Last updated: 14 ต.ค. 2568 | 16 จำนวนผู้เข้าชม |
เพราะผิวของเราไม่เหมือนใคร การรักษาก็ไม่ควรเหมือนใครเช่นกัน Real Clinic by Dr.Ramita ผิวเอเชียแตกต่างจากผิวยุโรปและอเมริกาในหลายมิติ ตั้งแต่เม็ดสีผิว (melanin), ความหนาของชั้นหนังกำพร้า, ระบบหมุนเวียนเลือด, ไปจนถึงการตอบสนองต่อการอักเสบและการสร้างคอลลาเจน ผิวของคนเอเชียมีเม็ดสีมากกว่า ทำให้ ไวต่อการกระตุ้น ได้ง่าย ถ้าใช้พลังงานแรงเกิน, ทำถี่เกิน, หรือทำหัตถการซ้ำในระยะสั้น ผิวจะตอบสนองด้วยการอักเสบและสร้างเม็ดสีเกิน (PIH: Post-Inflammatory Hyperpigmentation) อีกทั้งยังมีแนวโน้มเกิดรอยแดง (PIE) หรือรอยคล้ำที่อยู่นานหลังทำ ขณะเดียวกัน ผิวเอเชียมีความหนาแน่นคอลลาเจนในชั้นหนังแท้สูงกว่า แต่มีหลอดเลือดในชั้นผิวน้อยกว่า การฟื้นตัวจึงช้ากว่า ต้องอาศัย ระยะพักระหว่างการรักษา เพื่อให้กระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่สมบูรณ์ หลุมสิวคือ ร่องรอยของการซ่อมแซมผิวที่ไม่สมบูรณ์หลังสิวอักเสบ เมื่อสิวลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้ ร่างกายรีบสร้างพังผืดขึ้นมาปิดแผล แต่พังผืดนี้กลับไปดึงรั้งผิวไว้ ทำให้ผิวบุ๋มลง ผิวของแต่ละคนอาจมีหลายชนิดผสมกันในหน้าเดียว เช่น แก้มเป็น rolling, ขมับเป็น boxcar, หน้าผากมี ice-pick ซึ่งแต่ละแบบต้องใช้เทคนิคเฉพาะ ไม่สามารถรักษาแบบเดียวกันได้ทั้งหน้า Rolling scar: หลุมลักษณะโค้งคลื่น เกิดจากพังผืดใต้ผิว ต้อง ปลดพังผืด (Subcision) ก่อน เพื่อให้ผิวยกขึ้น แล้วจึงเกลี่ยผิวรอบ ๆ ให้เรียบ Boxcar scar: หลุมขอบชัด มีทั้งแบบตื้นและลึก ถ้าตื้นสามารถใช้ FRM หรือเลเซอร์เกลี่ยผิวได้ แต่ถ้าลึกต้องแต้มกรด CROSS ที่ก้นหลุมก่อน Ice-pick scar: ปากแคบ ลึกเหมือนรูเข็ม ต้องใช้กรด TCA เข้มข้นแต้มเฉพาะก้นหลุมเพื่อให้ผิวสร้างเนื้อใหม่จากล่างขึ้นบน การรักษาหลุมสิวที่ได้ผล ต้องฟื้นจาก ฐานล่างขึ้นบน ไม่ใช่แค่ขัดหรือเกลี่ยผิวด้านบน เทคโนโลยี FRM (Fractional RF Microneedle) ใช้เข็มขนาดเล็กส่งพลังงาน RF ลงในชั้นหนังแท้โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน จึงปลอดภัยกว่าเลเซอร์ชนิดที่ใช้แสง และลดความเสี่ยงการเกิดรอยดำในผิวที่มีเม็ดสีมากอย่างคนเอเชีย RF จะกระตุ้นให้ fibroblast สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่โดยไม่ต้องอาศัยพลังงานความร้อนสูง เมื่อทำหลังขั้นตอน Subcision หรือ CROSS จะยิ่งเสริมให้ผิวแน่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายคนทำเลเซอร์ซ้ำ ๆ แบบเดิมมาหลายปีแต่ไม่เห็นผล เพราะการทำซ้ำโดยไม่เปลี่ยนแนวทาง จะทำให้ผิวเข้าสู่ภาวะ plateau คือ ไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นแล้ว ในขณะเดียวกัน ผิวที่ถูกทำถี่เกินหรือแรงเกินจะเหนื่อยและบางลง เมื่อผิวไม่ทันฟื้น คอลลาเจนก็หยุดสร้าง ผลคือ ไม่ดีขึ้น และอาจแย่ลง แพทย์ที่เข้าใจโครงสร้างผิวเอเชีย จะไม่เร่งทำทุกอย่างในครั้งเดียว แต่จะประเมินและวางแผนรักษาเป็นลำดับ เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นเต็มที่ เว้นช่วง 4-8 สัปดาห์ เพื่อให้ fibroblast สร้างคอลลาเจนใหม่ได้เต็มรอบ เพราะ การเว้นระยะที่พอดี คือหัวใจของการรักษาอย่างยั่งยืน ในต่างประเทศอาจใช้สารใหม่ ๆ เช่น exosome, stem-cell injectable, polynucleotide เข้มข้น ฯลฯ แต่หลายตัว ยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. ไทย จึงไม่ควรใช้โดยไม่มีข้อมูลความปลอดภัยชัดเจน ในไทย หมอจะเลือกใช้ตัวยาที่ผ่านการรับรอง เช่น PRP (Platelet-Rich Plasma), PDRN (Salmon DNA), Peptide, Growth Factor, Vitamin C ซึ่งช่วยฟื้นฟูผิว กระตุ้น fibroblast และลดการอักเสบโดยไม่ทำร้ายผิว หลังทำหัตถการ ผิวจะเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว ซึ่งเป็นเวลาที่คอลลาเจนเริ่มสร้างตัว ถ้าดูแลไม่ถูกจะเกิดรอยดำ หรือผิวฟื้นไม่เต็มที่ นี่คือสิ่งที่หมอเห็นบ่อยมากในคนไข้ที่มาจากที่อื่น พอรักษามาหลายรอบแต่ผิวกลับไม่ดีขึ้น บางครั้งยิ่งบุ๋มลึกกว่าเดิม เพราะ การรักษาผิดจังหวะ หรือเกินความจำเป็น จะทำให้ผิวอักเสบเรื้อรังและสร้างพังผืดใหม่ แม้เครื่องมือจะเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ต่างกันมาก เพราะ แพทย์คือคนที่แปลภาพผิวให้ออก และใช้เครื่องมือได้อย่างแม่นยำ อ่านต่อ: หลุมสิว ยิ่งรักษา ยิ่งแย่ลง จริงไหม? พันธุกรรม สิวอักเสบรุนแรง การบีบหรือแกะซ้ำ ๆ ความเครียด การนอนดึก หรืออาหารที่กระตุ้นสิว (น้ำตาลสูง นมวัว) ทั้งหมดนี้ทำให้ผิวอักเสบซ้ำและสร้างคอลลาเจนช้าลง บางคนผิวมีการตอบสนองของ fibroblast ต่ำกว่าคนอื่น จึงซ่อมแซมแผลได้ช้า หลุมสิวจึงเกิดง่ายกว่า ยิ่งรักษาสิวเร็วเท่าไร ยิ่งลดโอกาสเกิดหลุมในอนาคต การรักษาหลุมสิวไม่ใช่แค่หมอทำ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย หมอเป็นคนวางแผน ฟื้นฐาน และควบคุมเทคนิค คนไข้ต้องเป็นผู้ดูแลต่อเนื่องในช่วงฟื้นฟูหลุมสิว: หมอเล่าแบบเข้าใจง่าย ฉบับผิวเอเชีย
1) ทำไมผิวเอเชียถึงต้องมีแนวทางเฉพาะตัว
2) หลุมสิวไม่เหมือนกันทั้งหน้า และต้องรักษาต่างกัน
ตัวอย่าง:
3) ปลดเกลี่ยฟื้นฟู คือหัวใจของการรักษาหลุมสิว
4) ทำไม FRM / MNRF ถึงเหมาะกับผิวเอเชีย
5) ทำไมทำบ่อยแบบเดิมถึงไม่ดีขึ้น
6) การวางแผนรักษาแบบแพทย์เอเชีย
7) การเลือกตัวยาและพลังงานที่เหมาะกับผิวเอเชีย
8) หลังทำต้องดูแลจริงจัง
ข้อควรดูแล:
9) ทำไมบางคน ยิ่งรักษา ยิ่งแย่
10) ฝีมือแพทย์คือหัวใจของการรักษาหลุมสิว
11) ทำไมบางคนเกิดหลุมสิวง่ายกว่าคนอื่น
12) การรักษาที่ดีคือ การร่วมมือของหมอกับคนไข้
13) สรุปสุดท้าย
หลุมสิวไม่ใช่จุดจบของผิว แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูที่ถูกทาง