"ฟิลเลอร์หลุมสิว" ทางเลือกใหม่ของการรักษาหลุมสิว เพื่อผิวเรียบเนียนดีขึ้นทันทีหลังทำ

Last updated: 8 ต.ค. 2568  |  4100 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รักษาหลุมสิว,ตัดพังผืด,รักษาหลุมสิว, วิธีรักษาหลุมสิว, Subcision, เติมฟิลเลอร์, Real Scar Synergy, รักษาหลุมสิวที่ไหนดี,Juvgen,acnescarsurgery,acnescarrevision,รักษาหลุมสิวให้ตื้น,เลเซอร์หลุมสิว, รักษาหลุมสิวที่ดีที่สุด,รักษาหลุมสิวให้หายขาด,หลุมสิว,realc

ฟิลเลอร์หลุมสิว คืออะไร ฟิลเลอร์อยู่ไม่นาน แล้วหลุมสิวจะกลับมาไหม? คำตอบจริงที่ควรรู้

คู่มือฉบับตำรา โดย คุณหมอรมิตา | อธิบายครบถ้วน : พยาธิกำเนิดของหลุมสิว, กลไก Lift,Buffer,Biostimulation, เหตุผลที่ฟิลเลอร์สลายแต่ผลลัพธ์ยังคงอยู่, ทำไม Subcision + Filler จึงสำคัญ, อายุการคงตัวของฟิลเลอร์, คุณสมบัติด้าน Rheology, เทคนิคการเลือกตามชนิดหลุม, ภาวะแทรกซ้อน, โปรแกรมการรักษาแบบองค์รวม, พร้อมแหล่งอ้างอิงจากงานวิจัยระดับสากล

สิ่งที่หมอเขียนในบทความนี้ เป็นข้อมูลที่อ้างอิงจากวารสารทางการแพทย์และงานวิจัยจริง (เช่น Dermatologic Surgery, JCAD, PMC, Wiley Online Library) ที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า ฟิลเลอร์ไม่ได้แค่เติมวอลุ่มแล้วสลายไปเฉยๆ แต่ยังทำหน้าที่ กันพังผืดติดซ้ำ และ กระตุ้นคอลลาเจนใหม่ ให้ผิวฟื้นฟูต่อเนื่อง ผลลัพธ์จึงอยู่ยาวกว่าตัวฟิลเลอร์เอง

สารบัญ
  1. โปรแกรมของ Real Clinic (RSS / Real Juvgen / เลเซอร์เกลี่ยขอบ)
  2. ฟิลเลอร์ใช้รักษาหลุมสิวอย่างไร
  3. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน
  4. ฟิลเลอร์สลายแต่ผลลัพธ์ยังอยู่
  5. วิธีประเมินหลุมสิวให้ตรงกัน
  6. ตัดพังผืด + ฟิลเลอร์ = Spacer/Buffer + Biostimulation
  7. บทบาทของฟิลเลอร์มากกว่า ตัวเติมเต็ม: Lift,Buffer, Biostimulate, Hydrate
  8. Rheology: เลือกเจลให้เข้ากับหลุม ไม่ใช่ให้หลุมเข้ากับเจล
  9. เทคนิคฉีดตามชนิดหลุม (Rolling/Boxcar/Icepick + แผนหลัง Subcision)
  10. ฟิลเลอร์ vs เลเซอร์/RF
  11. กลยุทธ์หลายด่าน: Release Replace Remodel Refine
  12. ข้อจำกัด ความจริง ความคาดหวัง
  13. ปริมาณฟิลเลอร์เท่าไรจึงพอ 
  14. ไม่ใช่ใครก็ฉีดได้ และไม่ใช่ทุกหลุมควรฉีด: เกณฑ์คัดเลือก
  15. Mini-FAQ
  16. แหล่งอ้างอิงวิชาการ
  17. เคสรีวิวหลุมสิว ของ Dr.Ramita

บทนำ: ความจริงใจที่อยากบอก ปูพื้นก่อนลงลึก

คำถามที่หมอได้รับบ่อยที่สุดคือ ฉีดฟิลเลอร์เติมหลุมสิวได้ไหม? คำตอบคือ ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนเหมาะ หรือ ทุกหลุมควรฉีด การรักษาที่ให้ผลลัพธ์สวยและยั่งยืน ต้องอาศัยการคัดเลือกเคส การประเมินชนิดหลุมและพังผืด (tethering) การเลือกชนิดฟิลเลอร์/ชั้นฉีด/เทคนิคที่ถูกต้อง และจัดลำดับเครื่องมือที่สอดคล้องกับชีววิทยาการซ่อมแซมผิว ไม่ใช่การจิ้ม ๆ ฉีด ๆ แบบหว่านทั่วใบหน้า

หลุมสิว (Atrophic Acne Scar) ผลลัพธ์ของการอักเสบที่ทำลายคอลลาเจน และอีลาสตินในชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดพังผืดยึดรั้งผิวจนเกิดรอยบุ๋มลึก การรักษาหลุมสิวจึงท้าทายและต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน ในบรรดาวิธีเหล่านั้น ฟิลเลอร์ (Dermal Filler) ถือเป็นหนึ่งในหัตถการที่เห็นผลเร็วที่สุด เพราะสามารถเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้นได้ในทันที อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง แต่ข้อเท็จจริงคือ ไม่ใช่ว่าทุกหลุมสิวจะเหมาะกับฟิลเลอร์ และไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ผลลัพธ์เหมือนกันทั้งหมด

ในบทความนี้หมอจะอธิบายตั้งแต่พื้นฐาน ไปจนถึงรายละเอียดเชิงลึก เพื่อให้เข้าใจข้อดี ข้อจำกัด และความจริงที่ควรรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์หลุมสิว

1) โปรแกรมรักษาหลุมสิวของ Real Clinic (RSS / Real Juvgen / เลเซอร์เกลี่ยขอบ)

Program Real Scar Synergy (RSS)

โปรแกรมรักษาหลุมสิวที่พัฒนาโดย Dr.Ramita ซึ่งเน้นการรักษาโดยวิธีหัตถการแพทย์เป็นหลัก (Non-Energy Based Acne Scar Revision)  ผสมผสานหลายวิธีการรักษาหลุมสิว เสริมด้วยการฉีดสารฟื้นฟู ร่วมกับฉีดก๊าซเข้าไปตัดพังผืดและไปกระตุ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิว เพิ่มเติมด้วยสารฟื้นบำรุงช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว เสริมประสิทธิภาพการรักษาให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น ลดการบวมช้ำ พักหน้าน้อยลง อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

Program Real Juvgen

การรักษาหลุมสิวที่ คุณหมอรมิตา ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจาก Dr. Jin Se-hun (ดร.จิน ) มุ่งเน้นในการกระตุ้นคอลลาเจนการ ฟื้นฟูผิวหนังด้วยตัวเอง โดยใช้การฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และกรดไฮยาลูโรนิกอนุภาคเล็ก (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ชั้นหนังแท้บริเวณที่มีปัญหา เช่น หลุมสิว กระบวนการนี้จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกาย สร้างเนื้อเยื่อผิวคอลลาเจนให้ขึ้นมามาทดแทนผิวหนังที่เคยยุบเป็นหลุม ให้สามารถฟูตัวขึ้นมา โดยไม่ทำลายโครงสร้างผิวหนัง หลังการรักษาประมาณ 3-5 วัน จะสังเกตเห็นการยกตัวของเนื้อเยื่อคอลลาเจนใหม่ ขึ้นมาช่วยลดเลือนแผลเป็นหลุมสิวความไม่เรียบเนียนของผิว อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

Program Laser Resurfacing

เลเซอร์เกลี่ยขอบหลุมสิว ใช้เพื่อปรับรายละเอียดที่หัตถการอย่างเดียวอาจทำได้ไม่ครบ ช่วยเกลี่ยขอบหลุมสิวให้เรียบ เติมเต็มผลลัพธ์ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และปรับพื้นผิวหน้าให้สม่ำเสมอและเรียบเนียนมากขึ้น เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว เหมาะกับการทำร่วมกับโปรแกรมรักษาหลุมสิวอื่นๆ เพื่อผลลัพธ์ที่เด่นชัดและยั่งยืน อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

 

2) ฟิลเลอร์คืออะไร และใช้รักษาหลุมสิวอย่างไร

Dermal filler คือสารเจลที่ฉีดลงไปในชั้นผิวเพื่อยกฐานหลุมให้กลับมาใกล้เคียงผิวรอบข้าง และในหลายกรณีทำหน้าที่กระตุ้นซ่อมแซมไปพร้อมกัน กลุ่มหลักที่ใช้กับหลุมสิว:

  • Hyaluronic Acid (HA) เห็นผลทันที ปลอดภัย โปรไฟล์ภาวะแทรกซ้อนระยะยาวต่ำ และ reversible ด้วย hyaluronidase จึงเหมาะเป็น first-line ในเวชปฏิบัติ
  • Biostimulators (เช่น CaHA, PLLA/Sculptra, PCL/Gouri) ให้ผลค้ำบางส่วนและกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว เหมาะบางชั้น/บางตำแหน่ง ต้องคัดกรองเคสและอธิบายการแก้ไขย้อนกลับที่ทำได้ยากกว่า HA
  •  PMMA (Bellafill) ในสหรัฐมีข้อบ่งชี้ FDA สำหรับ Acne scars บางชนิด แต่เป็นวัสดุถาวร-กึ่งถาวร จึงอาจมีผลข้างเคียงในระยะยาวได้มาก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในประเทศไทยยังไม่มีข้อบ่งชี้การใช้ตัวยานี้ในการรักษาหลุมสิว

3) ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน (และทำไม อยู่ได้นาน ผลเท่าวันแรก)

HA โดยเฉลี่ยอยู่ราว 10-18 เดือน ขึ้นกับชนิดเจล/เรโอโลยี (G, tanδ, cohesivity), ชั้นฉีด, ตำแหน่ง, และการขยับใช้งานของบริเวณนั้น ๆ งานติดตามบางชุดด้วย MRI รายงานตรวจพบ HA ได้นานกว่านั้นในบางตำแหน่ง แต่การคงอยู่ในภาพ ไม่เท่ากับ แรงยกเท่าวันแรกเสมอไป (โครงสร้างผิวและชีวกลศาสตร์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา)

กลุ่ม biostimulator (CaHA/PLLA/PCL) โดยเฉลี่ยคาดหวังผล 12-24 เดือน โดยความยาวนานมักเกิดจากการเกิดคอลลาเจน/ECM ใหม่ มากกว่าตัวสารตั้งต้นเอง

4) ฟิลเลอร์สลายแต่ผลลัพธ์ยังอยู่: กลไก, ไทม์ไลน์, เหตุผลทางชีววิทยา

สรุปให้คนไข้เข้าใจง่าย

ฟิลเลอร์ (โดยเฉพาะ HA) ทำหน้าที่ค้ำฐานหลุมในช่วงแรก และในระหว่างที่ฟิลเลอร์อยู่ใต้ผิว ไฟโบรบลาสต์ถูกยืด/ถูกกระตุ้น ให้สร้าง คอลลาเจนชนิด I/III จัดระเบียบ ECM ใหม่ ผลคือเกิดเนื้อเยื่อใหม่ของเราเองมาช่วยพยุงฐานหลุม พอฟิลเลอร์ค่อย ๆ สลาย เนื้อเยื่อใหม่ยังอยู่ จึงมักไม่ยุบกลับเท่าเดิม

Mechanotransduction Neo-collagenesis

  • Immediate lift: วันแรก ๆ ตื้นขึ้นจากแรงค้ำของเจล
  • สัปดาห์ 2-8: แรงกลจากเจลทำให้ไฟโบรบลาสต์แผ่ตัวตื่น สร้างคอลลาเจน I/III และ GAGs
  • เดือน 3-6: ผิวหนาแน่นขึ้น จากเนื้อเยื่อใหม่ + เจลส่วนที่ยังคงอยู่
  • หลังจากนั้น: แม้เจลลดลง แต่โครงสร้างใหม่ยังพยุงฐานหลุม ผลลัพธ์จึงยืนระยะ

ข้อความสั้นกันความเข้าใจผิด

ฟิลเลอร์สลายผลลัพธ์ไม่หาย เพราะระหว่างที่ฟิลเลอร์ยังอยู่ ทำหน้าที่กั้นและกระตุ้นผิวให้สร้างคอลลาเจน/ECMขึ้นใหม่ พอฟิลเลอร์หมด แต่โครงสร้างที่สร้างขึ้นมาใหม่นั่นช่วยค้ำฐานหลุม จึงไม่ยุบกลับเท่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อทำเป็นโปรแกรมและมีการ touch up ตามจุดทรุดตามธรรมชาติของการหายของแผล

5) ประเมินหลุมสิวอย่างไรให้ตรงกัน (Goodman & Baron / ECCA / ภาพ 3D)

Goodman & Baron Scale

ใช้ทั้งแบบเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ เพื่อประเมินความรุนแรงและชนิดหลุมสิว ผูกโยงกับแนวทางหัตถการที่เหมาะสมในแต่ละระดับ ช่วยให้หมอคนไข้เห็นภาพเดียวกันตั้งแต่ก่อนเริ่มรักษา

ECCA Score

ให้คะแนนเชิงตัวเลข แยกชนิดหลุม ความกว้าง ความลึก เพื่อติดตามเปอร์เซ็นต์การดีขึ้นเป็นตัวเลข (วัตถุวิสัย) ใช้คู่กับภาพถ่ายมาตรฐาน แสงเฉียง และในเคสวิจัยสามารถเสริมด้วยภาพ 3D/วิเคราะห์ปริมาตร

การมี baseline ที่แม่น ทำให้การอธิบายผลลัพธ์ไม่คลาดเคลื่อน และช่วยตัดสินใจการปรับแผนในรอบถัดไปได้ตรงจุด

6) ตัดพังผืด + ฟิลเลอร์ = Spacer/Buffer + Biostimulation

Subcision คือการปลดเชือก หรือปลดพังผืดที่ดึงรั้งฐานหลุม เมื่อปลดแล้วจะเกิดช่องว่างใต้ผิว หากปล่อยไว้มีโอกาส ยึดกลับ ในช่วงสมานแผล (2-8 สัปดาห์แรก) การเติม HA ทันทีใน plane ที่ปลดมา ทำหน้าที่:

  • Spacer/Buffer: คั่นไม่ให้พังผืดกลับมายึดซ้ำ
  • Support: ค้ำพยุงระดับฐานหลุมให้คงอยู่ในระดับใหม่
  • Biostimulation: กระตุ้นไฟโบรบลาสต์ให้สร้างคอลลาเจน/สร้างECM ระหว่างกระบวนการสมานแผล
ข้อดีเชิงคลินิกที่พิสูจน์ได้
  • ลดอัตราการยึดซ้ำในช่วงวิกฤตสมานแผล
  • เห็นผลทันที + ดีขึ้นต่อเนื่องจากการสร้างคอลลาเจน
  • เหมาะกับ rolling scars, tethered scars และ boxcar scars บางประเภท

7) บทบาทของฟิลเลอร์มากกว่า ตัวเติม: Lift,Buffer,Biostimulate,Hydrate

  • Immediate Lift: ยกฐานหลุม ลดเงาและการหักเหแสงที่ทำให้เห็นหลุมชัด
  • Buffer (หลัง Subcision): ทำหน้าที่คั่น ลดการยึดซ้ำของพังผืด
  • Biostimulation: กระตุ้นไฟโบรบลาสต์ คอลลาเจน/ECM ใหม่
  • Hydration & Elasticity (ใน HA): เพิ่มความชุ่มชื้น/ความยืดหยุ่น คุณภาพผิวโดยรวมดูแน่นและสุขภาพดี
  • Structural Support: พยุงค้ำจุนผิวในรายที่มี volume loss ใต้ผิวร่วมด้วย

8) Rheology: เลือกเจลให้เข้ากับหลุม ไม่ใช่ให้หลุมเข้ากับเจล

ค่ารีโอโลยีเช่น G* (แรงยก/ความคงรูป), viscosity (η*), tan δ (สมดุลยืดหยุ่นหนืด), และ cohesivity (ความเหนียว/การยึดเกาะ) กำหนดพฤติกรรมของเจลในชั้นผิวจริง:

  • รอยลึก/ต้องการแรงค้ำ เจล G สูง + cohesive ดี
  • รอยตื้น/ผิวบาง เจลไหลเนียนกว่า, tan δ สูงกว่า ปูบาง ๆ intradermal 
  • เจลเดียวรักษาทุกแบบ มักเพิ่มความเสี่ยง จับคู่ rheology × ชนิดหลุม × ชั้นฉีด × ตำแหน่ง คือหลักสำคัญ

9) เทคนิคฉีดตามชนิดหลุม (Rolling/Boxcar/Icepick + แผนหลัง Subcision)

  • Rolling : fanning/cross-hatching ใต้ฐานหลุม, micro-bolus, คุมแรงกดให้ผิวตึงแต่ไม่ปูด
  • Boxcar: เติมฐาน + feathering ขอบเพื่อให้ transition เนียน
  • Icepick: ฟิลเลอร์เดี่ยวๆไม่ใช่ตัวเอก ใช้ TCA CROSS/punch/laserเกลี่ยขอบ เบลอขอบหลุมก่อน แล้วค่อยปรับพื้นด้วย HA บาง/อ่อน
  • หลัง Subcision: เติมใน plane ที่ปลดมาเพื่อทำหน้าที่ spacer กันยึดซ้ำ
  • Needle vs Cannula: เลือกใช้ตาม plane/แผนที่หลอดเลือด; cannula ลดโอกาสทิ่มทะลุเข้าหลอดเลือด แต่ไม่ใช่ป้องกันได้ 100% ต้องอาศัยทิศทาง/แรง/ปริมาตร/ความชำนาญ/การเฝ้าระวัง

10) ฟิลเลอร์ vs เลเซอร์: จังหวะเวลาและการผสมผสาน

เลเซอร์ทั้งแบบ fractional และ focal ablative (CO/Er:YAG) รวมถึง microneedling ช่วยกระตุ้น remodeling ของผิว เกลี่ยขอบหลุม และปรับtexture โดยทั่วไปจะจัดลำดับทำกลุ่มพลังงานก่อน แล้วจึงเติม HA หรือหากต้องเติม HAก่อน ให้เว้นระยะแล้วค่อยทำกลุ่มเครื่องพลังงานที่มีความร้อนลึกตามทีหลัง

11) กลยุทธ์หลายด่าน: Release Replace Remodel Refine

  • เดือน 0: Subcision + เติม HA เฉพาะจุด (ทำหน้าที่ค้ำและคั่น)
  • เดือน 0-2: พิจารณา Biostimulator (คัดเลือกเคส) เพื่อเสริมคอลลาเจนระยะยาว
  • เดือน 3-4: Laser resurfacing/ Microneedling เพื่อรีโมเดลผิว และเก็บขอบหลุม
  • เดือน 4-8: Re-touch HA จุดที่ทรุดตามธรรมชาติตามวัย

แนวคิดนี้สอดรับชีววิทยาการซ่อมแซม จึงให้ผลสม่ำเสมอและคงทนกว่าการทำวิธีเดียวจบ

12) ข้อจำกัด ความจริง และความคาดหวัง

  • ไม่มีวิธีใดให้ผลถาวร: อายุ/UV/พฤติกรรม/กรรมพันธุ์/เครียด ทำให้ผิวเสื่อมตามเวลาอยู่แล้ว จำเป็นต้องดูแลต่อเนื่อง
  • ทำครั้งเดียวไม่พอ: ในหลุมสิวระดับกลางถึงหนัก ต้องวางแผน ติดตาม และปรับสภาพผิวต่อเนื่อง
  • เลเซอร์พลังงานเพิ่มปริมาตรผิวไม่ได้: หากมีภาวะ volume loss ใต้ผิวร่วมด้วย ต้องใช้สารเติมเต็ม
  • หลุมสิวไม่มีทางทำให้หายเหมือนไม่เคยเป็นมาก่อนได้ 100% แต่หมอสามารถช่วยให้หลุมตื้นขึ้น เรียบขึ้น และผิวดูดีขึ้นได้

13) ปริมาณฟิลเลอร์เท่าไรจึงพอ (ริเริ่ม ติดตาม ทัชอัพ)

ขึ้นกับชนิดหลุม ความกว้าง/ลึก บริเวณ ความหนาบางของผิว และเป้าหมายความเนียนโดยรวม หลักปฏิบัติที่ปลอดภัยคือ ค่อยๆ เติม แล้วติดตามผลที่ 4-8 สัปดาห์ เพื่อเลี่ยง overfill และสอดคล้องกับไทม์ไลน์การสมานแผล

  • หวังผลกระตุ้นคอลลาเจน: เริ่ม HA/skin booster 1-3 cc หรือ biostimulator 1-2 dose, ประเมินต่อเนื่องตามโปรโตคอล
  • เติมชั้นเนื้อเยื่อที่ยุบตัวลง: ปริมาณขึ้นกับความกว้าง/ความลึก/จำนวนหลุม ทำหลาย session ตามเหมาะสม

14) ไม่ใช่ใครก็ฉีดได้ และไม่ใช่ทุกหลุมควรฉีด: เกณฑ์คัดเลือก

  • เหมาะฉีด: หลุมแอ่งคลื่นเนื้อยุบ rolling, tethered, หลุม boxcar ที่ขอบไม่หนาคมมาก, หลุมแอ่งที่เลาะพังผืดแล้ว ผิวโดยรอบแข็งแรงพอพยุงวอลลุมได้
  • ไม่ควรฉีดเดี่ยวๆ: icepick ลึก/ปากแคบ ทำ TCA CROSS/punch/laser resurfacing ก่อน
  • คนไข้ต้องพร้อมรับโปรแกรม: ไม่ใช่หวังวิธีเดียวจบ ต้องพร้อมติดตาม ดูแลต่อเนื่อง และดูแลสุขภาพผิวร่วม
  • แพทย์ต้องชำนาญ: anatomy + rheology + เทคนิคละเอียดระดับมิลลิเมตร และรู้จังหวะการรักษาเมื่อไรควรถอย/เปลี่ยนวิธี
  • แพทย์ต้องใจเย็น ละเอียด ประณีต โฟกัสสมาธิสูง เพราะต้องฉีดทีละหลุมๆ ทั่วทั้งหน้า
  • ประเมินทีละหลุม ว่าหลุมไหนเหมาะ หลุมไหนไม่ควรฉีด
  • เทคนิคระดับมิลลิเมตร micro-dosing หลายจุด คุมชั้น/แรงมือ/ทิศทาง
  • ทำแบบ ทีละหลุม ทีละ micro-bolus/micro alliquot ประสบการณ์สูง มองมิติผิวโดยรวมและมิติรอยแผลเป็นหลุมสิวออก จึงจะสามารถวางตัวยาได้แม่นยำ
  • ข้อผิดพลาดที่ต้องหลีกเลี่ยง:
    • ลึกเกินไป: ไม่ดันฐานหลุม
    • ตื้นเกินไป: เสี่ยงเป็นก้อน/ผิวลอน/Tyndall
    • มากเกินไป: เป็นก้อน/ผิวนูน
    • น้อยเกินไป: ไม่เห็นผล
  • ความใจเย็นและเวลาทำ: เคสทั้งหน้าอาจต้อง “จุดฉีดหลายสิบถึงหลายร้อยจุด” ใช้เวลาไล่ระดับ–คุมแรง–ประเมินซ้ำตลอดขั้นตอน หมอที่ ไม่ใจเย็น/ไม่ชำนาญ มักเกิด over/under-correction ผลข้างเคียงได้ง่าย และแก้ไขภายหลังยากกว่า

15) Mini-FAQ

ฟิลเลอร์อยู่ 6-12 เดือน พอหมดแล้วผลจะหายไหม?

ส่วนใหญ่ไม่ เพราะระหว่างที่ฟิลเลอร์อยู่ ผิวสร้างคอลลาเจน/ECM ใหม่ ทำให้ฐานหลุมแข็งแรงขึ้น แม้เจลจะสลายไปก็ไม่ยุบเท่าเดิม โดยเฉพาะถ้าทำคู่กับ Subcision+Filler ที่กันยึดซ้ำและกระตุ้นคอลลาเจนไปพร้อมกัน

ต้องตัดพังผืดก่อนทุกเคสไหม?

ไม่ทุกเคส แต่ rolling/tethered มักได้ผลดีกว่าเมื่อทำ subcision แล้วเติม HA ใน plane ที่ปลด เพื่อทำหน้าที่ spacer กันยึดซ้ำ

หลังฉีดทำเลเซอร์/RF ได้ไหม?

ได้ แต่ควรวางลำดับเว้นระยะให้เหมาะสม เพราะความร้อนลึกบางชนิดอาจเร่งการเสื่อมของ HA หากทำใกล้กันเกินไป หลักทั่วไป: ทำ EBD ก่อน หรือเว้นช่วงหลังเติมตามชนิดเครื่องและชั้นฉีด

ฟิลเลอร์หลุมสิวคืออะไร?
ฟิลเลอร์คือสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปใต้ผิว เพื่อยกฐานหลุมสิวให้ตื้นขึ้น ดูเรียบเนียนขึ้นทันที

พอฟิลเลอร์สลายแล้ว หลุมสิวจะกลับมาเหมือนเดิมไหม?
ไม่จำเป็นต้องกลับมาเหมือนเดิม เพราะระหว่างที่ฟิลเลอร์อยู่ มันช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้โครงสร้างผิวดีขึ้นกว่าเดิม

ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวเจ็บไหม?
เจ็บเล็กน้อย แต่แพทย์จะทายาชาหรือฉีดยาชาช่วย ลดความรู้สึกเจ็บได้มาก

ต้องใช้ฟิลเลอร์กี่ cc ?
ขึ้นกับจำนวนและความลึกของหลุมสิว โดยทั่วไปมักเริ่มที่ 1-4 cc และอาจต้องทำร่วมกับหัตถการอื่นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องพักฟื้นนานไหม?
แทบไม่ต้องพักฟื้น อาจมีรอยเข็มหรือรอยช้ำเล็กน้อย หายเองภายใน 1-2 วัน

ฟิลเลอร์กับเลเซอร์ อันไหนดีกว่ากัน?
ไม่สามารถเปรียบตรงๆ ได้ เพราะทำงานต่างกัน ฟิลเลอร์ = เติมเต็มทันที, เลเซอร์ = กระตุ้นสร้างผิวใหม่ระยะยาว มักใช้ร่วมกันเพื่อผลที่ชัดเจนและยั่งยืน

ฟิลเลอร์ช่วยเรื่องคอลลาเจนได้จริงไหม?
จริงค่ะ งานวิจัย (Yutskovskaya & Kogan, 2014) พบว่า Hyaluronic Acid filler กระตุ้น fibroblast ให้สร้าง collagen type I และ III เพิ่มขึ้นภายใน 6-8 สัปดาห์

แหล่งอ้างอิงวิชาการ

  1. Yutskovskaya Y, Kogan E. Dermatology Research and Practice. 2014. (หลักฐาน in vivo ว่า HA กระตุ้น Collagen I/III & ECM; ผลชัดใน 6-8 สัปดาห์)
  2. Wollina U. Dermatology and Therapy (Heidelb). 2018. (ความหนาหนังแท้/คุณภาพผิวดีขึ้นระยะยาวแม้สารบางส่วนสลาย)
  3. Sadick NS, Manhas-Bhutani S. Dermatologic Surgery. 2018.
  4. Beer K, Beer J. J Clin Aesthet Dermatol. 2009. Kablik J.; Sundaram H.; Fundarò S.
  5. ACE Group/CMAC/JCAD consensus.
  6. Bellafill (PMMA) เอกสาร FDA/รีวิว JCAD: ข้อบ่งชี้ acne scars (US), ควรตรวจสถานะ อย.ไทยก่อนใช้
  7. รีวิว/แนวทาง EBD (fractional/RF) ร่วมกับฟิลเลอร์: ลำดับการทำ/การเว้นระยะเพื่อลดผลต่อ HA

หมายเหตุ: อ้างอิงฉบับเต็ม (เช่น PubMed/PMC/DOI) สามารถจัดทำเพิ่มในหน้า Reference ของคลินิก

subcision diagram filler injection abstract

Powered by MakeWebEasy.com