ฉีดมาแล้วไม่เห็นผล? หมออธิบายชัด! ทำไม ฉีดฟื้นฟูหลุมสิว ถึงต่างจากการฉีดบำรุงทั่วไป

Last updated: 5 ส.ค. 2568  |  363 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ฉีดมาแล้วไม่เห็นผล? หมออธิบายชัด! ทำไม ฉีดฟื้นฟูหลุมสิว ถึงต่างจากการฉีดบำรุงทั่วไป

“หมอคะ หนูเคยฉีดตัวนี้มาแล้ว...แต่ไม่เห็นผลเลย?”
เป็นคำถามที่หมอได้ยินอยู่บ่อยๆ ค่ะ และคำตอบก็ไม่ใช่แค่ “เพราะตัวยาไม่ดี” เสมอไปนะคะ
ความจริงคือ...

ต่อให้ใช้ตัวยาดีแค่ไหน แต่ถ้าฉีด “ผิดเทคนิค” หรือ “ผิดจุด” ผลลัพธ์ก็อาจไม่ต่างจากการไม่ได้ทำเลยค่ะ โดยเฉพาะกับ “หลุมสิว” ที่ไม่ได้เกิดจากผิวแห้ง หรือขาดน้ำ แต่เกิดจากพังผืดที่ดึงรั้งอยู่ใต้ผิวอย่างลึก แม้จะใช้สารเดียวกัน แต่เป้าหมาย เทคนิค และชั้นผิวที่ฉีด ล้วนต่างกันโดยสิ้นเชิง
และทั้งหมดนี้…คือสิ่งที่ทำให้บางคน "ฉีดแล้วเห็นผล" กับอีกหลายคน "ฉีดแล้วไม่เปลี่ยนแปลง" 

การฉีดบำรุงผิวทั่วไป ≠ การฉีดฟื้นฟูหลุมสิว  หมอขออธิบายง่ายๆ แบบนี้นะคะ... หมออยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจว่า “การฉีดเพื่อฟื้นฟูหลุมสิว” กับ “การฉีดบำรุงผิวทั่วไป” จริงๆ แล้ว เป็นคนละเรื่องกันเลยค่ะ แม้จะใช้ตัวยาชนิดเดียวกัน แต่ถ้าเป้าหมายต่างกัน เทคนิคต่างกัน และความลึกที่ฉีดต่างกัน ผลที่ได้ก็จะต่างกันมากเช่นกันค่ะ

1. ตำแหน่งการฉีด (Depth & Plane): หัวใจของการรักษาที่แตกต่าง *

  • การฉีดบำรุงผิวทั่วไป: มุ่งเน้นไปที่การดูแลผิวใน ชั้นตื้น เช่น dermis (ชั้นกลางของผิว) หรือ superficial dermis (ชั้นผิวหนังแท้ส่วนบน) เป้าหมายหลักคือการเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง สดใส และกระจ่างใสขึ้น การฉีดในชั้นนี้จะช่วยให้ผิวชั้นบนดูดีขึ้นในระยะสั้น *
  • การฉีดฟื้นฟูหลุมสิว: จำเป็นต้องลงลึกถึง ชั้น deep dermis (ชั้นหนังแท้ส่วนลึก) หรือ subdermis (ชั้นใต้ผิวหนัง หรือบริเวณที่หลุมสิวเกิดการยุบตัว – collapse). เหตุผลคือ หลุมสิวไม่ได้เป็นปัญหาแค่บนผิวเผิน แต่เกิดจากการที่ผิวหนังถูก พังผืด ดึงรั้งลงไปในชั้นใต้ผิวหนัง และเกิดการ ขาดหายของคอลลาเจน อย่างมากในชั้นหนังแท้ การฉีดในชั้นที่ลึกกว่านี้ จะช่วยเข้าไป ซ่อมแซมโครงสร้างผิว ที่เสียหายจากการอักเสบของสิวในอดีต

2. เทคนิคตำแหน่งการวางตัวยา (Injection Pattern):

การฉีดบำรุงผิวทั่วไป: ส่วนใหญ่มักใช้เทคนิคการฉีดแบบ กระจาย ทั่วใบหน้า (Mesotherapy) หรือฉีดเป็นจุดเล็กๆ ตื้นๆ ทั่วบริเวณที่ต้องการ เพื่อให้ตัวยากระจายตัวและบำรุงผิวในวงกว้าง

การฉีดฟื้นฟูหลุมสิว: ต้องอาศัย เทคนิคเฉพาะ ที่แพทย์ผู้ทำการรักษาต้องมีความชำนาญ เพื่อให้ตัวยาเข้าไปทำงานได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ เทคนิคที่นิยมใช้ ได้แก่:

  • Cross-hatching / Fanning: เป็นการฉีดแบบสานเป็นร่างแห หรือแผ่เป็นรูปพัด เพื่อ เติมเต็มฐานของหลุมสิว ทำให้ผิวบริเวณนั้นค่อยๆ ยกตัวขึ้น
  • Tunneling: การฉีดโดยสอดเข็มเข้าไปใต้ผิวในแนวราบ ขนานกับชั้นผิว และปล่อยตัวยาออกมาขณะดึงเข็มออก เทคนิคนี้มักใช้เพื่อ คลายพังผืด ที่ดึงรั้งหลุมสิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในแนวใต้พังผืด
  • Perilesional Injection: การฉีดรอบๆ ขอบของหลุมสิว เพื่อ กระตุ้นคอลลาเจนบริเวณฐาน และช่วยให้ผิวโดยรอบหลุมสิวแข็งแรงขึ้น

 

3. เป้าหมายของการฉีด (Goals): บำรุงระยะสั้น vs. ฟื้นฟูระยะยาว

  • การฉีดบำรุงผิวทั่วไป: เป้าหมายหลักคือการ บำรุงผิว ให้ดูสดใส ชุ่มชื้น และเปล่งปลั่งขึ้นในระยะสั้น ผลลัพธ์มักจะเห็นได้ชัดเจนหลังการฉีด และอาจต้องทำซ้ำเพื่อคงสภาพผิว\
  • การฉีดฟื้นฟูหลุมสิว: เน้นไปที่การ ซ่อมสร้าง โครงสร้างผิวที่ถูกทำลาย ฟื้นฟูสภาพผิวใน ระยะยาว และกระตุ้นการทำงานของเซลล์ fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์สำคัญในการผลิต คอลลาเจนใหม่ ในบริเวณที่เกิดความเสียหายจากการอักเสบของสิว

 

4. ช่วงเวลาที่ฉีด (Timing): จังหวะที่เหมาะสมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การฉีดฟื้นฟูหลุมสิว จะได้ผลดีที่สุดเมื่อทำใน ช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากการรักษาหลุมสิว ด้วยวิธีอื่นๆ ที่ช่วยเปิดทางให้ตัวยาซึมซาบได้ดียิ่งขึ้น เช่น:

  • หลังการทำ Subcision: การเซาะพังผืดจะช่วยคลายการยึดรั้งของผิว ทำให้เกิดช่องว่างใต้หลุม การฉีดสารบำรุงในขั้นตอนนี้จะช่วยเข้าไปเติมเต็มและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในบริเวณที่พังผืดถูกคลายออก
  • หลังการทำ Microneedling RF: การทำ Microneedling จะสร้างช่องทางขนาดเล็กๆ (Micro-channel) บนผิว ทำให้สารสำคัญสามารถซึมลึกลงไปในชั้นผิวได้ง่ายขึ้น
  • หลังการทำ Laser Fractional: เลเซอร์จะสร้างความเสียหายขนาดเล็กๆ ที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน การฉีดสารบำรุงหลังเลเซอร์จะช่วยเสริมกระบวนการฟื้นฟูผิว
เพราะปัญหาหลักที่หมอเจอบ่อยคือ: ฉีด ตื้นเกินไป ไม่ได้ปลดพังผืดก่อน วางยา ไม่ตรงจุดฐานหลุม ใช้เทคนิคเหมือนฉีดบำรุงทั่วไป ไม่เข้าใจชนิดของหลุมสิว เช่น Ice pick ต้องวิธีนึง, Rolling ต้องอีกวิธีนึง

 

หมอขอสรุปแบบเข้าใจง่ายแบบนี้นะคะ

ผลลัพธ์ของการฉีด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวยาอย่างเดียวค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราฉีด ลึกแค่ไหน ฉีด อย่างไร และ เพื่ออะไร ด้วย” การฉีดฟื้นฟูหลุมสิว ไม่ใช่แค่เอาตัวยาดีๆ มาฉีดให้ทั่วหน้าแล้วจบ แต่มันคือการ “ปรับโครงสร้าง” “คลายพังผืด” และ “กระตุ้นคอลลาเจน” แบบลงลึกเฉพาะจุด ต้องใช้ความเข้าใจผิวของแต่ละคน เทคนิคการวางยาอย่างแม่นยำ และประสบการณ์ของแพทย์จริงๆ ค่ะ ถ้าใช้ตัวยาดี แต่ฉีดผิดเทคนิค วางผิดชั้น หรือไม่ได้ปลดพังผืดก่อน ต่อให้ทำกี่ครั้งก็อาจไม่เห็นผลเลย

เพราะฉะนั้น หมอจะเลือกทั้ง “เวลา” “จุดที่ฉีด” “เทคนิค” และ “ตัวยา” ให้เหมาะกับหลุมสิวของแต่ละคน ไม่ใช่สูตรสำเร็จตายตัวค่ะ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ ไม่ใช่แค่ผิวดูดีขึ้นภายนอก แต่คือการฟื้นฟูที่โครงสร้างภายในอย่างแท้จริง

— หมอรมิตา

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้