอร์ต้องฉีดให้ "ถูกชั้น ถูกระดับ และพอดี"
- ถ้าตื้นไป ผิวจะเป็นคลื่น
- ถ้าลึกไป ไม่ดันฐานหลุม
- ถ้ามากไป เป็นก้อน
- ถ้าน้อยไป ไม่เห็นผล

ไม่ใช่ใครก็ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวได้ เพราะมันยากกว่าที่คิด
นี่คือสิ่งที่หมออยากเน้นย้ำเสมอว่า "การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวไม่ใช่แค่มีฟิลเลอร์กับเข็ม แล้วจิ้ม ๆ ฉีด ๆ"
แต่ต้องอาศัย:
- ความรู้กายวิภาคผิวอย่างลึกซึ้ง
- ความเข้าใจโครงสร้างพังผืดของหลุมสิวแต่ละประเภท
- ฝีมือการประเมินและวางแผนระดับสูง
- สายตาแม่นยำและเทคนิคละเอียดระดับมิลลิเมตร

หมอเจอคนไข้หลายคนที่เคยไปฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวแบบทุกหลุม คือฉีดทุกหลุมบนใบหน้าแบบไม่คัดกรอง ไม่ดูความลึก ไม่ดูพังผืด นอกจากเสียเงินจำนวนมากแล้ว ผลคือผิวกลายเป็น ผิวลูกคลื่น ไม่เรียบ เสียรูปหน้า และรักษาต่อยากมาก
หลุมสิวที่ควรฉีดฟิลเลอร์คือแบบไหน?
- หลุมชนิด Rolling ที่เป็นคลื่นนุ่ม ลึกปานกลาง
- หลุมสิวที่ผ่านการตัดพังผืดมาแล้ว และโครงสร้างใต้หลุมเปิด
- บริเวณที่เนื้อเยื่อรองรับแข็งแรง ไม่บางจนเห็นเส้นเลือด
- ต้อง พิจารณาทีละหลุม ว่าควรฉีด ไม่ควรฉีด หรือควรรักษาด้วยวิธีอื่นก่อน


แล้วหมอฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวยังไง?
หมอจะประเมินหลุมสิวทีละจุด แล้วเลือกหัวเข็มให้เหมาะกับผิวแต่ละบริเวณ เช่น บางจุดใช้ เข็มปลายแหลม เพื่อความแม่นยำ บางจุดใช้ เข็มปลายทู่ เพื่อกระจายเนื้อฟิลเลอร์อย่างนุ่มนวล หมอจะฉีด ด้วยความรู้สึกเหมือนกำลังทำศัลยกรรมขนาดเล็ก เพราะถ้าพลาดไปนิดเดียว ก็อาจกลายเป็นรอยถาวรที่แก้ไขยาก

ฟิลเลอร์หลุมสิว ไม่ใช่ทางออกเดียว แต่เป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญ
หมออยากให้ทุกคนเข้าใจว่า การรักษาหลุมสิวที่ดี ไม่ควรพึ่งแค่การเติมเต็ม แต่มันต้องกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวลึก ปรับพื้นผิวให้เรียบ ฟิลเลอร์จึงเป็น "ตัวช่วยเสริม" ไม่ใช่พระเอกหลัก

สำหรับคนไข้ที่มารักษาหลุมสิวที่ Real Clinic
หมอมักใช้แนวทางที่เรียกว่า Skin Remodeling เช่น Real Scar Synergy: กระตุ้นคอลลาเจน + ตัดพังผืด + เทคนิคเฉพาะของ โปรแกรม Juvgen: เทคนิคเกาหลีที่หมอรมิตาได้รับการถ่ายทอดตรงจาก Dr. Jin ร่วมกับฟิลเลอร์เฉพาะจุดในหลุมที่เหมาะสม


การเลือกฟิลเลอร์สำหรับหลุมสิวก็สำคัญ ไม่ใช่ทุกยี่ห้อจะเหมาะกับทุกหลุม
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ฟิลเลอร์มีหลายชนิด หลายความยืดหยุ่น และหลายแบรนด์ แต่ละแบบถูกออกแบบมาสำหรับบริเวณหรือปัญหาที่ต่างกัน เช่น ฟิลเลอร์สำหรับใต้ตา กับฟิลเลอร์สำหรับแนวกราม หรือฟิลเลอร์ที่เหมาะกับผิวบาง การเอาฟิลเลอร์เนื้อแน่นไปฉีดในจุดที่ผิวบาง หรือเอาฟิลเลอร์เนื้ออ่อนเกินไปไปฉีดในหลุมลึก — ผลลัพธ์จะผิดเพี้ยนทันที
สำหรับการรักษาหลุมสิว
- บางหลุมต้องการ ฟิลเลอร์เนื้อนุ่ม กระจายตัวดี
- บางหลุมต้องการ ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นและคงรูป
- บางหลุมอยู่ในชั้นผิวตื้น ต้องเลือกฟิลเลอร์ที่ไม่เป็นก้อน
- และต้องคำนึงถึง สภาพผิวรอบ ๆ ว่าแข็งแรงแค่ไหน รับการฉีดได้หรือไม่

สรุป: ฟิลเลอร์หลุมสิว ใช่…แต่ต้องใช้อย่างถูกต้อง
ไม่ใช่ทุกหลุมสิวควรฉีดฟิลเลอร์
ไม่ใช่ทุกคนควรฉีด
และไม่ใช่ใครก็ฉีดได้
การรักษาหลุมสิวควรเป็นแผนแบบองค์รวม มีทั้งตัดพังผืด ฟื้นฟูผิว และเติมเต็มเฉพาะจุด


การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นอีกวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ เพราะ ในปัจจุบันยังไม่มีการรักษาหลุมสิววิธีอื่นใดที่ได้ผลเร็วเท่ากับการฉีดฟิลเลอร์  ซึ่งโดยปกติฟิลเลอร์จะถูกใช้ในการเติมร่องลึกให้ตื้นขึ้นได้ทันทีอยู่แล้ว ดังนั้นในหลุมสิวที่มีการยุบตัวลงไปของชั้นผิว จึงสามารถแก้ไขด้วยฟิลเลอร์ให้หลุมสิวนั้นตื้นขึ้นได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการใช้ฟิลเลอร์ฉีดแก้ไขแผลเป็นชนิดยุบตัว (Atrophic Scar) แบบอื่นๆ ทั้งที่หน้าและลำตัวได้ด้วย เช่น แผลเป็นอีสุกอีใส แผลเป็นจากอุบัติเหตุ แผลเป็นหลังการผ่าตัดศัลยกรรม

ถ้าแผลเป็นมีพังผืดถูกยึดตัวไว้กับโครงสร้างผิวข้างใต้ การแก้ไขจำเป็นต้องตัดพังผืดนี้ออกก่อนแล้วจึงฉีดฟิลเลอร์ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี และเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยากมากนัก แต่ต้องอาศัยทักษะฝีมือความชำนาญของแพทย์ผู้ทำหัตถการเป็นอย่างมาก

     ฟิลเลอร์หลุมสิวจะให้ผลลัพธ์ที่ดีในทันที นอกจากนี้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คอลลาเจนที่ผิวเราเองจะถูกกระตุ้นจากกลไกการยืดตัวของไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast Stretching)ด้วยตัวฟิลเลอร์นี้เอง ซึ่งเป็นอีกคุณประโยชน์ของฟิลเลอร์ ที่ช่วยให้ผิวแผลเป็นที่บางลงถูกทำให้หนาขึ้นจากคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเอง

เห็นมีแต่การใช้ฟิลเลอร์เติมริ้วรอยร่องลึก สามารถเอามาใช้เติมหลุมสิวได้ด้วยจริงหรอ?
ฟิลเลอร์ถูกนำมาใช้เพื่อเติมเต็มร่องลึก รอยแผลเป็นในผู้ป่วยได้ทุกวัย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่มีแผลเป็นยุบหรือหลุมสิวเมื่อเวลาผ่านไป คือ เนื่องจากการสูญเสียปริมาตรตามปกติที่เกี่ยวข้องกับอายุที่มากขึ้น ชั้นกระดูกและเนื้อเยื่อเส้นเอ็นกล้ามเนื้อ รวมทั้งชั้นไขมันจะฝ่อตัวสลายไป ทำให้แผลเป็นหลุมสิวดูแย่ลงหรือเป็นมากขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งหมายความว่า แม้จะทำการรักษาผู้ป่วยที่มีแผลเป็นยุบได้อย่างเหมาะสมเพียงพอแล้ว แต่การสูญเสียปริมาตรของโครงสร้างผิวตามกลไกธรรมชาติ (Aging process: Age-related Volume loss)ดังกล่าว ก็ยังดำเนินต่อไป จึงควรรักษาภาวะเหล่านี้ร่วมด้วยอย่างต่อเนื่องเสมอ

เมื่อแผลเป็นหลุมสิวมีอายุมากขึ้น ริ้วรอยเหี่ยวย่นและร่องลึกแห่งวัย ก็จะก่อตัวขึ้นในแผลเป็นหลุมสิวนั้นด้วย การฉีดฟิลเลอร์เข้าไปพยุงไว้ใต้บริเวณหลุมสิว ถือเป็นการป้องกันไม่ให้ร่องลึกแห่งวัยเกิดขึ้นเร็วจนทำให้หลุมสิวดูรุนแรงขึ้น แต่ถ้าหากมีริ้วรอยร่องลึกอยู่แล้ว ก็ควรฉีดฟิลเลอร์แก้ไขและยกกระชับริ้วรอยแห่งวัยนั้นไปด้วย
 
การสูญเสียปริมาตรตามวัยของเนื้อเยื่อและชั้นกระดูกที่พยุงใบหน้าจากอายุที่มากขึ้น (Aging process: Age-related Volume loss)นั้น สามารถรักษาได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งจาก2วิธีนี้เท่านั้น คือ การฉีดฟิลเลอร์สารเติมเต็ม และการฉีดไขมัน
**กลุ่มเครื่องมือพลังงานเลเซอร์ ไม่สามารถทำให้เกิดการเพิ่มปริมาตรของโครงสร้างเนื้อเยื่อที่พยุงใบหน้าได้เลย
 
หากคนไข้มีอายุมากขึ้นแล้วมีปัญหาที่โครงสร้างพยุงผิวตามวัยร่วมด้วย การใช้สารเติมเต็ม เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและช่วยยกพยุงผิวหนัง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ผลลัพธ์ผิวหน้าโดยรวมดีขึ้นได้มากที่สุด 

ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดรอยแผลเป็นหลุมสิว

  • ฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic acid (HA) : ฟิลเลอร์ประเภทนี้มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากมียาที่ใช้สลายได้ทันที มีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ใช้ในการเติมเต็มหลุมสิวแบบที่มีการยุบตัวลงของเนื้อเยื่อชั้นไขมันและปากแผลกว้าง เช่น Rolling scar, Boxcar scar ฟิลเลอร์ชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นในด้านการเติมเต็ม แต่ก็ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนที่ผิวได้เช่นกันผ่านกลไก Fibroblast stretching 
  • นอกจากนี้ยังมี HA ชนิดที่มีคุณสมบัติเป็นแบบ Hybrid คือได้ทั้งเติมเต็มและกระตุ้นคอลลาเจนได้ดี คือ  High-And-Low-Molecular-Weight Hyaluronic acid หรือชื่อการค้า Profhilo
  • ฟิลเลอร์ชนิด Biostimulators : ฟิลเลอร์ประเภทนี้มีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจนที่ผิวโดยตรง ด้วยกลไกทางชีวภาพของส่วนประกอบในฟิลเลอร์เหล่านั้น เช่น สาร PLLA (Poly-L-Lactic Acid) หรือชื่อการค้า Sculptra, สาร CaHA (Calcium Hydroxy Apatite) หรือชื่อการค้า Radiesse, สาร Polymethyl mathacrylate (PMMA) หรือชื่อการค้า Bellafill, สาร Polycaprolactone (PCL) หรือชื่อการค้า Gouri, Ellanse, Lafullen

    ****สารเติมเต็มกลุ่มนี้หลายตัวเป็นที่นิยมสำหรับเติมหลุมสิวในต่างประเทศ โดยเฉพาะ Bellafill ที่ผ่าน USFDAในข้อบ่งชี้เพื่อรักษาหลุมสิวโดยตรง แต่ในปัจจุบันตัวที่ผ่าน อย.ในไทย มีเพียง Sculptra และ Gouri เท่านั้น 
  • ฟิลเลอร์ชนิดถาวร: ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่แก้ไขไม่ได้ในระยะยาว

สารเติมเต็ม Filler มีบทบาทอย่างไรในการรักษาหลุมสิว?

ในการทำ Subcision ผ่าตัดพังผืด ร่วมกับการฉีดสารเติมเต็ม เป็นหัตถการอย่างหนึ่งที่มักจะให้ผลลัพธ์หลังการรักษาที่ชัดเจนและดีขึ้นในทันที อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับแผลเป็นหลุมสิวในแต่ละบุคคล ความรุนแรงของแผลเป็นจากสิว ปริมาณของพังผืด ตำแหน่งของเนื้อเยื่อแผลเป็น และความหนาของผิวหนังคนไข้ด้วย

ในการรักษาหลุมสิว สารเติมเต็ม Filler มีบทบาทดังนี้

  1. เป็นบัฟเฟอร์กั้นไม่ให้พังผืดที่ตัดไปกลับมาติดกันอีก
  2. เป็นสารเติมเต็มแทนที่เนื้อเยื่อที่ขาดหายไปของแผลเป็นหลุมสิว
  3. สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้โดยตรง จากคุณสมบัติของฟิลเลอร์กลุ่มที่เป็น Collagen Stimulating Filler (เช่น PLLA, CAH, PMMA, LHMHA, PCL Filler) หรือแม้แต่กลุ่มที่เป็น Volumizing Filler อย่าง HA Filler ก็สามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้จากกลไก fibroblast stretching ได้เช่นกัน

หลักการสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ คือ ขั้นตอนการแก้ไขแผลเป็นหลุมสิวทั้งหมดนี้ จะอาศัยระบบภูมิคุ้มกันของคนไข้เองในการซ่อมแซมและสร้างคอลลาเจนใหม่ ในบางกรณีที่เนื้อเยื่อไขมันยุบฝ่อตัวลงเป็นบริเวณกว้างและลึกมาก ระบบภูมิคุ้มกันที่สร้างเนื้อเยื่อใหม่ด้วยร่างกายของคนไข้เอง จะไม่สามารถสร้างคอลลาเจนใหม่มาทดแทนตรงจุดนี้ได้เลย ดังนั้นจะเหลือทางเลือกเพียง 2 ทางคือ การฉีดเติมเต็ม ด้วยไขมัน กับการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ เท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตาม การฉีดไขมันตัวเองเพื่อเติมหลุมสิวนี้ ไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากประมาณการณ์หรือคาดเดาอัตราการติดได้ลำบาก การติดของไขมันที่ฉีดขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างมาก ไม่สามารถคาดการณ์ความแน่นอนที่จะติดได้

ฟิลเลอร์หลุมสิวต้องใช้ปริมาณมากแค่ไหน
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ในการฉีดเติมหลุมสิวในคนไข้แต่ละรายนั้นแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับโครงสร้างผิวเดิมของคนไข้ ลักษณะความลึกกว้างของหลุมสิว และข้อจำกัดของคนไข้แต่ละราย

แพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องทำการประเมินรอยแผลเป็นและตัดสินใจเลือกขนาดยาที่ดีที่สุดหลังจากซักประวัติและตรวจร่างกายผู้ป่วยแล้ว หากผู้ป่วยมีประวัติภาวะแทรกซ้อนจากฟิลเลอร์ผิวหนัง หรือหากมีงบประมาณจำกัด อาจต้องใช้ขนาดยาที่น้อยลงกว่ามาตรฐานในช่วงเริ่มต้น แล้วขยายระยะเวลาการรักษา จำนวนครั้งที่ทำมากขึ้น
 
โดยทั่วไปแล้ว ในการหวังผลกระตุ้นคอลลาเจน มักจะเริ่มต้นด้วย HA Filler หรือ ฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ 1-3 cc หรือฟิลเลอร์กลุ่ม Biostimulator 1-2 โดส โดยอาจต้องทำการรักษาต่อเนื่องหลายครั้ง
ในส่วนของการเติมเต็มชั้นเนื้อเยื่อที่ยุบตัวลง ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้จะขึ้นกับลักษณะของหลุมสิว ว่ามีความกว้างลึกเพียงใด และต้องใช้มากน้อยเพียงใด

 
ข้อดีของการใช้ฟิลเลอร์รักษาหลุมสิวในเชิงลึก
การฉีดฟิลเลอร์เพื่อรักษาหลุมสิวเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว พร้อมประโยชน์ในเชิงลึกดังนี้:

1. เติมเต็มหลุมสิวทันที เห็นผลชัดเจน
หลังการฉีดฟิลเลอร์ หลุมสิวจะดูตื้นขึ้นทันที ช่วยปรับพื้นผิวให้เรียบเนียนอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอการฟื้นฟูผิวเหมือนวิธีอื่น เช่น เลเซอร์หรือการทำ Subcision

2. กระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว 
ฟิลเลอร์บางชนิด เช่น Poly-L-lactic Acid (Sculptra) หรือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ไม่เพียงเติมเต็มหลุมสิวชั่วคราว แต่ยังส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ซึ่งช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของผิวในระยะยาว

3. ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
เมื่อฉีดโดยผู้เชี่ยวชาญ ฟิลเลอร์ที่เหมาะสม เช่น Hyaluronic Acid (HA) จะหลอมรวมกับเนื้อเยื่อผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งรอยหรือความไม่สม่ำเสมอ

4. ปรับโครงสร้างผิวลึก
ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มและรองรับชั้นผิวลึกที่เสียหายจากหลุมสิว โดยเฉพาะกรณีที่หลุมสิวเกิดจากการยุบตัวของเนื้อเยื่อใต้ผิว เช่น Rolling Scar หรือ Boxcar Scar

5. ไม่มีเวลาพักฟื้น (Minimal Downtime)
หลังการฉีดฟิลเลอร์ ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที อาจมีรอยเข็มเล็กน้อยที่จางหายได้ใน 1-2 วัน ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่สะดวกและเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย

6. เหมาะกับทุกสภาพผิว
ฟิลเลอร์สามารถใช้ได้กับทุกประเภทผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม อีกทั้งไม่เสี่ยงต่อการเกิดรอยดำ (Post-inflammatory Hyperpigmentation) เหมือนกับบางวิธีที่ใช้พลังงานสูง

7. ปรับแต่งได้ตามความต้องการ
แพทย์สามารถออกแบบการฉีดฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับตำแหน่งและความลึกของหลุมสิวแต่ละจุด โดยใช้ปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจงและมีประสิทธิภาพ

8. ปลอดภัยและสลายได้เอง (สำหรับ HA Fillers)
ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ และสามารถสลายตัวเองได้ภายใน 6-12 เดือน อีกทั้งยังสามารถแก้ไขได้ง่ายหากผลลัพธ์ไม่เป็นที่พอใจ

การฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิวเหมาะสำหรับ
1. ผู้ที่มีหลุมสิวประเภท Rolling Scar หรือ Boxcar Scar ที่มีความลึกปานกลางถึงตื้น ฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นได้ทันที หากหลุมสิวมีความลึกมากหรือเป็นประเภท Ice Pick Scar อาจต้องพิจารณาวิธีการรักษาอื่นร่วมด้วย

2. ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว
การฉีดฟิลเลอร์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงผิวหน้าในระยะสั้นและเห็นผลทันที ไม่ต้องรอการฟื้นฟูจากการทำเลเซอร์หรือการรักษาอื่น ๆ ที่อาจใช้เวลานานกว่า

3. ผู้ที่ไม่ต้องการเวลาพักฟื้นนาน
ฟิลเลอร์เป็นการรักษาที่มีเวลาพักฟื้นน้อย ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้หลังการรักษา ในกรณีที่ไม่เกิดการบวมรุนแรง

4. ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งหรือผิวบาง
ฟิลเลอร์บางชนิด เช่น Hyaluronic Acid (HA) สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวบางที่ต้องการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับบริเวณหลุมสิว

5. ผู้ที่ไม่อยากได้รับการรักษาที่มีความเสี่ยงสูง
ฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid ถือว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย เนื่องจากสารนี้มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติและสามารถสลายตัวได้ หากมีปัญหาเกิดขึ้นสามารถแก้ไขได้ง่ายด้วยการฉีด Hyaluronidase เพื่อสลายฟิลเลอร์ที่ไม่ต้องการ

6. ผู้ที่ไม่ชอบการรักษาด้วยพลังงานสูงหรือวิธีที่เจ็บปวด
ฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้พลังงานจากเลเซอร์หรือการผ่าตัด ซึ่งทำให้มันเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการรักษาที่ไม่เจ็บปวดหรือไม่ต้องทนกับการฟื้นตัวที่ยาวนาน

7. ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ที่ฉีดอย่างถูกต้องสามารถทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งร่องรอยหรือทำให้ดูผิดปกติ หากเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการฉีด

ที่ Realclinic เราเข้าใจดีถึงความยากของการรักษาหลุมสิว เราจึงมุ่งเน้นการให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยมี คุณหมอที่เก่งและถนัดด้านการรักษาหลุมสิวโดยเฉพาะ พร้อมเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

สรุป การฉีดเติมเต็มหลุมสิว ไม่ว่าจะด้วยการใช้ฟิลเลอร์หรือสารฟื้นฟูเนื้อเยื่ออื่นๆ เป็นวิธีที่ทำให้หลุมสิวดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยเฉพาะในหลุมสิวประเภท Rolling scar และ boxcar scar บางประเภท

การฉีดเติมเต็มหลุมสิว หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้องโดยแพทย์ผู้ชำนาญ และเลือกใช้สารเติมเต็มหรือฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิว ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นฐานผิวของแต่ละบุคคลแล้ว ถึงแม้ว่าสารเติมเต็มนั้นจะสลายตัวหมดเมื่อเวลาผ่านไป แต่คอลลาเจนที่ถูกสร้างด้วยร่างกายคนไข้เองทั้งทางตรงและทางอ้อมยังคงอยู่ มากน้อยขึ้นกับชนิดของสารเติมเต็ม และพื้นฐานผิวเดิมตามกรรมพันธุ์ของคนไข้เอง

อย่างไรก็ตาม การเติมเต็มหลุมสิว เป็นหัตถการแพทย์ที่ต้องใช้ทักษะความชำนาญขั้นสูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไปเป็นอย่างมาก และมีโอกาสเกิดการอุดตันของเส้นเลือดได้ จึงควรได้รับการดูแลรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเห็นผลดีที่สุด

ทำไมต้องเลือกฟิลเลอร์หลุมสิวที่ Realclinic?
1. ทีมแพทย์
เรามีทีมแพทย์ที่ถนัดด้านการรักษาหลุมสิวโดยตรง ซึ่งได้รับการอบรมและอัปเดตเทคนิคใหม่ๆ อยู่เสมอ คุณจึงมั่นใจได้ในผลลัพธ์ที่แม่นยำ

2. ประสบการณ์ที่พิสูจน์ได้
Realclinic ได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยมากมาย และมีรีวิวจากผู้ที่เคยรักษาหลุมสิวกับเรา ซึ่งแสดงถึงความสำเร็จในการรักษาอย่างชัดเจน

3. เทคนิคพิเศษที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
แพทย์ของเราจะวิเคราะห์ปัญหาผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ ไม่ใช่การรักษาแบบเหมารวม

Realclinic ทางเลือกของคนที่ต้องการแก้ปัญหาหลุมสิวอย่างมั่นใจ
หากคุณกำลังมองหาวิธีรักษาหลุมสิวที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน และได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจปัญหาผิวหน้าอย่างแท้จริง Realclinic คือคำตอบของคุณ เราพร้อมช่วยคุณฟื้นฟูความมั่นใจและปรับผิวให้เรียบเนียนอีกครั้ง ด้วยเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่แม่นยำ และทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ


โปรแกรมเด่นที่ Realclinic สำหรับหลุมสิว
1. Real Scar Synergy:  คือ โปรแกรมรักษาหลุมสิวที่ออกแบบขึ้นโดย Dr.Ramita ซึ่งเน้นการรักษาโดยวิธีหัตถการแพทย์เป็นหลัก (Non-Energy Based Acne Scar Revision) ด้วยเทคนิคของ Dr.Ramita ผสมผสานหลายวิธีการรักษาหลุมสิว เสริมด้วยการฉีดสารฟื้นฟู ร่วมกับฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยคอลลาเจนของตัวเราเอง เพิ่มเติมด้วยสารฟื้นบำรุงช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษาให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น ลดการบวมช้ำ พักหน้าน้อยลง คลิก อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

2. โปรแกรม Real Juvgen คือการรักษาหลุมสิวที่ คุณหมอรมิตา ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจาก Dr. Jin Se-hun (ดร.จิน ) การรักษานี้มุ่งเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนการ ฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเอง โดยใช้การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และกรดไฮยาลูโรนิกอนุภาคเล็ก (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ชั้นหนังแท้บริเวณที่มีปัญหา เช่น หลุมสิว ริ้วรอยร่องลึก หรือแผลเป็นเนื้อผิวยุบตัว กระบวนการนี้จะช่วยสร้างเนื้อเยื่อผิวคอลลาเจนในปริมาณมากให้ขึ้นมามาทดแทนผิวหนังที่เคยยุบเป็นหลุม ให้สามารถฟูตัวขึ้นมา ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เนื้อเยื่อใหม่ โดยไม่ทำลายโครงสร้างผิวหนัง หลังการรักษาประมาณ 3-5 วัน จะสังเกตเห็นการยกตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจนใหม่ที่ขึ้นมาช่วยลดเลือนแผลเป็นหลุมสิวความไม่เรียบเนียนของผิว คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติม

3. โปรแกรมเลเซอร์เกลี่ยขอบหลุมสิว 

  • หลุมสิวตื้นขึ้นอย่างชัดเจน
  • ผิวหน้าเรียบเนียน ผิวฟูขึ้น
  • ไม่เจ็บ ไม่แสบร้อนขณะทำ
  • ราคาไม่แพง เมื่่อเทียบกับผลลพธ์ คุ้มค่าในการรับบริการ
  • เห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงของผิวที่ดีขึ้นหลังทำ
  • สามารถทำร่วมกับการทำ Subcision หรือหัตถการอื่นๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ของการรักษาหลุมสิวดีขึ้นได้

คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติม

ฟิลเลอร์หลุมสิว ,รักษาหลุมสิว,ตัดพังผืด,รักษาหลุมสิว, วิธีรักษาหลุมสิว, Fractional Laser, Microneedling, Subcision, เติมฟิลเลอร์, Real Scar Synergy, Juvgen,acnescarsurgery,acnescarrevision,รักษาหลุมสิวให้ตื้น,เลเซอร์หลุมสิว, รักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด,รักษาหลุมสิวให้หายขาด,หลุมสิว,realclinic,drramitaฟิลเลอร์หลุมสิว ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว รักษาหลุมสิว,ตัดพังผืด,รักษาหลุมสิว, วิธีรักษาหลุมสิว, Fractional Laser, Microneedling, Subcision, เติมฟิลเลอร์, Real Scar Synergy, Juvgen,acnescarsurgery,acnescarrevision,รักษาหลุมสิวให้ตื้น,เลเซอร์หลุมสิว, รักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด,รักษาหลุมสิวให้หายขาด,หลุมสิว,realclinic,drramitaฟิลเลอร์หลุมสิว, รักษาหลุมสิว,ตัดพังผืด,รักษาหลุมสิว, วิธีรักษาหลุมสิว, Fractional Laser, Microneedling, Subcision, เติมฟิลเลอร์, Real Scar Synergy, Juvgen,acnescarsurgery,acnescarrevision,รักษาหลุมสิวให้ตื้น,เลเซอร์หลุมสิว, รักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด,รักษาหลุมสิวให้หายขาด,หลุมสิว,realclinic,drramita

รักษาหลุมสิว,ตัดพังผืด,รักษาหลุมสิว, วิธีรักษาหลุมสิว, Fractional Laser, Microneedling, Subcision, เติมฟิลเลอร์, Real Scar Synergy, Juvgen,acnescarsurgery,acnescarrevision,รักษาหลุมสิวให้ตื้น,เลเซอร์หลุมสิว, รักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด,รักษาหลุมสิวให้หายขาด,หลุมสิว,realclinic,drramita

รักษาหลุมสิว,ตัดพังผืด,รักษาหลุมสิว, วิธีรักษาหลุมสิว, Fractional Laser, Microneedling, Subcision, เติมฟิลเลอร์, Real Scar Synergy, Juvgen,acnescarsurgery,acnescarrevision,รักษาหลุมสิวให้ตื้น,เลเซอร์หลุมสิว, รักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด,รักษาหลุมสิวให้หายขาด,หลุมสิว,realclinic,drramita

อ้างอิง:
1. Sadick, N. S., & Manhas-Bhutani, S. (2018). "The Role of Dermal Fillers in Facial Scarring." Dermatologic Surgery, 44(2), 184-192.

2. Cohen, S. R., & Berner, C. F. (2015). "Injectable dermal fillers: Restoring youth by adding volume." Facial Plastic Surgery Clinics of North America, 23(4), 479-490.

3. Beer, K., & Beer, J. (2009). "Hyaluronic acid-based dermal fillers and their longevity in the treatment of facial rhytides." Journal of Clinical and Aesthetic Dermatology, 2(3), 18-22.

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้