Last updated: 21 ก.ย. 2568 | 1194 จำนวนผู้เข้าชม |
คู่มือฉบับตำรา โดย คุณหมอรมิตา | อธิบายครบถ้วน ไม่ย่อ ไม่ข้าม: พยาธิกำเนิดของหลุมสิว, กลไก LiftBufferBiostimulation, เหตุผลที่ฟิลเลอร์สลายแต่ผลลัพธ์ยังคงอยู่, ทำไม Subcision + Filler จึงสำคัญ, อายุการคงตัวของฟิลเลอร์, คุณสมบัติด้าน Rheology, เทคนิคการเลือกตามชนิดหลุม, ภาวะแทรกซ้อน, โปรแกรมการรักษาแบบองค์รวม, พร้อมแหล่งอ้างอิงจากงานวิจัยระดับสากล
สิ่งที่หมอเขียนในบทความนี้ ไม่ใช่การมโน ไม่ใช่การโฆษณา แต่เป็นข้อมูลที่อ้างอิงจากวารสารทางการแพทย์และงานวิจัยจริง (เช่น Dermatologic Surgery, JCAD, PMC, Wiley Online Library) ที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า ฟิลเลอร์ไม่ได้แค่เติมวอลุ่มแล้วสลายไปเฉย ๆ แต่ยังทำหน้าที่ กันพังผืดติดซ้ำ และ กระตุ้นคอลลาเจนใหม่ ให้ผิวฟื้นฟูต่อเนื่อง ผลลัพธ์จึงอยู่ยาวกว่าตัวฟิลเลอร์เอง
คำถามที่หมอได้รับบ่อยที่สุดคือ ฉีดฟิลเลอร์เติมหลุมสิวได้ไหม? คำตอบคือ ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนเหมาะ หรือ ทุกหลุมควรฉีด การรักษาที่ให้ผลลัพธ์สวยและยั่งยืน ต้องอาศัยการคัดเลือกเคส การประเมินชนิดหลุมและพังผืด (tethering) การเลือกชนิดฟิลเลอร์/ชั้นฉีด/เทคนิคที่ถูกต้อง และจัดลำดับเครื่องมือที่สอดคล้องกับชีววิทยาการซ่อมแซมผิว ไม่ใช่การจิ้ม ๆ ฉีด ๆ แบบหว่านทั่วใบหน้า
หลุมสิว (Atrophic Acne Scar) ผลลัพธ์ของการอักเสบที่ทำลายคอลลาเจน และอีลาสตินในชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดพังผืดยึดรั้งผิวจนเกิดรอยบุ๋มลึก การรักษาหลุมสิวจึงท้าทายและต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน ในบรรดาวิธีเหล่านั้น ฟิลเลอร์ (Dermal Filler) ถือเป็นหนึ่งในหัตถการที่เห็นผลเร็วที่สุด เพราะสามารถเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้นได้ในทันที อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง แต่ข้อเท็จจริงคือ ไม่ใช่ว่าทุกหลุมสิวจะเหมาะกับฟิลเลอร์ และไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ผลลัพธ์เหมือนกันทั้งหมด
ในบทความนี้หมอจะอธิบายตั้งแต่พื้นฐาน ไปจนถึงรายละเอียดเชิงลึก เพื่อให้เข้าใจข้อดี ข้อจำกัด และความจริงที่ควรรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์หลุมสิว
โปรแกรมรักษาหลุมสิวที่ออกแบบขึ้นโดย Dr.Ramita ซึ่งเน้นการรักษาโดยวิธีหัตถการแพทย์เป็นหลัก (Non-Energy Based Acne Scar Revision) ด้วยเทคนิคของ Dr.Ramita ผสมผสานหลายวิธีการรักษาหลุมสิว เสริมด้วยการฉีดสารฟื้นฟู ร่วมกับฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้เกิด Skin Regeneration ฟื้นฟูหลุมสิวด้วยคอลลาเจนของตัวเราเอง เพิ่มเติมด้วยสารฟื้นบำรุงช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษาให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น ลดการบวมช้ำ พักหน้าน้อยลง อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
การรักษาหลุมสิวที่ คุณหมอรมิตา ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจาก Dr. Jin Se-hun (ดร.จิน ) การรักษานี้มุ่งเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนการ ฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเอง โดยใช้การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO) และกรดไฮยาลูโรนิกอนุภาคเล็ก (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ชั้นหนังแท้บริเวณที่มีปัญหา เช่น หลุมสิว ริ้วรอยร่องลึก หรือแผลเป็นเนื้อผิวยุบตัว กระบวนการนี้จะช่วยสร้างเนื้อเยื่อผิวคอลลาเจนในปริมาณมากให้ขึ้นมามาทดแทนผิวหนังที่เคยยุบเป็นหลุม ให้สามารถฟูตัวขึ้นมา ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เนื้อเยื่อใหม่ โดยไม่ทำลายโครงสร้างผิวหนัง หลังการรักษาประมาณ 3-5 วัน จะสังเกตเห็นการยกตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจนใหม่ที่ขึ้นมาช่วยลดเลือนแผลเป็นหลุมสิวความไม่เรียบเนียนของผิว อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
เลเซอร์เกลี่ยขอบหลุมสิว ใช้เพื่อปรับรายละเอียดที่หัตถการอย่างเดียวอาจทำได้ไม่ครบ ช่วยเกลี่ยขอบหลุมสิวให้เรียบ เติมเต็มผลลัพธ์ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และปรับพื้นผิวหน้าให้สม่ำเสมอและเรียบเนียนมากขึ้น เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว เหมาะกับการทำร่วมกับโปรแกรมรักษาหลุมสิวอื่นๆ เพื่อผลลัพธ์ที่เด่นชัดและยั่งยืน อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
หลุมสิว (atrophic acne scars) เกิดจากสิวอักเสบที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในหนังแท้ ขณะเดียวกันร่างกายซ่อมแซมไม่สมบูรณ์ จึงเกิด พังผืดดึงรั้ง (fibrotic anchoring/tethering) ยึดผิวลงไป ทำให้พื้นผิวทรุดเป็นหลุมถาวรบางส่วน ประเภทหลัก ได้แก่:
แนวคิดสมัยใหม่จึงเป็นการรักษาแบบผสมผสาน โดยยึดหลัก Release Replace Remodel Refine: ปลดพังผืด (subcision), เติม/ค้ำฐานหลุม (filler), กระตุ้นการรีโมเดลของผิว (fractional/RF/ชีววิธี), และเก็บรายละเอียดขอบหลุม เพื่อให้พื้นผิวเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
ใช้ทั้งแบบเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ เพื่อประเมินความรุนแรงและชนิดหลุมสิว ผูกโยงกับแนวทางหัตถการที่เหมาะสมในแต่ละระดับ ช่วยให้หมอคนไข้เห็นภาพเดียวกันตั้งแต่ก่อนเริ่มรักษา
ให้คะแนนเชิงตัวเลข แยกชนิดหลุม ความกว้าง ความลึก เพื่อติดตามเปอร์เซ็นต์การดีขึ้นเป็นตัวเลข (วัตถุวิสัย) ใช้คู่กับภาพถ่ายมาตรฐาน แสงเฉียง และในเคสวิจัยสามารถเสริมด้วยภาพ 3D/วิเคราะห์ปริมาตร
การมี baseline ที่แม่น ทำให้การอธิบายผลลัพธ์ไม่คลาดเคลื่อน และช่วยตัดสินใจการปรับแผนในรอบถัดไปได้ตรงจุด
Dermal filler คือสารเจลที่ฉีดลงไปในชั้นผิวเพื่อยกฐานหลุมให้กลับมาใกล้เคียงผิวรอบข้าง และในหลายกรณีทำหน้าที่กระตุ้นซ่อมแซมไปพร้อมกัน กลุ่มหลักที่ใช้กับหลุมสิว:
hyaluronidase
จึงเหมาะเป็น first-line ในเวชปฏิบัติHA โดยเฉลี่ยอยู่ราว 10-18 เดือน ขึ้นกับชนิดเจล/เรโอโลยี (G, tanδ, cohesivity), ชั้นฉีด, ตำแหน่ง, และการขยับใช้งานของบริเวณนั้น ๆ งานติดตามบางชุดด้วย MRI รายงานตรวจพบ HA ได้นานกว่านั้นในบางตำแหน่ง แต่การคงอยู่ในภาพ ไม่เท่ากับ แรงยกเท่าวันแรกเสมอไป (โครงสร้างผิวและชีวกลศาสตร์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา)
กลุ่ม biostimulator (CaHA/PLLA/PCL) โดยเฉลี่ยคาดหวังผล 12-24 เดือน โดยความยาวนานมักเกิดจากการเกิดคอลลาเจน/ECM ใหม่ มากกว่าตัวสารตั้งต้นเอง
ฟิลเลอร์ (โดยเฉพาะ HA) ทำหน้าที่ค้ำฐานหลุมในช่วงแรก และในระหว่างที่ฟิลเลอร์อยู่ใต้ผิว ไฟโบรบลาสต์ถูกยืด/ถูกกระตุ้น ให้สร้าง คอลลาเจนชนิด I/III จัดระเบียบ ECM ใหม่ ผลคือเกิดเนื้อเยื่อใหม่ของเราเองมาช่วยพยุงฐานหลุม พอฟิลเลอร์ค่อย ๆ สลาย เนื้อเยื่อใหม่ยังอยู่ จึงมักไม่ยุบกลับเท่าเดิม
ฟิลเลอร์สลายผลลัพธ์ไม่หาย เพราะระหว่างที่ฟิลเลอร์ยังอยู่ ทำหน้าที่กั้นและกระตุ้นผิวให้สร้างคอลลาเจน/ECMขึ้นใหม่ พอฟิลเลอร์หมด แต่โครงสร้างที่สร้างขึ้นมาใหม่นั่นช่วยค้ำฐานหลุม จึงไม่ยุบกลับเท่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อทำเป็นโปรแกรมและมีการ touch up ตามจุดทรุดตามธรรมชาติของการหายของแผล
Subcision คือการปลดเชือก หรือปลดพังผืดที่ดึงฐานหลุมให้ทรุดลง เมื่อปลดแล้วจะเกิดช่องว่างใต้ผิว หากปล่อยไว้มีโอกาส ยึดกลับ ในช่วงสมานแผล (2-8 สัปดาห์แรก) การเติม HA ทันทีใน plane ที่ปลดมา ทำหน้าที่:
ค่ารีโอโลยีเช่น G* (แรงยก/ความคงรูป), viscosity (η*), tan δ (สมดุลยืดหยุ่นหนืด), และ cohesivity (ความเหนียว/การยึดเกาะ) กำหนดพฤติกรรมของเจลในชั้นผิวจริง:
เลเซอร์แบบ fractional (CO/Er:YAG) และ microneedling RF ช่วยกระตุ้น remodeling ของผิว เก็บขอบหลุม และปรับเท็กซ์เจอร์ โดยเฉพาะใน rolling/boxcar การจัดลำดับที่พบบ่อยคือ พลังงานก่อน แล้วจึงเติม HA หรือหากต้องเติมก่อน ให้เว้นระยะก่อนทำพลังงานที่มีความร้อนลึก เพื่อไม่เร่งการเสื่อมของ HA
แนวคิดนี้สอดรับชีววิทยาการซ่อมแซม จึงให้ผลสม่ำเสมอและคงกว่าการทำวิธีเดียวจบ
ขึ้นกับชนิดหลุม ความกว้าง/ลึก บริเวณ ความหนาบางของผิว และเป้าหมายความเนียนโดยรวม หลักปฏิบัติที่ปลอดภัยคือ ค่อย ๆ เติม แล้วทบทวนผลที่ 4-8 สัปดาห์ เพื่อเลี่ยง overfill และสอดคล้องกับไทม์ไลน์การสมานแผล
ส่วนใหญ่ไม่ เพราะระหว่างที่ฟิลเลอร์อยู่ ผิวสร้างคอลลาเจน/ECM ใหม่ ทำให้ฐานหลุมแข็งแรงขึ้น แม้เจลจะบางลงก็ไม่ยุบเท่าเดิม โดยเฉพาะถ้าทำคู่กับ Subcision+Filler ที่กันยึดซ้ำและกระตุ้นคอลลาเจนไปพร้อมกัน
ไม่ทุกเคส แต่ rolling/anchored มักได้ผลดีกว่าเมื่อทำ subcision แล้วเติม HA ใน plane ที่ปลด เพื่อทำหน้าที่ spacer กันยึดซ้ำ
ได้ แต่ควรวางลำดับ/เว้นระยะให้เหมาะ เพราะความร้อนลึกบางชนิดอาจเร่งการเสื่อมของ HA หากทำใกล้กันเกินไป หลักทั่วไป: ทำ EBD ก่อน หรือเว้นช่วงหลังเติมตามชนิดเครื่องและชั้นฉีด
ฟิลเลอร์หลุมสิวคืออะไร?
ฟิลเลอร์คือสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปใต้ผิว เพื่อยกฐานหลุมสิวให้ตื้นขึ้น ดูเรียบเนียนขึ้นทันที
พอฟิลเลอร์สลายแล้ว หลุมสิวจะกลับมาเหมือนเดิมไหม?
ไม่จำเป็นต้องกลับมาเหมือนเดิม เพราะระหว่างที่ฟิลเลอร์อยู่ มันช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้โครงสร้างผิวดีขึ้นกว่าเดิม
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวเจ็บไหม?
เจ็บเล็กน้อย แต่แพทย์จะทายาชาหรือฉีดยาชาช่วย ลดความรู้สึกเจ็บได้มาก
ต้องใช้ฟิลเลอร์กี่ cc ?
ขึ้นกับจำนวนและความลึกของหลุมสิว โดยทั่วไปมักเริ่มที่ 1-4 cc และอาจต้องทำร่วมกับหัตถการอื่นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องพักฟื้นนานไหม?
แทบไม่ต้องพักฟื้น อาจมีรอยเข็มหรือรอยช้ำเล็กน้อย หายเองภายใน 1-2 วัน
ฟิลเลอร์กับเลเซอร์ อันไหนดีกว่ากัน?
ไม่สามารถเปรียบตรง ๆ ได้ เพราะทำงานต่างกัน ฟิลเลอร์ = เติมเต็มทันที, เลเซอร์ = กระตุ้นสร้างผิวใหม่ระยะยาว มักใช้ร่วมกันเพื่อผลที่ชัดเจนและยั่งยืน
ฟิลเลอร์ช่วยเรื่องคอลลาเจนได้จริงไหม?<!doctype html>ฟิลเลอร์หลุมสิวอยู่ไม่นาน แล้วหลุมสิวจะกลับมาไหม? | Real Clinic by Dr.Ramita
จริงค่ะ งานวิจัย (Yutskovskaya & Kogan, 2014) พบว่า Hyaluronic Acid filler กระตุ้น fibroblast ให้สร้าง collagen type I และ III เพิ่มขึ้นภายใน 6-8 สัปดาห์