Last updated: 1 พ.ย. 2567 | 1191 จำนวนผู้เข้าชม |
*หลุมสิว (Acne scar)
หลุมสิว คือรอยแผลเป็นชนิดหนึ่งในผู้ที่เป็นสิวนำมาก่อน มีการศึกษาพบว่าคนที่เป็นสิวจะเกิดรอยแผลเป็นหลุมสิวตามมาได้ถึง 95% แม้จะได้รับการรักษาสิวอย่างดีเพียงใดก็ตาม ก็อาจหลีกเลี่ยงการเกิดขึ้นของหลุมสิวไม่ได้ ซ้ำร้ายการเป็นหลุมสิวจะปรากฏร่องหลุมลึกที่มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยปัจจัยกระตุ้นจากแสงแดด มลภาวะ และอายุวัยที่มากขึ้น ซึ่งปัญหาการเป็นหลุมสิวนี้ ไม่ใช่แค่เกิดรอยแผลเป็นที่รักษายากเท่านั้น แต่บางครั้งยังกระทบต่อสภาวะความรู้สึกจิตใจของคนไข้เอง ทำให้สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง เกิดภาวะเครียด วิตกกังวล ไปจนถึงภาวะซึมเศร้า จนกระทบต่อคุณภาพชีวิต การเรียน และการทำงานได้เลยทีเดียว
หลุมสิวถือเป็นร่องรอยจากสิวที่รักษาได้ยากที่สุด ถ้าเทียบกับรอยสิวประเภทอื่นๆ เช่น รอยแดง รอยดำ ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน เราจะยังไม่สามารถทำให้ผิวที่เป็นหลุมสิว กลับมาเรียบเนียนเหมือนผิวเดิมปกติได้ 100% แต่เราก็สามารถทำให้ฟื้นฟูเนื้อเยื่อใหม่และเติมเต็มหลุมขึ้นมาได้ถึง 50-80%
หลักการสำคัญของการรักษาหลุมสิว คือ ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นใกล้เคียงผิวปกติมากที่สุด โดยเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์จากการรักษาที่น้อยที่สุด และคนไข้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติโดยเร็วที่สุด
*หลุมสิว เกิดขึ้นได้อย่างไร
หลุมสิว คือแผลเป็นจากสิวชนิดหนึ่ง เกิดจากกระบวนการอักเสบกัดกินเนื้อเยื่อคอลลาเจนลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว ทำให้เนื้อผิวในส่วนนั้นยุบตัวลง แต่เมื่อสิวและการอักเสบหายไป เนื้อผิวบริเวณนั้นกลับไม่ยอมสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ แต่กลับกลายเป็นพังผืดใต้ชั้นผิวขึ้นมาแทน ทำให้ผิวหน้าเกิดเป็นรอยหลุม ขรุขระ เป็นรู ดูไม่เรียบเนียน
*หลุมสิวมีกี่ประเภท
หลุมสิวแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
1.Ice pick scar หรือ หลุมสิวแบบจิกลึก คล้ายปากฉลาม มีลักษณะปากแผลแคบ ก้นแผลจิกลึกลงไปมาก เป็นชนิดที่รักษายากที่สุด
2.boxcar scars มีลักษณะคล้ายกล่องสี่เหลี่ยมตู้คอนเทนเนอร์ มีปากแผลกว้าง แต่ขอบแผลคม ชันเหมือนหน้าผา และก้นแผลมักตื้นกว่าแบบ icepick
3.rolling scar มีลักษณะปากแผลกว้าง ขอบแผลเป็นสโลปไม่ชัน ก้นแผลไม่ลึกมาก คล้ายแอ่งกะทะ เมื่อทดสอบด้วยการดึงผิวให้ตึง (stretch test) หลุมสิวจะดูตื้นขึ้นชัดเจน เป็นชนิดของหลุมสิวที่รักษาให้ดีขึ้นได้มากที่สุด
**โดยทั่วไป คนไข้มักจะมีหลุมสิวทั้ง 3 แบบนี้อยู่รวมกัน การรักษาจึงต้องใช้หลายวิธีผสมผสานกันจึงจะเห็นผลดีที่สุด
นอกจากนี้อาจยังแบ่งเป็นประเภทย่อยๆที่ละเอียดขึ้นไปได้อีก เช่น Icepick แบ่งเป็น Shallow Pit(หลุมจิกแบบตื้น) กับ Deep pit(หลุมจิกแบบลึก), Tethered Scar(หลุมลึกกว้าง มีผังผืดที่ก้นหลุมเกาะติดฝังแน่นกับเนื้อเยื่อชั้นลึกใต้ผิวหนัง)
*การแบ่งระดับความรุนแรงของหลุมสิว
- ระดับ 1 รอยเล็กน้อย (Macular disease) เป็นรอยดำ หรือรอยแดง เท่านั้น ยังไม่ปรากฏลักษณะของรอยหลุมชัดเจน
- ระดับ 2 เล็กน้อย (Mild disease) หลุมสิวไม่ลึกมาก มองเห็นหลุมไม่ชัดในระยะ 50 ซม. สามารถแต่งหน้าปกปิดได้
- ระดับ 3 ปานกลาง (Moderate disease) หลุมสิวที่ไม่สามารถแต่งหน้าปกปิดได้ แต่เมื่อทดสอบด้วยการดึงผิวให้ตึงแล้ว หลุมสิวดูตื้นขึ้น มองเห็นว่ามีรอยหลุมสิวในระยะห่าง 50 ซม. ขึ้นไป
- ระดับ4 รุนแรง (Severe disease) หลุมสิวที่ก้นแผลลึกและขอบแผลชันมาก มองเห็นว่ามีรอยหลุมสิวชัดเจนในระยะห่างตั้งแต่ 50 ซม. ขึ้นไป เมื่อทดสอบด้วยการดึงผิวให้ตึง หลุมสิวก็ไม่ตื้นขึ้น