Last updated: 6 พ.ย. 2567 | 2851 จำนวนผู้เข้าชม |
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นอีกวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ เพราะ ในปัจจุบันยังไม่มีการรักษาหลุมสิววิธีอื่นใดที่ได้ผลเร็วเท่ากับการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งโดยปกติฟิลเลอร์จะถูกใช้ในการเติมร่องลึกให้ตื้นขึ้นได้ทันทีอยู่แล้ว ดังนั้นในหลุมสิวที่มีการยุบตัวลงไปของชั้นผิว จึงสามารถแก้ไขด้วยฟิลเลอร์ให้หลุมสิวนั้นตื้นขึ้นได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการใช้ฟิลเลอร์ฉีดแก้ไขแผลเป็นชนิดยุบตัว (Atrophic Scar) แบบอื่นๆ ทั้งที่หน้าและลำตัวได้ด้วย เช่น แผลเป็นอีสุกอีใส แผลเป็นจากอุบัติเหตุ แผลเป็นหลังการผ่าตัดศัลยกรรม
ถ้าแผลเป็นมีพังผืดถูกยึดตัวไว้กับโครงสร้างผิวข้างใต้ การแก้ไขจำเป็นต้องตัดพังผืดนี้ออกก่อนแล้วจึงฉีดฟิลเลอร์ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี และเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยากมากนัก แต่ต้องอาศัยทักษะฝีมือความชำนาญของแพทย์ผู้ทำหัตถการเป็นอย่างมาก
ฟิลเลอร์หลุมสิวจะให้ผลลัพธ์ที่ดีในทันที นอกจากนี้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คอลลาเจนที่ผิวเราเองจะถูกกระตุ้นจากกลไกการยืดตัวของไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast Stretching)ด้วยตัวฟิลเลอร์นี้เอง ซึ่งเป็นอีกคุณประโยชน์ของฟิลเลอร์ ที่ช่วยให้ผิวแผลเป็นที่บางลงถูกทำให้หนาขึ้นจากคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเอง
เห็นมีแต่การใช้ฟิลเลอร์เติมริ้วรอยร่องลึก สามารถเอามาใช้เติมหลุมสิวได้ด้วยจริงหรอ?
ฟิลเลอร์ถูกนำมาใช้เพื่อเติมเต็มร่องลึก รอยแผลเป็นในผู้ป่วยได้ทุกวัย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่มีแผลเป็นยุบหรือหลุมสิวเมื่อเวลาผ่านไป คือ เนื่องจากการสูญเสียปริมาตรตามปกติที่เกี่ยวข้องกับอายุที่มากขึ้น ชั้นกระดูกและเนื้อเยื่อเส้นเอ็นกล้ามเนื้อ รวมทั้งชั้นไขมันจะฝ่อตัวสลายไป ทำให้แผลเป็นหลุมสิวดูแย่ลงหรือเป็นมากขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งหมายความว่า แม้จะทำการรักษาผู้ป่วยที่มีแผลเป็นยุบได้อย่างเหมาะสมเพียงพอแล้ว แต่การสูญเสียปริมาตรของโครงสร้างผิวตามกลไกธรรมชาติ (Aging process: Age-related Volume loss)ดังกล่าว ก็ยังดำเนินต่อไป จึงควรรักษาภาวะเหล่านี้ร่วมด้วยอย่างต่อเนื่องเสมอ
เมื่อแผลเป็นหลุมสิวมีอายุมากขึ้น ริ้วรอยเหี่ยวย่นและร่องลึกแห่งวัย ก็จะก่อตัวขึ้นในแผลเป็นหลุมสิวนั้นด้วย การฉีดฟิลเลอร์เข้าไปพยุงไว้ใต้บริเวณหลุมสิว ถือเป็นการป้องกันไม่ให้ร่องลึกแห่งวัยเกิดขึ้นเร็วจนทำให้หลุมสิวดูรุนแรงขึ้น แต่ถ้าหากมีริ้วรอยร่องลึกอยู่แล้ว ก็ควรฉีดฟิลเลอร์แก้ไขและยกกระชับริ้วรอยแห่งวัยนั้นไปด้วย
การสูญเสียปริมาตรตามวัยของเนื้อเยื่อและชั้นกระดูกที่พยุงใบหน้าจากอายุที่มากขึ้น (Aging process: Age-related Volume loss)นั้น สามารถรักษาได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งจาก2วิธีนี้เท่านั้น คือ การฉีดฟิลเลอร์สารเติมเต็ม และการฉีดไขมัน
**กลุ่มเครื่องมือพลังงานเลเซอร์ ไม่สามารถทำให้เกิดการเพิ่มปริมาตรของโครงสร้างเนื้อเยื่อที่พยุงใบหน้าได้เลย
หากคนไข้มีอายุมากขึ้นแล้วมีปัญหาที่โครงสร้างพยุงผิวตามวัยร่วมด้วย การใช้สารเติมเต็ม เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและช่วยยกพยุงผิวหนัง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ผลลัพธ์ผิวหน้าโดยรวมดีขึ้นได้มากที่สุด ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดรอยแผลเป็นหลุมสิว
สารเติมเต็ม Filler มีบทบาทอย่างไรในการรักษาหลุมสิว?
ในการทำ Subcision ผ่าตัดพังผืด ร่วมกับการฉีดสารเติมเต็ม เป็นหัตถการอย่างหนึ่งที่มักจะให้ผลลัพธ์หลังการรักษาที่ชัดเจนและดีขึ้นในทันที อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับแผลเป็นหลุมสิวในแต่ละบุคคล ความรุนแรงของแผลเป็นจากสิว ปริมาณของพังผืด ตำแหน่งของเนื้อเยื่อแผลเป็น และความหนาของผิวหนังคนไข้ด้วย
ในการรักษาหลุมสิว สารเติมเต็ม Filler มีบทบาทดังนี้
หลักการสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ คือ ขั้นตอนการแก้ไขแผลเป็นหลุมสิวทั้งหมดนี้ จะอาศัยระบบภูมิคุ้มกันของคนไข้เองในการซ่อมแซมและสร้างคอลลาเจนใหม่ ในบางกรณีที่เนื้อเยื่อไขมันยุบฝ่อตัวลงเป็นบริเวณกว้างและลึกมาก ระบบภูมิคุ้มกันที่สร้างเนื้อเยื่อใหม่ด้วยร่างกายของคนไข้เอง จะไม่สามารถสร้างคอลลาเจนใหม่มาทดแทนตรงจุดนี้ได้เลย ดังนั้นจะเหลือทางเลือกเพียง 2 ทางคือ การฉีดเติมเต็ม ด้วยไขมัน กับการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ เท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม การฉีดไขมันตัวเองเพื่อเติมหลุมสิวนี้ ไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากประมาณการณ์หรือคาดเดาอัตราการติดได้ลำบาก การติดของไขมันที่ฉีดขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างมาก ไม่สามารถคาดการณ์ความแน่นอนที่จะติดได้
ฟิลเลอร์หลุมสิวต้องใช้ปริมาณมากแค่ไหน
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ในการฉีดเติมหลุมสิวในคนไข้แต่ละรายนั้นแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับโครงสร้างผิวเดิมของคนไข้ ลักษณะความลึกกว้างของหลุมสิว และข้อจำกัดของคนไข้แต่ละราย
แพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องทำการประเมินรอยแผลเป็นและตัดสินใจเลือกขนาดยาที่ดีที่สุดหลังจากซักประวัติและตรวจร่างกายผู้ป่วยแล้ว หากผู้ป่วยมีประวัติภาวะแทรกซ้อนจากฟิลเลอร์ผิวหนัง หรือหากมีงบประมาณจำกัด อาจต้องใช้ขนาดยาที่น้อยลงกว่ามาตรฐานในช่วงเริ่มต้น แล้วขยายระยะเวลาการรักษา จำนวนครั้งที่ทำมากขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว ในการหวังผลกระตุ้นคอลลาเจน มักจะเริ่มต้นด้วย HA Filler หรือ ฟิลเลอร์สกินบูสเตอร์ 1-3 cc หรือฟิลเลอร์กลุ่ม Biostimulator 1-2 โดส โดยอาจต้องทำการรักษาต่อเนื่องหลายครั้ง
ในส่วนของการเติมเต็มชั้นเนื้อเยื่อที่ยุบตัวลง ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้จะขึ้นกับลักษณะของหลุมสิว ว่ามีความกว้างลึกเพียงใด และต้องใช้มากน้อยเพียงใด
สรุป
การฉีดเติมเต็มหลุมสิว ไม่ว่าจะด้วยการใช้ฟิลเลอร์หรือสารฟื้นฟูเนื้อเยื่ออื่นๆ เป็นวิธีที่ทำให้หลุมสิวดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยเฉพาะในหลุมสิวประเภท Rolling scar และ boxcar scar บางประเภท
การฉีดเติมเต็มหลุมสิว หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้องโดยแพทย์ผู้ชำนาญ และเลือกใช้สารเติมเต็มหรือฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิว ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นฐานผิวของแต่ละบุคคลแล้ว ถึงแม้ว่าสารเติมเต็มนั้นจะสลายตัวหมดเมื่อเวลาผ่านไป แต่คอลลาเจนที่ถูกสร้างด้วยร่างกายคนไข้เองทั้งทางตรงและทางอ้อมยังคงอยู่ มากน้อยขึ้นกับชนิดของสารเติมเต็ม และพื้นฐานผิวเดิมตามกรรมพันธุ์ของคนไข้เอง
อย่างไรก็ตาม การเติมเต็มหลุมสิว เป็นหัตถการแพทย์ที่ต้องใช้ทักษะความชำนาญขั้นสูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์ทั่วไปเป็นอย่างมาก และมีโอกาสเกิดการอุดตันของเส้นเลือดได้ จึงควรได้รับการดูแลรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเห็นผลดีที่สุด
20 ก.ค. 2567